วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 10 ตอนที่ 6 งานเลี้ยงฉลองวันเกิด (Birthday Party)

เล่มที่ 10 ตอนที่ 6 งานเลี้ยงฉลองวันเกิด (Birthday Party)


ลีฮุนเข้าอินเตอร์เน็ทหลายเว็บไซต์เพื่อเช็คผลตอบรับที่ตามมา รวมถึงเว็บไซต์ของรอยัลโรด
“นี่มันโกลาหลใหญ่แล้ว”
ตัวเลขโพสต์เพิ่มมากกว่าปกติ รวมถึงส่วนของหอเกียรติยศด้วย
โพสต์มากกว่าครึ่งกล่าวถึงวีด
-วีด! วีดปรากฏตัวอีกแล้ว!
-ผมก็เคยเล่นเกมคอนทิเน้นท์ออฟเมจิค วีดจะมาสร้างตำนานในรอยัลโรดอีกหรือเปล่านะ ?
เทพเจ้าสงครามวีด !
มันอาจจะอีกไม่นานแล้วก็เป็นได้เพราะตอนนี้มีมอนสเตอร์กลุ่มสองกลุ่มที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและขยายตัวไปทั่วทวีปแล้ว
ผมเชื่อว่ามันต้องตอบสนองถึงวีดแน่
ภารกิจของวีดสุดยอดมาก ต้องห้ามพลาดเลยล่ะ
มันยากมากที่จะสู้กับมังกรนั่น  พวกเขาจะทำภารกิจกันสำเร็จไหมถ้าวีดไม่อยู่ด้วย ?
เมื่อไหร่จะมีฉายซ้ำอีกนะ ?

หลายคอมเม้นท์ชื่นชมถึงวีด
-ผมเพิ่งดูการต่อสู้ทั้งหมดของวีด เขาเรียนการโจมตีแบบนั้นได้ยังไงนะ ?
-ผมว่าเขาต้องมีสกิลการต่อสู้ระดับมาสเตอร์และต้องตั้งสมาธิในการโจมตีทุกครั้งเป็นแน่
-ผมเห็นด้วยด้วยอย่างแรงนิ !
-ตามทฤษฎีการโจมตีในจุดเดิมมากกว่า 10 ครั้งจะเพิ่มความแรงเป็น 2 เท่าและอาจจะเพิ่มได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
-การเพิ่มพลังการโจมตีขึ้นอยู่กับประเภทของอาวุธที่ใช้ด้วย
-ผมว่าเราไม่ต้องทำตามอย่างเขาในการล่าทั่วไปหรอกนะ
-มันยากเกินไปที่จะเลือกจุดโจมตี มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะโจมตีอยู่จุดเดียวซึ่งเป็นการเสียเวลาล่าเพิ่มขึ้นอีก    

-มันไม่ง่ายเลยที่จะโจมตีจุดเดียวซ้ำแล้วซ้ำอีกและยิ่งอยู่ในการต่อสู้ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยแล้ว
ในสถานการณ์เช่นนี้ผลของความโลภจะยิ่งทำให้โดนโจมตีมากขึ้นไปอีก ! (โลภที่จะโจมตีได้แรงโดยโจมตีอยู่จุดเดียว)
- แบบนี้วีดก็เล่นอาชีพเนโครแมนเซอร์สินะ
- เนโครแมนเซอร์จะมีสกิลอะไรบ้างนะ ?
อาชีพเนโครแมนเซอร์กำลังกลายเป็นที่นิยม
ซึ่งก็ไม่เลวเลยสำหรับลีฮุน

 “คัมภีร์ของบัลข่านและไม้เท้านักบุญจะยิ่งขายได้แพงถ้าคนเริ่มเปลี่ยนมาเล่นอาชีพเนโครแมนเซอร์กัน”
ราคาของอาวุธและไอเท็มสำหรับอาชีพขั้นแรกของนักเวทย์จะแพงมาก ต่างกับอาวุธของพวกนักรบที่หาได้ทั่วไปจากการล่ามอนสเตอร์  เป็นไอเท็มที่หายากเพราะมันไม่ง่ายที่แบล็คสมิทจะตีอาวุธสำหรับนักเวทย์ขึ้นมาได้  เนื่องจากจำต้องมีทักษะการตีเหล็กในขั้นกลางเป็นอย่างต่ำถึงสามารถเรียนรู้การจะสร้างไอเท็มอีกทั้งมันยังต้องการวัตถุดิบพิเศษหลายชนิดอย่างเช่น  ไม้ลงอาคม (Blessed Wood.)
และปริมาณไอเท็มที่มีขายก็ต่ำกว่าความต้องการซื้ออย่างมาก หรือกล่าวได้ว่าไม่ใช่แค่ราคาเท่านั้น ที่แพงแต่ยังยากที่จะหาซื้อมาได้ครบเซ็ท
 “อีกประมาณ 5 เดือนเราน่าจะขายไอเท็มได้ราคาดี”
ลีฮุนตัดสินใจใช้ไอเท็มไปในระหว่างรอขาย
สำหรับไอเท็มบางรายการเช่น เอนเชี่ยนชิลด์ ควรจะขายออกไปในเวลาอันสั้น เป็นเพราะค่าความคงทนของโล่จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่เขาก็ไม่อยากทำเช่นนั้น
สำหรับเอนเชี่ยนชิลด์ ที่มีข้อจำกัดอยู่ ถ้าเขาตั้งประมูลจะมีผู้ใช้ที่ระดับเกิน400 น้อยมาก และจะไม่เกิดการแข่งขันประมูลไอเท็ม
 “ถ้าเราได้ขายไอเท็มที่ทำจากกระดูกมังกรมั่นใจได้เลยว่าจะต้องได้รับเงินมหาศาลแน่”
ลีฮุนไม่อาจปกปิดความเสียใจไว้ได้
 “เอนเชี่ยนชิลด์ ดันมีคุณสมบัติที่ซ่อมแซมไม่ได้อีก…”
หากมันสามารถซ่อมแซมได้  ก็เป็นไปได้ที่จะขายและได้ราคาดี เพราะจะมีผู้คนจำนวนมากต้องการมัน  แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะเขาไม่สามารถเอาสมบัติโบราณส่วนที่เหลือของอาณาจักร นิฟเฮล์มออกมาได้
 “พวกมันจะได้รับการซ่อมแซม จากนั้นคงขายได้เป็นจำนวนมาก ในร้านขายของโบราณและในเมืองหลวง”

ลีฮุน มองคร่าวๆในส่วนที่เหลือของโพสต์ในหอแห่งเกียรติยศ ที่พูดถึงนักผจญภัยเลเวลสูงซึ่งกำลังท้าทายดินแดนที่ถูกเนรเทศ

-มีใครรู้จักเกี่ยวกับหมู่บ้านพฤกษา (Village of the Trees )บ้าง?  ยังไม่มีใครที่ทำภารกิจที่นั้นได้สำเร็จมาก่อน
มาสิ เข้าร่วมกับเรา และเราจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ทำมันได้สำเร็จ !!

พวกเขาประกาศท้าทายดินแดนแห่งเงา! (Shadow Lands)
เป็นการออกประกาศได้อย่างน่าท้าทาย
เหล่าผู้เล่นที่โด่งดังกว่า 300 คน ส่งคำขอเข้าร่วมเดินทางทำภารกิจ
 “บ๊ะ พวกนี้กำลังทำภารกิจโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไรเลย”
มีหลายคนที่วิจารณ์การท้าทายนี้แต่คำวิจารณ์กลับถูกมองข้ามไป
การอธิบายรายละเอียดของภารกิจ  การเชิญชวนผู้คนให้เข้าร่วมเพื่อหาบางสิ่งหรือล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ที่ไหนซักแห่ง
ลีฮุนจะคำนวณถึงข้อมูลที่มีและจำนวนเงินที่จะได้ แต่ตัวภารกิจนี้ ไม่ได้บ่งบอกถึงรางวัลสำหรับการเข้าร่วมเลยสักนิด!
“ไร้สาระที่จะทำงานที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย…”

การใช้กำลังกายเป็นพื้นฐานสำหรับทุกภารกิจ,
ข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ก็ค่อนข้างไร้ประโยชน์ ถึงแม้คุณจะหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาได้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เหล่าผู้เล่นยังคงตามหาข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับพื้นที่ออกล่าอยู่เสมอ
ความรู้ คือ พลัง !
บางข้อมูลก็ควรจะถูกเก็บเอาไว้ไม่ให้ใครรู้จะดีที่สุด
 “เช็คอีเมล์หน่อยดีกว่า”
ลีฮุนอ่านอีเมลล์อย่างคร่าวๆ
ตริ้งง !
คุณได้รับอีเมล์ใหม่จากสมาชิกครอบครัว


มีคนจำนวนน้อยมากที่รู้ที่อยู่อีเมล์ของเขา จึงเป็นไปได้ที่จะเป็นคุณย่าหรือน้องสาวของเขาเป็นคนส่งข้อความมา
“ใครกัน?”
ลีฮุนดูอีเมล์นั้น เป็นอีเมล์ที่ส่งมาจาก คุณย่าของเขา
 “เกิดอะไรขึ้น ?”
ลีฮุน คลิ๊ก เปิดอ่าน
ลีฮุนเอ้ย เอวของย่า ดีขึ้นแล้ว มันไม่เจ็บอีกแล้วล่ะ
โรงพยาบาลที่นี่ก็สะดวกสบายดี
หลานเคยเห็นหญิงชราในโรงพยาบาลห้อง203ไหม ? หลานชายของเธอนำเครื่องนวดมาให้เป็นของขวัญล่ะ มันมีตัวเลือกให้นวดไหล่ก็ได้นะ และแถมยังสามารถให้ความร้อนและความเย็นได้อีก ย่าไม่เคยได้อะไรแบบนั้นมาก่อน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ย่าไม่ได้สนใจเท่าไรหรอก


***

ชังอิลฮุน ถามพวกเขาด้วยเสียงเย็นชาตามปกติ
 “วันนี้คือวันที่พวกเราวางแผนสำหรับการนี้ พวกนายพร้อมกันหรือยัง ? ”
ชอยจองบอมพยักหน้าอย่างหวาดๆ
 “พวกเราต้องเตรียมการให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าสองหรือสามครั้ง จำนวนเหล่านั้น มีความจำเป็น  ”
 “ถ้าเป็นครั้งเดียวหล่ะ ”
“นั่นจะทำให้แผนของเราเป็นล่มไม่เป็นท่าแน่นอน”

ดวงตาของชังอิลฮุนหลี่ลง  เขามีปัญหาที่จะเชื่อคำของชอยจองบอมผู้พร้อมจ่ายเงินให้กับทุกๆคนก่อน
”แน่นอน ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้”
 “ถ้ามันจำเป็น ผมจะเป็นคนนำเอง ”
ชอยจองบอม รู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกทุบ
แต่ชังอิลฮุน กลับยิ้มอย่างสดใสอยู่ข้างๆเขา
 “ลูกพี่ ,พี่ไม่ได้วางแผนว่าจะทำแบบนั้นใช่ไหมฮะ?”
 “ถูกต้องแล้วน้องเอ้ย  . ถ้าเราไม่ทำแบบนั้นล่ะก็  พวกเราจะไม่มีวันทำสำเร็จแน่”
แต่สีหน้าของชังอิลฮุน ก็ไม่เปลี่ยน
 “นายก็รู้ว่าวันนี้สำคัญขนาดไหน”
 “ผมรู้”
เขาพยักหน้า
วันนี้เป็นวันเกิดของลีฮุน
ตั้งวันที่เขาเกิดเขาก็ยังไม่เคยมีงานเลี้ยงวันเกิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
พวกเขาจึงอยากจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้อย่างดีที่สุด เท่าที่เคยมี!

พวกเขาตัวสั่น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะแบ่งปันประสบการณ์ที่มีคุณค่าและมีความหมาย
พวกเขาไม่สนใจถึงแม้จะต้องใช้เงินส่วนตัว
เพราะพวกเขาเหล่านั้นกำลังจะได้รับโอกาสที่จะพบกับสาวมหาลัย!
มันเป็นทุกสิ่งที่พวกเขาเคยวาดฝันเอาไว้
แล้วมันก็เป็นโอกาสอันดี เพราะ อันฮุนโด กำลังอยู่ระหว่างเดินทางทำธุรกิจพอดี
ชังฮิลฮุน พูดอีกครั้ง
 “ทุกคนทำให้ดีที่สุด หากทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบลื่นมันต้องสำเร็จแน่  คิดให้ดีว่าพวกเราจะเหลือเวลากันอีกกี่ปีในชีวิตของพวกเรา?”
 “อาจจะประมาณ 50ปี หรือมากกว่านั้นมั้งครับ?”
 “ถูกต้อง , นั่นเป็นช่วงเวลาที่พวกนายต้องกินอาหารคนเดียว และนอนอย่างโดดเดี่ยวยามเหนื่อยล้า… ดังนั้นจำใส่หัวเอาไว้ว่าทุกสิ่งขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเราจะทำกันวันนี้  ว่านายจะอยู่คนเดียวต่อไปอีก50ปี หรือ มีครอบครัวที่น่ารักอันอบอุ่น”
สีหน้าของ ชอยจองบอม , มาซังบอม และ รอยลี เปลี่ยนไป.
ชังอิลฮุน ทำให้พวกเขามีความกล้าหาญ.
 ‘แผนนี้สุดยอด มันทำให้พวกเด็กๆยอมที่จะช่วย !’

พวกเขามักขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ
นับตั้งแต่พวกเขาเริ่มเล่นรอยัลโรดพวกเขามักจะถามเพลเพื่อขอความช่วยเหลือ
เมื่อพวกเขารู้ว่าเป็นเกิดของลีฮุน พวกเพลก็สัญญาว่าจะมาช่วย
 ‘กว่าจะได้แฟนต้องลำบากขนาดนี้เลยหรอนี้’
ลิน , หรือที่รู้จักกัน ในนามของ ฮวารยอง สัญญาว่าจะมากินข้าวกลางวันด้วยกัน.
คิมอินยอง ; หรือที่รู้จักกันในนามของว่า ไอรีน  ยอนฮีปาร์ค ; หรือที่รู้จักกันในนามของ โรมุนะ
และยุนซูปาร์ค ที่รู้จักกันในนามคือเซอร์กะจะมาในตอนเย็นเพราะมีเหตุผลเรื่องครอบครัวของเธอ
 ‘นี่จะเป็นวันเกิดที่สนุกแน่ๆ’
ชังอิลฮุน หัวเราะด้วยความพอใจ

***


ลีฮุน เข้าไปที่โรงฝึกแต่หัววัน เพื่อฝึกฝนตัวเอง
แต่ตัวเขาไม่รู้เลย ว่าพวกพี่ชายในโรงฝึกกำลังวางแผนที่จะพาเขาไปยังสถานที่อื่น
 “ไปกันเถอะ!”
เหล่าครูฝึก! พร้อมด้วยผู้ฝึกตนกว่า 70 คนเข้ามาหาด้วยใบหน้าโหดและดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ !
 “พี่ชาย พวกเราจะไปไหนกัน?”
ลีฮุนถามด้วยเสียงต่ำ

รอยลี ตอบด้วยน้ำเสียงที่น่าขนลุก
 “จะไปสวนสนุก”
 “จะไปทำอะไร ? พวกเรากำลังจะไปต่อสู้อย่างงั้นหรือ ? ”
 “เรากำลังจะไปเล่นเกมและเครื่องเล่น พวกเราต้องมีเวลาพักผ่อนกันบ้าง นายไม่คิดอย่างงั้นหรือ ? ไปกันเหอะน่า”
“ใช่ๆ”
ลีฮุนส่ายหัว
ถึงแม้ว่าพวกเขากำลังจะไปสวนสนุก แต่การแสดงออกทางสีหน้าของแต่ละคนไม่สอดคล้องกับมันเลย     มีบรรยากาศที่หนักอึ้งลอยมาจากพวกเขา
 ‘ต้องไม่ผิดพลาด’
‘สุขสันต์ สุขสันต์วันเกิด ’

มันเป็นภาระที่หนักอึ้งเกินกว่าจะอยู่อย่างใจเย็นได้ พวกเขาแต่งตัวในชุดสูทสีดำที่ให้ความรู้สึกน่าอึดอัดและแปลกประหลาดใจ
ทั้งกลุ่มขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน   ความจริงโรงฝึกก็มียานพาหนะสำหรับการเดินทาง แต่พวกเขาจงใจที่จะใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน
 ‘คนที่เขาไปสวนสนุกกันมักจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะกันทั้งนั้น’
ยังไม่มีใครซักคนในเหล่าผู้ฝึกตนและแม้แต่ครูฝึกที่เคยได้ไปสวนสนุกตั้งแต่เด็กมา ดังนั้นพวกเขาจึงศึกษาในอินเตอร์เน็ต ซึ่งให้คำแนะนำว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการจราจรจำนวนมากและหนาแน่น รวมถึงระบบขนส่งอื่นๆ พวกเขาเลยตัดสินใจที่จะขึ้นรถไฟใต้ดิน


 “เฮ้ วันนี้พวกเราจะไปบ้านนาย ไปเล่นเกมซักตานะ?”
 “เมื่อคืน ฉันเต้นที่คลับกับหนุ่มคนนึง …และฉันได้จับมือเขาด้วย!”
ทันใดนั้นตู้โดยสารของรถไฟใต้ดินจู่ๆ ก็เงียบสงัดขึ้นมา  เมื่อเหล่าชายฉกรรจ์ไหล่กว้าง แข็งแรงบึกบึน และสวมชุดสูทสีดำขึ้นมาโดยสารด้วย
 “................”
เหล่านักเรียนที่ขึ้นมาก่อน และทุกคนหยุดพูดในทันที
โดยปกติเมื่อมีผู้โดยสารจำนวนมากขึ้นมาบนรถไฟใต้ดิน จะมีการต่อสู้แย่งชิงที่นั่งโดยสารเพื่อความสะดวกสบายที่สุด
แต่ก็มีบางคนที่ยืนอยู่เงียบๆ  ทุกคนไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปอีก
 “อะ แฮ่ม ยืนน่าจะรู้สึกสบายกว่านะ”
 “ช่าย ได้ออกกำลังกายด้วย…”
ชายฉกรรจ์ 40-50 คนยืนนิ่งเป็นหุ่น แม้กระทั่งผู้สูงอายุที่นั่งอยู่ใกล้เคียงยังรู้สึกกังวลใจ
“ห๊ะ ? เกิดอะไรขึ้นทำไมพวกเขาถึงยืนล่ะ?”
“ใช่”
รอยลีและ มาซังบอม ไม่ได้นั่งที่เลยซักที่
การที่ทำให้ตัวเราคุ้นเคยกับความสะดวกสบาย จะทำให้ร่างกายเราอ่อนแอมากขึ้น มันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการฝึกร่างกายในทุกที่ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะยืนในการขึ้นรถโดยสารสาธารณะ
เหล่าครูฝึกและผู้ฝึกตน ยืนอยู่สองข้างขนาบคนทั่วไป
 ‘พวกนี้เป็นมาเฟียแน่เลย ? ดูตาพวกเขาสิ…’
 ‘กล้ามเนื้อของพวกเขายังกะกำลังจะฉีกชุดสูทขาดเป็นชิ้นๆ เลยนะ’
 ‘ผมว่าพวกเขากำลังจะไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายแน่ๆ’
‘ตำรวจ   เราเรียกตำรวจมาน่าจะดีกว่า….’

เมื่อรถไฟผ่านสถานี ประตูได้เปิดออก
“หือ ยังมีที่ว่างนิ?”
 “นี่ไม่ใช่เรื่องปกติมากๆ บางทีครั้งนี้เราอาจจะโชคดีก็เป็นได้”
ผู้โดยสารที่มาใหม่ดีใจมากที่เห็นที่ว่าง แต่แล้วพวกเขาก็เห็นเหล่าผู้ฝึกตน

 “..................”

ผู้โดยสารที่มาใหม่ทำได้เพียงยืนอย่างเงียบๆ พวกเขาไม่กล้านั่งลงเพราะนั่นจะทำให้พวกเขาต้องหันหน้าเข้าหาใบหน้าอันเข้มแข็งของครูฝึกและผู้ฝึกตน
 ‘ทำไมมันรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะนั่ง ?’
 ‘ฉันว่าการนั่งลงกับที่ มันน่าจะสบายมากกว่า’

เหล่าผู้โดยสารถูกบังคับให้ต้องรู้สึกกังวล แต่ผู้ฝึกตนเลือกที่จะไม่สนใจ
พวกเขาจำเป็นต้องสร้างความสนุกให้กับลีฮุนให้ได้ !
พวกเขาสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมคนพวกนี้ถึงยืนอยู่กัน   แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจมากและมองข้ามไป
 ‘หรือตอนนี้พวกเขากำลังฮิตการยืนบนรถไฟใต้ดิน ?’
 ‘คิดๆดูแล้ว การยืนก็ดีกับสุขภาพพวกเขาเหมือนกันนะ’
ไม่มีใครนั่งลง บนเก้าอี้ของรถไฟใต้ดิน จนกระทั่งกลุ่มของพวกเขาถึงจุดหมายปลายทาง


 “ลีฮุน ตรงนี้ !”
 “ทางนี้!”
ณ ทางเข้าหลักด้านหน้าของของสวนสนุก
ฮายัน, โอดงมัน, ชิน เฮมิน และชอยจีฮุน กำลังรออยู่ด้วยกัน
“ฮายัน น้องมาทำอะไรที่นี่?”
ลีฮุนถามด้วยความประหลาดใจ เขาสังเกตว่ามีอะไรบางอย่างที่แปลกไปเพราะเขาไม่ได้รับรู้ด้วย
นอกเหนือจากพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ฝึกตน   โอดงมันและแจลิน  เขาไม่คิดว่าจะได้เจอชอยจีฮุนด้วย

ฮายัน ยิ้มแก้มปริ
“พี่ค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของพี่นะ!”
 “ห๊ะ วันเกิด?”
ลีฮุนเริ่มคำนวณวันในหัว และแน่นอนวันนี้มันเป็นวันเกิดของเขา เพราะว่าเขาไม่เคยได้ฉลองวันเกิดของตัวเอง เขาจึงลืมไป
“ทำไมจะไม่ใช่หล่ะ ? พวกเราถึงมาอยู่นี่ไงเพื่อวันเกิดของคุณ ”
 “พี่ไม่เคยมาสวนสนุกมาก่อน ดังนั้น…”
 “เพราะพี่คิดว่า สวนสนุกมันแพงและมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น”
แจลิน ,โอดงมัน และ ชินเฮมิน รู้สึกงง กับคำพูดของเขา
 ‘สวนสนุกมีไว้เฉพาะชนชั้นสูงตั้งแต่เมื่อไหร่?’
อาจารย์ผู้ฝึกสอน และผู้ฝึกตน ก็ไม่ได้พูดอะไร
 “ในความเป็นจริงคุณไม่ได้ไปที่สวนสนุก จนกว่าคุณจะทำให้จำนวนเงินอันน้อยนิดของคุณมากขึ้น มันเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่มากว่าจะไปหรือไม่ไป”
“ศิลปินผู้ฝึกการต่อสู้อยู่เดียวดายในสวนสนุก…”
 “มันไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากกกว่า 5000วอน ต่อ1รอบใช่ไหม?”
เหล่าผู้ฝึกตนจ่ายเงินเองไปพอควรเพื่อห้องและงานเลี้ยงในโรงฝึก พวกเขามีเงินไม่มากเท่าใดทำให้พวกเขาจะจ่ายเงินเกิน 1 หมื่น – 2 หมื่นได้ลำบาก
ลีฮุนนั่งลง ถ้าเขาจ่ายเงินไปกับค่าเครื่องเล่นพวกนี้ละก็หัวใจเขาแตกสลายได้ทีเดียว
 “อะแฮ่ม ผมว่าไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่านะ”
ฮายันดึงแขนลีฮุนเข้าไปข้างใน
 “หนูมีบัตรเข้าฟรีอยู่ พี่เล่นเกมกับนั่งเครื่องเล่นได้ฟรีเลยนะคะ”
ฮายันรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรกับลีฮุน เขาไม่ชอบเสียเวลาและเสียเงิน ซึ่งถ้าไม่อ้างแบบนี้เขาคงไม่เข้าสวนสนุกเป็นแน่ คนอื่นๆจึงเดินตามลีฮุนเข้าไป

ชินเฮมินถามพวกเขา
 “อยากเล่นอะไรก่อนดีคะ?”
แจลินก็ไม่ยอมเสียเวลาเช่นกัน
 “ไวกิ้ง ?หรือ รถไฟเหาะดี ?”
รถไฟเหาะเป็นเครื่องเล่นที่แล่นไปตามรางกลางอากาศด้วยความเร็วสูง ซึ่งมันเป็นที่นิยมที่สุด
ชินเฮมินเหนื่อยจิตเหนื่อยใจมาจากการถ่ายทอดรายการทุกวันและอยากลิ้มรสความตื่นเต้นของเครื่องเล่น
 “งั้นเราไปเล่นรถไฟเหาะกันก่อนไหม ?”
เล่นรถไฟเหาะเป็นเครื่องแรก !
ต้องขอบคุณที่พวกเขามาก่อนช่วงเวลาคนเยอะทำให้พวกเขาได้เล่นโดยไม่ต้องรอนาน
ลีฮุนนั่งด้านหน้าแจลิน ตามด้วยดงมินและ ชินเฮมินและฮายันนั่งกับชอยจีฮุน
มันเลี่ยงไม่ได้เพราะอัตราชายหญิงนั้นพอดี
‘แหล่มเลย’
วันนี้เป็นครั้งแรกที่จีฮุนพบน้องสาวของลีฮุน
ไม่เพียงการออกล่าและสำรวจในรอยัลโร้ด   มันต่างกับการพบเธอในชีวิตจริงมากทีเดียว
หรือพูดได้ว่าเขาสนใจเธอนั้นเอง
เขาพบผู้หญิงมามากมายแต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย

 ‘ได้มาเที่ยวสวนสนุกกับเธอก็ไม่เลวเหมือนกัน’
จีฮุนยิ้มฟันขาว
หลังจากนั้นเขาก็ถูกสัมผัสเบาๆที่ไหล่จากมาซังบอม
 “ระวังตัวไว้นะไอน้อง”
 “อะไรครับ?”
 “ให้รู้ซะมั่ง ว่าใครมาก่อน…”
จีฮุนสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต
 “ฮุ ฮุ ฮุ”
ลีรอยหัวเราะอย่างยิ้มๆ
พวกผู้ฝึกตนทั้งหลายไม่แม้จะพยายามเข้าใกล้ฮายันเพราะมันเป็นการเสี่ยงชีวิตพวกเขาโดยใช่เหตุ
จีฮุนเขาจึงดูเท่ในสายตาของพวก

หลังจากรถไฟเหาะขึ้นไปจุดยอดสุดและเริ่มลงมาอย่างรวดเร็ว   โอดงมิน  ชินเฮมิน  แจลิน  ฮายันและจีฮุนเริ่มก็กรีดร้อง
 “ว้ายยยยย!”
 “วิ้วววววววววววว!”
แต่ลีฮุนและผู้ฝึกตนกลับนั่งหน้าเบื่อโลกกันซะอย่างงั้น
 ‘มันต้องตอนที่เราแกะสลักหัวของปิงหลงสิถึงจะเรียกว่าน่ากลัวจริง’
การแกะสลักก้อนน้ำแข็งที่สูงกว่าร้อยเมตรและยังห้อยตัวด้วยเชือกเพียงเส้นเดียว แถมยังมีลมพัดกวนอยู่ตลอดเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีนี้ การนั่งรถไฟเหาะก็แค่ของเด็กเล่นเท่านั้น
เหล่าครูฝึกก็อยู่อย่างสงบเช่นกัน
 “องศาต้องชันกว่านี้…”
 “ถ้าเราตกลงไปจากจุดนี้ อย่างเลวร้ายที่สุด พวกก็ยังไม่เป็นไรหากยอมเสียสละขาไปบ้าง”
 “เราสามารถลดความเร็วโดยหมุนตัวเพื่อต้านแรงโน้มถ่วงได้”
 “เราโดดจากตรงนี้ได้เปล่าเนี่ย ?”
ช่างเป็นการพูดคุยที่น่ากลัวเสียเหลือเกิน
ต้องขอบคุณที่ยังหลงเหลือคนกรี้ดกร้าดเพราะรถไฟเหาะอยู่บ้าง!

 ‘พวกนี้มันตัวอะไรกันหน่ะ?’
คนควบคุมเครื่องรู้สึกแปลกใจ                    

เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมบนเรือไวกิ้งเช่นกัน
ลีฮุนและผู้ฝึกตนก็ยังนั่งราวไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
 ‘โอ้ นี่ไม่คุ้มค่าเงินเลยนะ    แต่เราไม่ได้เสียตังสักหน่อย   เราควรต้องสนุกกับมันสิ’
แต่ลีฮุนก็ยังดูหงุดหงิดอยู่
ในที่สุดท้ายพวกเขาก็เลิกนั่งเครื่องเล่น

 “ถ้าเขาไม่กลัวเครื่องเล่น แบบนั้นเราไปที่อื่นกันดีกว่าไหม”
แจลินพูดอย่างเสียไม่ได้
ยังอีกไกลกว่าลีฮุนและเหล่าผู้ฝึกตนจะสนุกไปกับความตื่นเต้นของเครื่องเล่นและพอใจกับการเล่นสวนสนุก
และแล้วโอดงมันก็ปิ้งไอเดียได้
 “แทนที่จะเล่นเครื่องเล่น…งั้นเราไปสวนสัตว์กันดีกว่าไหม ?”
ตาฮายันเป็นประกายด้วยความหวัง
 “สวนสัตว์งั้นหรอคะ ?”
 “ใช่แล้ว การที่ที่นี่ใหญ่โตเนื่องจากมีส่วนที่เป็นสวนสัตว์อยู่ด้วย มันคงสนุกกว่าการนั่งอยู่บนเครื่องหมุนๆสินะ”
 “ไม่ต้องสงสัยเลย”
ดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเที่ยวสวนสัตว์กันแทน

***

ที่เห็นเป็นยีราฟตัวสูงใหญ่
มีเด็กๆอายุเกือบ 6 ขวบกำลังมองยีราฟกันอยู่
เป็นกลุ่มเด็กอนุบาลที่มาทัศนศึกษา

เด็กชายตัวน้อยน่ารักตะโกนออกมา
 “ดูจิ นี่มันยีราฟ !”
 “มันดูเท่จริงๆเยย”
เด็กหญิงตัวน้อยก็ยิ้มตาเป็นประกาย
“มันสวยจริงๆ”
 “พวกสัตว์นี่น่ารักจัง โอ้ ! ดูคอยาวๆของมันสิ!”
ช่างเป็นภาพที่น่าดูเสียนี่กระไร
พวกเขาเดินดูรอบๆอย่างสงบสุข


แต่แล้วก็มีเสียงอันสยดสยองลอยมาจากทางด้านหลัง !!
“ยีราฟนิ พวกมันอร่อยไหมนั่น ? ”
 “มันอาจจะไม่สะดวกในการกินเท่าไหร่นะเพราะต้องเสียเวลาปรุงนาน”
 “แต่ถ้าโรยเกลือนิดละก็คงอร่อยเหาะ มีวันนึงตอนที่ฉันฝึกอยู่ที่แอฟริกา ตอนนั้นฉันหิวมาก ถ้าฉันจับสิงโตได้ฉันก็คงกินมันทั้งตัวเลยล่ะ”
 “ถ้าได้กินสัตว์กินพืชคงอร่อยทีเดียว ?”
“เรามาจับมันไปตอนกลางคืนกันได้นะ…”
แผล่บบบ ! (นึกถึงเสียงปอบอยากกินไส้คน)
พวกครูฝึกและเหล่าผู้ฝึกตน!
เป็นพวกเขาที่เดินดูยีราฟไปพูดคุยกันไป
 “ฮือ ฮือ ฮือออออออออออออออ!”
เด็กๆถึงกับร้องไห้โฮ
บริเวณอันใสซื่อถูกทำลายลงอย่างราบคาบ

เหล่าครูฝึกและผู้ฝึกตนจำเป็นต้องเดินไปดูอีกด้านหนึ่ง
เป็นอูฐ และ ลา
 “เฮ้ แล้วพวกนี้รสชาติยังไง ?”
 “ฉันว่าฉันรู้สึกสนุกนะ เวลาได้เลือกว่าจะกินอะไรดี”
“เอามันไปอบกินก็เป็นเป็นความคิดทีดีนะ”
พวกเขาจ้องไปที่หมีขั้วโลกด้วยความอยากกินที่แสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
“พวกเรา ดูมันสิ”
 “ว้าว แค่มองน้ำลายก็ไหลแล้ว”
 “อุ้งเท้ากับถุงน้ำดี ถ้าใครได้กินล่ะก็ต้องเจริญอาหารไปตลอดทั้งปีเลยแน่ๆ.....”

ดวงตาของเหล่าครูฝึกและผู้ฝึกตนลุกวาวด้วยความกระหายเลือด
ถึงขนาดทำให้หมีขั้วโลกรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
พวกนาก โลมา และจระเข้ก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกกับพวกนกทั้งหลาย
แต่กับสัตว์ที่คาดหมายได้(คาดหมายว่ากินได้)กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ลิง กอลิลล่า หมู !
เหล่าผู้ฝึกตนชอบดูท่าทางตลกๆและกล้วยของพวกมันแทน
 “ผมชอบดูมันนะ”
 “ผมหยุดดูพวกมันไม่ได้เลย”

ลีฮุนก็สนุกไปกับการเดินสวนสัตว์
เขาไม่ได้หยุดพักผ่อนแบบนี้มานานแล้ว
เขาไม่เคยหยุดพักผ่อนเลยตั้งแต่เริ่มเล่นรอยัลโร้ด ถึงแม้จะมีความคิดเสียดายค่าแอร์ไทม์แสนแพงที่เสียไปฟรีๆ   แต่เขาก็ไม่เสียใจเลยที่ได้มาเดินสวนสัตว์กับน้องสาวและเพื่อนๆ
“สักวันผมจะพาครอบครัวมาที่นี่อีก”
ซึ่งมันอาจจะ 10 หรืออาจจะ 20 ปีเลยก็เป็นได้
แต่ตอนนี้เขารู้สึกสงบและมีความสุขเหลือเกิน

แม้จะเป็นเวลากลับแล้ว แต่แจลินก็ไม่อยากจากลีฮุนไปเลย
เธออยู่กำลังทำภารกิจในการพยายามเข้าใกล้เขา  เพื่อที่จะได้กลายเป็นคู่รักกัน
โอดงมิน ชินแฮมิน และจีฮุนพยายามจะอยู่ให้ห่างจากพวกครูฝึกและเห่ล่าผู้ฝึกตนให้มากที่สุด
 “ไม่ใช่ทุกคนที่อยากรู้ว่าพวกนายชอบอะไรกันนะ…”
 “เดินห่างๆพวกเขาเหอะ”
“เราเคยไม่รู้จักพวกเขาเนอะ”

***

พวกเขาออกจากสวนสนุกโดยอาศัยรถโดยสารสาธารณะกลับโรงฝึก
แผนสุดท้ายสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดของลีฮุนก็สมบูรณ์แบบ
เป็นปาร์ตี้เนื้อและซี่โครงหมู !
คิมอินยัง ยุนฮีปาร์ค และ ยูนซูปาร์ค เสิร์ฟเนื้อชั้นเยี่ยมนั่น
 “กินให้อร่อยยยย”
 “ขอบคุณครับคุณผู้หญิง”
มาแซงบอมราดซอสบนเนื้อที่ถูกห่อด้วยผักกาด และใส่เข้าปากทั้งคำ
“พวกนายต้องกินเนื้อสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดสิ”

เหล่าครูฝึกจัดเตรียมเนื้อเพื่อปิดท้ายงานเลี้ยงวันเกิดของลีฮุน
ไปเที่ยวสวนสนุกแล้วต่อด้วยปาร์ตี้เนื้อ !
นี่เป็นแผนการที่พวกเขาเตรียมไว้ทั้งหมด
ชอยจองบอมคีบเนื้อขึ้นมาด้วยตะเกียบ
 “เนื้อจะอร่อยมากขึ้นเมื่อพวกเรากินด้วยกัน”
รอยลีเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
 “คนยิ่งเยอะเนื้อยิ่งอร่อย”
ถึงแม้จะเป็นปาร์ตี้วันเกิดที่ไม่พิเศษเท่ากับการจัดที่ร้านอาหารหรือ มีของขวัญชิ้นโตเตรียมไว้ให้ แต่มันก็เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอุ่น
ชังอิลฮุนหยิบโซจู (เหล้าเกาหลี) ออกมา
 “มา ดื่มกันสักแก้ว”
ลีฮุนฟังอย่างตั้งใจและถือแก้วยื่นออกไปทั้งสองมือ
ชังอิลฮุนรินโซจูใส่เต็มแก้วของลีฮุน
 “แด่ชีวิตของพวกเรา !”
 “แด่ชีวิต!”
หนุ่มๆดื่มอวยพรกันอย่างเงอะงะ


ที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบลื่นเช่นนี้  เป็นเพราะฮายันได้วางแผนอย่างหนึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วนั่นเอง
นั่นคือการเดทแบบกลุ่มกับสาวมหาวิทยาลัย !

เล่มที่ 10 ตอน ที่ 6 จบ


<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

2 ความคิดเห็น: