วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 4 ตอนที่ 10 อภิมหาสุสาน (The Largest Tomb)

เล่มที่ 4 ตอนที่ 10 อภิมหาสุสาน (The Largest Tomb)


เลเวลของวีดเกือบจะถึง 259 อยู่แล้ว ตอนที่กิลด์ มัฟรอส ประกาศกฎออกมา  มันช้ากว่าที่วีดคิดไว้ไปวันนึง
ค่า ธรรมเนียมในการล่าที่ดันเจี้ยนถูกปรับเพิ่มขึ้น 3 เท่า ชั้นที่ 3 และ ชั้นที่ 4 ของดันเจี้ยนถูกกันไว้ให้เฉพาะสมาชิกของกิลด์รุ่งโรจน์และกิลด์มัฟรอสเท่า นั้น  แรร์ไอเทมและยูนิคไอเทมทั้งหมดที่ผู้เล่นได้จากการล่าจะต้องขายให้กับกิลด์ มัฟรอสในราคาที่สมเหตุสมผล
“อะไรวะ?”
“เชรี่ย เอ้ย! สมเหตุสมผลกะตูดมันสิ! พวกมันคิดเองเออเองชัดๆว่าอะไรที่พวกมันเรียกว่าสมเหตุสมผล”
ช่วง แรกๆ ก็ไม่มีใครเต็มใจรับการบังคับใช้กฎนี้  แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ สุดท้ายหลังจากผ่านไป 2 วัน เรื่องพวกนี้ก็ซาลงไป  ในทวีปเวอร์เซลล์เป็นที่รู้กันว่าผู้มีอำนาจนั่นแหละคือผู้กำหนดกฎหมาย
รอบๆ ป้อมปราการโอดินเรียกได้ว่าไม่มีกิลด์ไหนจะแข็งแกร่งไปกว่ากิลด์รุ่งโรจน์ และพันธมิตรของพวกเขา  และเพราะพันธมิตรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการช่วยป้องกันป้อมโอ ดินในศึกที่ผ่านมา กิลด์รุ่งโรจน์จึงทำเป็นละเลยต่อพฤติกรรมที่ทำตามอำเภอใจของคนพวกนี้  แน่นอนว่าถ้าคุณไม่อยากถูกกลั่นแกล้ง ก็ต้องเข้าร่วมกับพวกเขาซะ
ทันทีที่ประกาศออกใช้ กิลด์มัฟรอสก็เริ่มเปิดรับสมาชิกที่หน้าทางเข้าดันเจี้ยนบัสเราะห์ พวกเขาสามารถดึงคนเข้าร่วมได้เป็นจำนวนมาก

**********************************

“ไว้วันหลัง พวกเราค่อยมาเก็บเลเวลด้วยกันอีกนะ”
“แล้วเจอกัน วีด!”
หลัง จากที่แยกกับ ฮวารยอง และ เซเฟอร์ วีด ก็ออกจากบัสเราะห์ และมุ่งหน้าไปปฏิบัติภารกิจของเขากับภาคีแห่งเฟรย่าซึ่งตั้งอยู่ภายในป้อม
“อะไรนำเจ้ามาสู่ที่นี่หรือ?”
วีดแสดงแหวนของหัวหน้านักบวชที่มือของเขาให้ดูเพื่อเป็นการตอบคำถาม
“ข้ามาที่นี่เพื่อใช้เทเลพอร์ทเกท”
“โอ! ท่านผู้กอบกู้ภาคีของเรา! พวกข้าหวังว่าซักวันนึงท่านจะมาที่นี่”
นัก บวชกุมมือของวีดทั้งสองข้างไว้พร้อมทั้งเขย่าเพื่อแสดงความปีติยินดี  เหล่าพาลาดินแห่งภาคีก็ออกมาเพื่อพบวีรบุรุษของพวกเขาเช่นเดียวกัน  นักบวชรูปหนึ่งอุทานด้วยความตื่นเต้น:
“ท่านผู้กอบกู้ วีด! เหล่านักบวชหญิงในวิหารแห่งนี้ต่างก็ต้องการพบท่าน  ไม่ทราบว่าท่านจะพอมีเวลาหรือไม่?”
วี ดพยักหน้าและถูกล้อมรอบโดยเหล่านักบวชหญิงที่งดงามในทันที  สาวกแห่งเฟรย่าเป็นผู้บูชาความงาม ดังนั้นเหล่านักบวชหญิงในวิหารจึงงดงามด้วยรูปร่างอ้อนแอ้นแน่งน้อย มีดวงตาที่กลมโตแวววาว และผิวขาวที่ขาวปานเย้ยหิมะ
เหล่า นักบวชหญิงอันงดงามต่างนอบน้อมสำรวมตนที่ได้พบและพูดคุยกับวีด พวกเธอพรมน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เขาพร้อมทั้งแยกย้ายกันไปด้วยความปรีดี

คุณได้รับการอำนวยพรจากเฟรย่า

พลังป้องกัน +26%

ความรวดเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 26%

คุณได้รับการปกป้องจากมนต์ดำจนกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์บนร่างจะระเหยไปจนหมด
ความ อดทนสูงขึ้น ค่าความอดทนที่สูงขึ้นสามารถนำมาใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นวัยรุ่น  คุณและคู่รักของคุณย่อมสามารถใช้เวลาที่น่าอภิรมย์ด้วยกันในการ … (TN : ดื่มน้ำชายามบ่ายด้วยกันไงครับ  อย่าคิดลึกเน้อ)


วีดปิดหน้าต่างข้อความลง
การ อำนวยพรจากเฟรย่านี้ก้าวล้ำไปกว่าการอำนวยพรทั่วๆ ไปที่ได้จากการบริจาค  แต่นั่นไม่ได้ทำให้วีดยินดีแต่อย่างใดเพราะผลของมันคงจะหมดไปก่อนเวลาที่ เขาจะต้องการใช้มันเสียอีก
“ช่วยนำทางข้าไปยังเทเลพอร์ทเกตด้วย”
“ด้วยความยินดี  เชิญทางนี้…”
นัก บวชค่อยๆนำทางเข้าไปยังส่วนลึกของวิหาร  มีผู้เล่นเพียงแค่ไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เทเลพอร์ตเกทได้ ดังนั้น วีด จึงไม่จำเป็นต้องรอคิวเลย
ผู้เฝ้ารักษาเกทถามขึ้น
“จุดหมายของท่านอยู่ที่ใด”
“อาณาจักรโรเซนไฮม์ ป้อมปราการแห่งเซราบอร์ก”
“ข้าจะเปิดเกทให้ท่าน ณ บัดนี้”
แล้ววีดก็ถูกดูดหายไปในแสงจากเกทนั้น

*************************************

“รับซื้อไอเท็ม!”
“มีใครจะออกไปล่าบ้าง ต้องการเมจ(mage)ร่วมทีม!”
“สุด ยอดนักแกะรอยอยู่ที่นี่! สามารถช่วยท่านหามอนสเตอร์ที่ท่านต้องการได้โดยใช้ประสาทการสูดกลิ่นของข้า  ท่านสามารถเลือกคู่ต่อสู้ของท่านได้ด้วยตนเอง!”
วี ด กลับมายืนอยู่ที่น้ำพุบริเวณจัตุรัสกลางเมืองอีกครั้ง  เขาต้องใช้เวลานับเดือนเพื่อเดินทางข้ามเทือกเขาบาคุไปยัง สมาพันธ์บริทิช  แต่ขากลับเขาสามารถมาถึงได้ในเสี้ยววินาที
อาณาจักรโรเซนไฮม์!
“นานแล้วสินะ นับจากที่เรามาที่นี่ครั้งสุดท้าย”   วีดกระซิบกับตัวเองหลังจากหันไปมองรอบๆ จัตุรัส
การ แต่งกายของผู้คนที่นี่ดูหลากหลายและมีสีสันมากขึ้น อาวุธของพวกเขาก็ดูใหม่และเปล่งประกาย  หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปจนวีด ไม่ได้รู้สึกว่าเขาได้กลับมายังบ้านของเขาแม้แต่น้อย
“วีด!”
เพล เซอร์กะ โรมุเนะ และ ไอรีน ต่างวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่แสดงความยินดี
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”  เซอร์กะ อุทานออกมาพร้อมทั้งเข้าสวมกอดวีดอย่างแนบแน่น
ไม่นาน โรมุเนะกับไอรีน ก็ตามเพื่อนมาและเกาะติดหนึบอยู่ด้านข้างของวีด
วีดซึ้งใจมากจนกระทั่งได้ยินคำพูดต่อมาของสาวๆ
“ไอรีน กับ โรมุเนะ ทำอาหารได้เลวร้ายมากเลย  ชั้นละอยากจะพบคุณอีกครั้งมากๆ เลย วีด!”
“เซอร์กะ!”
“ทักษะการทำอาหารของคุณ! คุณได้เพิ่มมันบ้างมั้ย? เร็วเข้า ช่วยทำอะไรๆ อร่อยให้เราหน่อยเถอะนะ … ได้โปรดเถอะ!”
“…”

การ ที่สาวๆ เข้ามาหาเขา ที่แท้ก็เป็นเพราะการทำอาหารอันเยี่ยมยอดของเขานั่นเอง  เซอร์กะไม่สามารถลืมเลือนรสชาติอาหารของเขาได้ เลยยังเฝ้ารอวันที่พวกเขาจะได้พบกันอีกครั้งอย่างอดทน
พอเข้าใจสถานการณ์แล้ววีดก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย ยังไงซะมันก็เป็นการพบกันครั้งแรกของเขากับเพล และสาวๆ หลังแยกจากกันที่ลาเวียส
‘พวก เขาใสบริสุทธิ์จริง… ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่มีคนที่ไม่ได้ไล่ตามเงินอย่างพวกเขาและยังยอมรับใน ตัวตนที่เราเป็น ช่างคุ้มค่าจริงๆ…’
วีด ส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้เพื่อนๆ พร้อมทั้งนำอุปกรณ์ทำอาหารออกมา
“งั้น เดี๋ยววันนี้ผมจะทำหมูชุบแป้งทอดให้กินกัน”
“เย้!”
วี ดประกอบอาหารอย่างสุดฝีมือให้เพื่อนผู้หิวโหยของเขาแต่ละคน  ภายในเวลาไม่ถึงนาทีอาหารในจานของพวกเขาก็หมดเกลี้ยง เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้วพวกเขาค่อยหันมาสนใจวีด  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะส่งข้อความกระซิบหากันบ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากันหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้นพวกเขาจึงอยากฟังเรื่องราวการผจญภัยของวีดจนแทบจะลงแดงตายแล้ว
วีด ทำอาหารเพิ่มให้กับทุกคนแล้วจึงเริ่มเล่าเรื่องการเดินทางของเขาอย่างสบายๆ
“เอ๋! เด็กสาวที่งดงามที่สุดถูกสาปให้กลายเป็นหินงั้นเหรอ?? ชั้นหวังว่าชั้นจะได้มีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองซักครั้ง”
ไอรีนเป็นพรีส เธอจึงรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการปลดปล่อยโมราต้าให้เป็นอิสระ
“แย่ จังที่ตอนนั้นเลเวลของชั้นต่ำเกินไป  แต่ตอนนี้คุณเชื่อมือชั้นได้เลย วีด! ด้วยเลเวล 220 นี่แหละ ชั้นจะเป็นคนช่วยคุณเอง  ชั้นว่าคุณต้องกำลังจะออกล่าเร็วๆ นี้แน่เลยใช่มั้ย”
“ขอบคุณนะ แล้วผมจะไม่ลืมแน่นอนครับ”  วีด กล่าว
“โอ้!”  เพลร้องเสียงดังออกมาเมื่อนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้  “ พวกเราคุยกับเมแพนบ่อยๆ  เค้าช่วยให้คำแนะนำพ่อแม่ของชั้นเยอะเลย  แถมยังคอยป้อนสินค้าให้ร้านพวกเค้าด้วย  เค้าบอกว่า คุณไปล่าในดันเจี้ยน บัสเราะห์ พร้อมกับ ฮวารยองนี่”
“ใช่แล้วล่ะ”
“งั้น เลเวลของคุณตอนนี้ก็ …”
มันชัดเจนมากที่เพลเป็นกังวลในเรื่องนี้  เขายังไม่ทันถามจบประโยคด้วยซ้ำ  วีดก็มองตรงไปทางเขาแล้วตอบอย่างไม่ปิดบังว่า
“259.”
“…..”
“…..”
“ชิ!”    เซอร์กะถลึงตาอย่างโกรธเคืองใส่วีดด้วยความอิจฉา พร้อมทั้งขยับตัวออกห่างจากเขา
ในตอนนั้นเอง ราชองครักษ์ (royal guards) ได้ปรากฎกายขึ้นที่จัตุรัสและได้เข้ามารายล้อมวีด เพล และ สองสาวเอาไว้
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“คนพวกนี้ต้องเป็นอาชญากรแน่ๆ เลย”  เสียงซุบซิบเริ่มแพร่ไปทั่วกลุ่มผู้เล่นรอบๆ จัตุรัส
นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ดังนั้นจึงมีผู้เล่นที่สงสัยในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“หรือว่า …”
“วีด คุณได้ไปฆ่าใครมาหรือเปล่า”
เพล โรมุเนะ และ ไอรีน ที่กำลังงุนงงต่างมองไปที่วีดผู้กำลังงุนงงไม่น้อยไปกว่ากัน
“อืม… ผมคิดว่าผมไม่ได้ไปทำความผิดอะไรในโรเซนไฮม์นี่นะ … ”
เขา ทบทวนความทรงจำของตนเอง  แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่านี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง  เหล่าทหารที่ล้อมรอบเปิดทางให้ชายในชุดอัศวินคนหนึ่งก้าวออกมา  ชายคนนั้นถามออกมาด้วยเสียงอันดังว่า
“ใครในกลุ่มพวกท่านคือ ช่างแกะสลัก วีด”
“นั่นคือข้าเอง  แต่…”
วีดตอบรับอย่างระมัดระวัง
“องค์กษัตริย์มีประสงค์จะพบท่าน  ขอเชิญท่านมากับข้าด้วยเถิด …”
บัญชา จากองค์กษัตริย์ทำให้วีด ประหลาดใจยิ่งนัก  เขาไม่เคยคาดฝันว่าจะได้พบ กษัตริย์ ธีโอดาเรน (King Theodarren) เป็นการส่วนพระองค์มาก่อน
“เขาโชคดีจัง! เร็วเข้า พวกเรามาถ่ายรูปกันเถอะ”
เสียงแชะๆ ดังมาจากทั่วทิศทาง แสดงให้เห็นถึงฝูงชนที่กำลังถ่ายรูปเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่
“ดูสิ   เป็นองค์กษัตริย์เองที่มีพระราชประสงค์ที่จะพบชายคนนั้น! เฮ้  ไปตามคนอื่นๆมาที่นี่ เร็ว!”
จัตุรัส เนืองแน่นไปด้วยฝูงชนในเสี้ยววินาที  ทุกคนต่างพยายามเข้าไปใกล้ใจกลางจัตุรัสให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  บ้างก็อยากเห็นวีด  บ้างก็อยากได้ยินว่าอัศวินพูดอะไร
มัน ก็มีบางครั้งที่ชนชั้นสูงได้ทำการเชื้อเชิญเหล่านักผจญภัย แต่โดยมากแล้วจะเป็นระดับ บารอน(Baron) หรือ เอิร์ล (Earl)เป็นอย่างมาก  แต่นี่เป็นกษัตริย์ ธีโอดาเรน เองที่ได้เชิญผู้เล่นที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งไปเข้าเฝ้า!
ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเท่าไร    วีดถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ถ้าเขาทำความผิดทางอาญาจริง  พวกทหารคงจะตรงเข้ามาจับตัวเขาไปขึ้นศาลหรือเข้าคุกไปแล้วโดยไม่เสียเวลามาพูดคุยกับเขา
“ไม่ทราบข้าพอจะทราบได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องใด?”    วีดถามอย่างระมัดระวัง
ฟันเฟืองในหัวของเขาหมุนติ้วเร็วเป็น 12 เท่าจากปกติ  วีดกำลังประเมินสถานการณ์และคำนวณถึงผลประโยชน์ที่เป็นไปได้
“ข้า เชื่อว่าองค์กษัตริย์มีคำขอร้องมอบให้แก่เจ้า  ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกนะ เจ้าจะได้รับคำตอบทุกอย่างที่ราชวัง”    อัศวิน ตอบกลับมา
วี ด ยังคงนิ่งอยู่  ทว่าฝูงชนที่ออกันอยู่ ณ  จัตุรัสต่างส่งเสียงเอะอะอึกทึก! ผู้คนที่รายล้อมต่างถ่ายทอดคำพูดของอัศวินต่อๆ กันไปยังคนที่อยู่ห่างออกไปด้วยความตื่นเต้น
“พวกเขาว่ากันว่าอัศวินคนนั้นนำคำขอร้องจากองค์กษัตริย์มา!”
“นี่เป็นเควสเหรอ?”
“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ”
สาย ตาที่มีทั้งความอิจฉา  ริษยา รวมถึงการจ้องอย่างข่มขู่ต่างมุ่งตรงไปที่วีด  ไม่มีใครในโลกนี้หรอกที่จะไม่อิจฉาความสำเร็จของผู้อื่น
วี ด ตอบรับคำที่จะไปพบกษัตริย์พร้อมทั้งมองไปรอบๆ  ทั้งจัตุรัสต่างเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่เขาก็ยังไม่ลืมภารกิจที่ได้รับมาจากภาคีแห่งเฟรย่าซึ่งเห็นอยู่ ณ ที่ไกลตาออกไป
“ก่อนที่ข้าจะไปพบองค์กษัตริย์  ข้าต้องการจะไปยังภาคีแห่งเฟรย่าก่อน  ไม่ทราบจะได้หรือไม่”
“แน่นอน พวกเราจะคุ้มกันท่านไปยังที่นั่นเอง”

******************************************

ใน เส้นทางแห่งราชันย์ หน่วยงานทางศาสนาและราชการต่างพยายามที่จะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน  นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมวีดจึงได้รับอนุญาตให้ไปยังภาคีแห่งเฟรย่าก่อนที่จะ ไปยังพระราชวัง
“พวกเรายินดีต้อนรับท่านวีรบุรุษ ผู้ซึ่งกำลังจะเดินทางไปยังทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวังในแดนไกล”
เจ้า หน้าที่ระดับสูงสุดได้มาต้อนรับ วีด ด้วยตนเอง  ยามที่เขานำสมบัติศักดิ์สิทธิ์กลับคืนสู่ภาคีแห่งเฟรย่านั้น  มันได้ช่วยเพิ่มค่าการจูงใจ (influence) ให้แก่เขา  นั่นส่งผลให้ไม่ว่าตอนนี้เขาไปที่ใดก็จะเป็นที่รู้จักใน ภาคีแห่งเฟรย่า
อัศวิน และทหารที่ให้ความคุ้มครองหยุดรออยู่หน้าประตูเพื่อรอเขากลับออกมา เนื่องด้วยตอนนี้วีด ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของเหล่าพาลาดินและพระแล้ว
วีด มุ่งเข้าประเด็นที่เขาสนใจในทันที
“อย่างแรก  ข้าต้องการรู้เรื่องทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวังให้มากกว่านี้”
“ข้า ต้องเสียใจอย่างสุดซึ้ง  ทว่าความรู้ของพวกเราในเรื่องนี้จำกัดเป็นอย่างยิ่ง  ทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวังเป็นที่อยู่อาศัยของมอนสเตอร์พวกยักษ์และเผ่า พันธ์ออร์ค (Orc) อันป่าเถื่อน  ซึ่งมักจะมีสงครามระหว่างกันอยู่เสมอ  มีมนุษย์อาศัยอยู่บ้างแต่เกือบทั้งหมดได้อพยพหลบหนีไปหมดแล้วเนื่องด้วย ความยากลำบากที่จะเอาตัวรอดที่นั่น  นอกจากนี้ยังมีพวก ดาร์คเอล์ฟ (dark elves) อาศัยอยู่ด้วย  แต่พวกเราก็ไม่ทราบโชคชะตาของพวกเขา เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะตายไปหมดสิ้นแล้วในตอนนี้”
“…”
“พวก เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ณ ที่แห่งใดใน ทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวังกันแน่ที่เหล่า เนโครแมนเซอร์ซึ่งบูชา บัลข่าน อาศัยอยู่  ท่านคงต้องหาตำตอบเรื่องนี้ด้วยตัวท่านเอง”
ช่างยอดเยี่ยมซะจริง! (ประชด)  เป็นถึงเควสความยากระดับ  ‘B’  แต่ชั้นต้องมาค้นหารายละเอียดพวกนี้เอง!
วี ดมองเหล่านักบวชด้วยความไม่พอใจ  ในการทำเควสระดับ B ที่เมือง โมราต้า เขาเกือบจะตายไปหลายครั้ง แต่ตอนนั้นเขาก็ยังมีพาลาดิน 300 คน และนักบวชอีก 100 รูปใต้บังคับบัญชา!
“งั้นข้าจะได้กองทัพจำนวนเท่าไรในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้?”
นักบวชผู้ซึ่งหวาดกลัวกับใบหน้าที่โกรธขึ้งของวีด ตอบมาอย่างงุนงง
“พวกเราเตรียมนักบวชไว้ 50 รูป”
“50 รูป?!”
“ถูก ต้อง  พาลาดินทั้งหมด และนักบวชที่เหลือต่างกำลังยุ่งกับการเผยแพร่ศรัทธาของพวกเราไปยังพื้นที่ ห่างไกลของประเทศนี้  ดังนั้นเมื่อท่านพร้อมเมื่อไหร่  พวกเราก็จะเปิดเทเลพอร์ทเกตให้ท่านใช้ได้ในทันที”
ไม่ใช่ทั้งพาลาดิน  ไม่ใช่ทั้งพระ  แต่เป็นนักบวช!
ชั่ว ขณะหนึ่ง วีด รู้สึกราวกับเขากำลังจมน้ำอยู่  แต่มันเร็วเกินไปที่เขาจะยอมแพ้! เควสที่เมือง โมราต้า ก่อนหน้านี้ก็ดูจะไม่มีทางทำได้เหมือนกัน  แต่เขาก็ทำมันสำเร็จได้
เมื่อได้รับข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการแล้ว  วีด ผู้ผิดหวัง ก็กลับไปหาทหารที่รออยู่ที่ทางเข้า

******************************************

“นั่นเค้ากำลังจะไปที่พระราชวังจริงๆ ด้วย!”
“เค้ากำลังจะไปเข้าเฝ้าองค์กษัตริย์!”
พวกกลุ่มคนที่มามุงต่างพากันตามกองกำลังคุ้มกันไปตลอดทาง  อย่างไรก็ดีเมื่อมาถึงพระราชวังเหล่าฝูงชนก็ถูกกันไว้โดยเหล่าราชองครักษ์
อัศวินผู้หนึ่งนำทางวีดเข้าไปยังท้องพระโรง  แน่นอนว่าวีดไม่พลาดที่จะชื่นชมการตกแต่งของพระราชวังระหว่างที่เขาเดินทาง
คุณได้ชมผลงานจิตรกรรมฝาผนังของ เบโอดาร์ท (Beodart)
ค่าศิลปะ +1

คุณเพลิดเพลินใจไปกับชุดผลงาน อัศวินพิทักษ์กษัตริย์
ค่าศิลปะ +2

คุณค้นพบเซ็ทไตรศาสตราของบาลานซ์
ค่าศิลปะ +1

การได้ชื่นชมศิลปะอันงดงามนั้นให้ผลไม่ต่างอะไรกับการสร้างมันขึ้นมาเอง!
ค่า สถานะทางศิลป์ของเขาเพิ่มขึ้นเพียงเพราะเขาได้ชื่นชมผลงานสร้างสรรค์ของผู้ เชี่ยวชาญท่านอื่น  อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่หนทางที่จะใช้ในการเพิ่มค่าศิลป์ไปได้เรื่อยๆ  เมื่อได้ก็ตามที่คุณได้เห็นผลงานที่คุณภาพต่ำกว่าที่คุณเคยเห็นมาก่อน คุณก็จะไม่ได้รับโบนัสนี้
ภายในพระราชวังมีงานศิลปะมากมายที่ได้ปรากฎแก่สายตาของวีดซี่งได้ช่วยเพิ่มค่าสถานะทางศิลป์ของเขาไปถึง 30 แต้ม
“ข้า แต่องค์ ธีโอดาร์เรนผู้ปกครองโรเซนไฮม์ พระผู้ทรงพระเมตตาและเปี่ยมด้วยราชธรรม  ข้าพระองค์ได้นำ นักเดินทาง วีด มาเข้าเฝ้า พระเจ้าข้า”
การทัศนาจรของเขาจบลงที่ท้องพระโรง
องครักษ์ที่นำวีดมายังที่นี้ได้คุกเข่าลงก่อนที่เขาจะพูดขึ้น  นั่นทำให้วีด ต้องพยายามเลียนแบบการกระทำนั้น
เหล่า ขุนนางและองครักษ์คนอื่นๆ ต่างยืนล้อมเป็นรูปครึ่งวงกลมเบื้องหน้าบัลลังค์ที่องค์ธีโอดาร์เรนประทับ อยู่ องค์กษัตริย์ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก  พระพักตร์ของพระองค์ดูอมโรคและปรากฎเป็นจุดดวงเหลืองขึ้นที่ดวงพระเนตร
(ผู้แปล : จุดดวงเหลืองเป็น ส่วนของจอตาที่ไวต่อแสงมากที่สุด  เป็นบริเวณที่มีสีเหลือง อยู่ตรงข้ามกับเลนส์ตา)
“เจ้าคือ วีด งั้นรึ”    ธีโอดาร์เรนตรัสถามด้วยพระสุรเสียงอันกังวาลและเปี่ยมไปด้วยอำนาจ
“ใช่แล้ว พระพุทธเจ้าข้า”
“ข้าเชิญเจ้ามาก็เพื่อที่จะ … อุ่ก แค่กๆๆ …”
องค์ กษัตริย์ทรงกระอักออกมาเป็นโลหิต เหล่าองครักษ์และข้าราชบริพารต่างกรูเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ  ทว่าพระองค์ได้ทรงโบกพระหัตถ์ห้ามเอาไว้
“ข้ารู้อาการเจ็บป่วยของตัวเองดี  พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป  เจ้ามีอาชีพเป็น ประติมากรแสงจันทร์อย่างนั้นรึ?”
“ใช่แล้ว พะย่ะค่ะ”
“ประติมากรแสงจันทร์  อืมม ช่างเป็นอาชีพที่คุ้นเคยนัก พระราชมารดาของข้ามีพระสหายที่สนิทคนหนึ่งนามว่า ซาฮัป”
“พระองค์!”
เหล่าขุนนางต่างวิตกในสิ่งที่องค์กษัตริย์ตรัส  ทว่าพระองค์ยังทรงตรัสต่อไป
“พวกเจ้าทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วแม้ข้าจะไม่พูดออกมา  หรือว่าไม่จริง?”
“…”
“มัน ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง  วีด เจ้าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้านงานประติมากรรม ดังนั้นข้าจึงอยากจะยื่นข้อเสนอให้กับเจ้า  ข้ามีเวลาเหลืออีกไม่มากนัก  ชั่วชีวิตของข้าอุทิศไปให้กับสันติสุขและการจัดระเบียบประเทศนี้  ข้าได้รวบรวมกองกำลังอันยิ่งใหญ่ขนาดที่สหพันธ์บริทิชจะสั่นคลอนเมื่อได้ เห็นกองทัพของข้า  ด้วยความปรารถนาของข้า  ทั้งขุนเขา  ลำธาร และเหล่าพฤกษชาติจะต้องสั่นสะเทือนภายใต้การเดินทัพของเหล่า …”
กษัตริย์ ธีโอดาร์เรน ทรงโปรดปรานการอวดอ้าง ทรงเล่าให้ฟังถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ การกระทำ และแม้กระทั่งเรื่องส่วนพระองค์ ให้วีด ฟัง
วีด รับฟังอย่างใกล้ชิดและพยายามที่จะไม่ให้ใจความสำคัญใดตกหล่นไป
คำบอกใบ้ที่จะช่วยให้ทำเควสสำเร็จอยู่ที่ไหน?
อย่าง ไรก็ดี  ไม่ว่าเขาจะพยายามตั้งใจฟังขนาดไหนก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดที่ได้ยินมันช่างไร้สาระ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของกษัตริย์ตกม้าขาหักตอนพระชนมายุ 5 พรรษา หรือ เรื่อง นางกำนัลแสนสวยในวัง    ธีโอดาร์เรนช่างฝอยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หลังจากทรงพล่ามในลักษณะนี้มาได้ 2 ชั่วโมง  ในที่สุดองค์กษัตริย์ก็มาเข้าเรื่องซะที
“…ทุก คืนวันที่ผ่านไป ข้ารู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ  มันได้เวลาที่ข้าจะส่งมอบราชบัลลังค์ให้แก่ผู้สืบทอดของข้าและเกษียณตัวเอง เพื่อที่จะพักร่างกายอันอ่อนแอของข้าให้สงบ  เวลาเหลืออีกไม่มากนัก  ข้าต้องการสุสาน  จงสร้างที่ฝังศพที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ที่จะสะกดทุกผู้คนด้วยความงามสง่าของ มันไปอีกนานเท่านาน  ข้าจะให้กำลังคนมากเท่าที่เจ้าต้องการ …”
ติ๊งงง!
เควสใหม่! สุสานของกษัตริย์ ธีโอดาร์เรน
เมื่อ ได้มีการคาดการณ์ถึงการสวรรคตของผู้ปกครองโรเซนไฮม์ จึงได้มีการสั่งให้สร้างสุสานขึ้น   ธีโอดาร์เรนสัมผัสได้ถึงวาระสุดท้ายของตนเอง จึงว่าจ้างประติมากรที่มีชื่อเสียงเพื่อทำการสร้างที่ฝังศพให้ตนเอง
ทว่าหากสุสานไม่แสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์  เควสจะล้มเหลวและคุณจะโดนปรับ

คุณสามารถให้ผู้อื่นช่วยในเควสนี้ได้  คุณจะได้รับเงิน หนึ่งแสนเหรียญทองในการทำเควสนี้ให้สำเร็จ

ระดับความยาก: ‘B’

รางวัล: ในกรณีที่สำเร็จ ค่ากิตติศัพท์ของคุณในราชอาณาจักรโรเซนไฮม์จะเพิ่มขึ้นกว่า 2000  จำนวนที่เพิ่มขึ้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลงาน

ข้อจำกัด: ในกรณีที่ล้มเหลว คุณจะได้ประสบกับความโกรธเกรี้ยวขององค์กษัตริย์ และชื่อเสียงของคุณจะลดลง

ค่ากิตติศัพท์ของวีดที่มีกับ ภาคีแห่งเฟรย่านั้นสูงกว่า 4600
เมื่อ คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับศาสนา มันช่วยให้คุณมีข้อได้เปรียบมากมาย อาทิเช่น ได้รับการรักษาและใช้เทเลพอร์ทเกทโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  จ้างทีมพาลาดินไปช่วยเหลือในราคาย่อมเยา  อีกทั้งทำให้ผ่านด่านตรวจง่ายขึ้น และได้รับเควสระดับสูงขึ้นในการผจญภัย  ซึ่งค่ากิตติศัพท์นั้นให้ผลในทางเดียวกับค่าชื่อเสียง
อย่าง ไรก็ดี  ความสัมพันธ์กับราชวงศ์นั้นกลับนำมาซึ่งข้อได้เปรียบที่ยิ่งไปกว่า  คุณสามารถที่จะได้รับตำแหน่งหรือนำแต้มค่ากิตติศัพท์ไปแลกรางวัลที่ยอด เยี่ยมจากท้องพระคลังได้
แน่นอนว่าวีด คงจะเลือกอาวุธสักชิ้น
นี่ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หมู่บ้าน บารัน ที่เขาได้รับเควสที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของตนโดยตรง  ย้อนไปในตอนนั้นความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงของเขายังต่ำอยู่  แต่ตอนนี้เขากำลังได้รับคำขอร้องจากองค์กษัตริย์ด้วยพระองค์เอง!
วีด คิดอยู่ครู่หนึง  แต่ว่าจริงๆแล้วเขามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
ไม่มีวันที่เขาจะถอยหนีจากการพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์หรือปฏิเสธเควส! ดังนั้นผลกระทบจากการปฏิเสธเควสจึงไม่เคยอยู่ในความคิดของเขา
“ข้าพระองค์จะทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อสถานที่พักผ่อนสุดท้ายอันแสนวิเศษของพระองค์ พะย่ะค่ะ”
คุณยอมรับเควส

***************************************

วีด ออกมาจากพระราชวังพร้อมกับครุ่นคิด
ที่ฝังศพที่สูงส่งและยิ่งใหญ่… ช่างเป็นความต้องการที่คลุมเครือเป็นอย่างมาก
นี่เราควรจะสร้างเป็น ดอลเม็น (Dolmen) ดีมั้ยนะ?
(ผู้แปล : ดอลเม็น เป็นชื่อเรียกของสุสานหินสมัยโบราณ)
น่าจะง่ายและรวดเร็วมาก!
แต่มันก็อาจทำให้เราต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวขององค์กษัตริย์ หรือ แม้กระทั่งถูกจับมาลงโทษโดยกองทัพของโรเซนไฮม์
แต่รางวัลที่ได้ก็อาจจะทำให้เราได้ถึง แรร์ไอเทม หรือ ยูนิคไอเทม!
ถ้าเรามองมันจากอีกด้านนึงล่ะ …
ในขณะที่วีด กำลังคาดหวังถึงผลประโยชน์ที่เขาจะได้  เขาก็กำลังมองหาโอกาสที่จะเริ่มลงมือไปด้วยพร้อมกัน!
ถึงแม้ว่าราคาสินค้าใน รอยัลโรด จะลดลง แต่ แรร์ไอเทม หรือ ยูนิคไอเทมก็ยังสามารถขายได้ในราคาสูงอยู่ดี
วี ด ไม่มีวันปฏิเสธการได้มาซึ่งรายได้พิเศษก้อนนี้หรอก  ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำเควสนี้ให้สำเร็จให้ได้ไม่ว่าจะต้องทุ่มเท เท่าไรก็ตาม  ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีไอเดียถึงหนทางในการสร้างสุสานเลยก็ตาม
ขนาดใหญ่ หรือ ธรรมดา ดีนะ? บรรจุรูปปั้นทหารที่ทำจากหินเข้าไปด้วยดีมั้ย รูปปั้นงั้นเหรอ?  ไม่ล่ะ  พวกนี้มันธรรมดาเกินไป …
เขาจะต้องสร้างสุสานที่ยิ่งใหญ่  สูงส่ง และเป็นอนุสรณ์ ให้สมกับความคาดหวังขององค์กษัตริย์ให้ได้

เล่มที่ 4 ตอนที่ 10 : จบ
******************************************



<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

3 ความคิดเห็น: