วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 7 ตอนที่ 4 ภารกิจ (Quest)

เล่มที่ 7 ตอนที่ 4 ภารกิจ (Quest)


“อ่าหหห์!”
ลีฮุนออกจากแคปซูลพร้อมทั้งบิดตัวไปมาอย่างขมขื่นจากการตายในช่วงสุดท้าย
ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมรับกับความตายไว้แล้วก็ตามจากความยากของภารกิจที่ได้รับมา  ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เป็นกังวลมากนักกับการเสียชีวิต  เขาเพียงแค่อยากจะได้โอกาสในการยืนยันถึงไอเทมที่เขาเก็บมาได้
“มันจะต้องดรอปของดีออกมาอย่างแน่นอนที่สุด!”
มอนสเตอร์ระดับบอส
มอนสเตอร์ระดับเดียวกับลิช ไชร์ อาจจะไม่ปรากฎขึ้นต่อหน้าเขาอีกเป็นครั้งที่สอง  หรือถ้ามีใครพบอีกสักตัว มอนสเตอร์ตัวนั้นก็อาจจะมีความสามารถเหนือไปกว่าที่ใครหรือกลุ่มใดจะไปทำอะไรมันได้  แล้วเขาดันยืนยันไม่ได้ว่ามันดรอปอะไรออกมานี่สิ
“ถ้าเป็นเสื้อคลุมที่ดรอปออกมาล่ะก็ มันคงจะใหญ่พอควร”
ลี ฮุน เดินอย่างกระสับกระส่ายไปทั่วทั้งห้อง
เสื้อคลุมเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์
มันเคยปรากฎขึ้นแค่ครั้งเดียวและราคาของมันก็ไม่ได้รับการเปิดเผย  มันไม่ได้ปรากฎขึ้นในเวปประมูลเวปไหนเลย  ทางผู้ซื้อเลือกที่จะดำเนินการผ่านสมาคมดาร์ด เกมเมอร์ แทน  และหากแม้นมีการประมูลเกิดขึ้น ก็คงมีคนจำนวนไม่มากที่จะมีกำลังซื้อของที่แพงขนาดนั้นได้  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องปฏิบัติทั่วไปที่จะจัดซื้อจัดหาไอเทมชั้นเลิศผ่านทางสมาคม ดาร์ค เกมเมอร์
“เสื้อคลุม เสื้อคลุม เสื้อคลุม!” ลี ฮุน พร่ำภาวนาให้ของที่เขาได้เป็นเสื้อคลุม
“ชั้นรู้ว่าชั้นคว้าอะไรบางอย่างได้....เฮ้อ” ลี ฮุน ถอนหายใจหนักหน่วง
ไม่เคยมีช่วงเวลาใดในเกมที่เขารู้สึกว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างที่เขาหวังเอาไว้
ความเป็นจริงที่ว่ารองเท้าบูทและหมวกของเขาแตกหักไปจากการได้รับการโจมตีที่หนักหน่วงแม้ว่าเขาจะทำการเพิ่มค่าความทนทานของมันให้สูงที่สุดจากทักษะซ่อมแซมของเขาแล้วก็ตามเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้ายของเขา
“ไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อคลุมก็ได้  รองเท้า! ใช่ รองเท้าของเคอร์ดัล (Kurdal’s Shoes) ก็ไม่เลวซะทีเดียว”
ลี ฮุนลดระดับความคาดหวังของตัวเองลง
ในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่า ลิช ไชร์ จะสวมใส่ไอเทมพวกนั้น แต่ก็ไม่มีการการันตีว่าไอเทมเหล่านั้นจะดรอป  คำว่า แจปเทม (Japtem) ไม่ได้ตั้งขึ้นมาอย่างไร้ความหมาย  ถึงแม้ว่าเขาจะฉวยมาไว้ได้ทันจริงๆ  เขาก็อาจจะสูญเสียมันไปก็ได้ในตอนที่เขาเสียชีวิตลง
“ชั้นสงสัยจริงๆว่า เควสมันจะเป็นยังไง...”
ลี ฮุน ถอนหายใจออกมา
ไม่มีทางที่เขาจะได้คำตอบ
การที่เขาได้เสียชีวิตลงไปก่อให้เกิดคำถามขึ้นว่าสงครามจบลงอย่างไร และภารกิจของเขานั้นสำเร็จลงหรือไม่
“ช่วยไม่ได้อ่ะนะ  ที่ชั้นทำได้ตอนนี้ก็แค่พักผ่อนเท่านั้นเอง”
แทนที่จะรออย่างกระวนกระวายตลอดทั้งวัน เขากลับเลือกที่จะผ่อนคลายจิตใจของเขาลง เพราะไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็ไม่มีทางหาคำตอบของเรื่องนี้ได้จนกว่าเขาจะกลับเข้าเกมได้อีกครั้ง
นับตั้งแต่ที่เขาเตรียมตัวสำหรับภารกิจนี้ เขาก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอจึงเป็นเหตุให้เกิดความเหนื่อยล้าสะสม  ดังนั้นมันจึงเป็นการดีกว่าที่เขาจะนอนในช่วงที่สมองของเขาผ่อนคลาย


*******************************


ผู้คนที่ได้รับชมเควสออร์ค จากหอเกียรติยศ ต่างเฝ้ารอผลลัพธ์จองสงครามขนาดยักษ์นั่น
มีการโพสข้อความต่างๆที่หลากหลาย
- ทำไมวิดีโอนั่นถึงยังไม่ถูกอัฟโหลดอีกอ่ะ?
- ถ้าพิจารณาจากเวลาที่วิดีโอนั่นอัฟโหลดเป็นครั้งสุดท้ายล่ะก็  ตอนนี้เควสนั้นก็คงจะมีความคืบหน้าไปแล้วล่ะ
- โอ๊ย ชั้นล่ะสงสัยจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ตอนแรกก็ยังมีผู้คนมากมายที่ยังเต็มไปด้วยความหวังอยู่
พวกเขาพึงพอใจกับการที่ได้ดูการผจญภัยของบุคคลที่เป็นตำนานอย่าง วีด  วีดซึ่งเป็นผู้เล่นที่ขึ้นไปอยู่ ณ จุดสูงสุดของ ‘คอนทิเนนท์ ออฟ เมจิค’  เกมที่อยู่ครองบัลลังก์มาได้ตลอดระยะเวลาถึง 20 ปี
เหล่าวิซาร์ดต่างเต็มไปด้วยคาดหวังต่อการก้าวไปสู่อาชีพขั้นสูงอย่างเนโครแมนเซอร์
ผู้คนไม่ได้สนใจเพียงแต่สงครามขนาดยักษ์นั่นเท่านั้น  แต่ยังรวมถึงการเป็นภารกิจระดับ A อีกด้วย  เพราะแม้จะเป็นเพียงการสำเร็จภารกิจระดับ C ก็ยังให้ความรู้สึกของการประสบความสำเร็จ  พวกเขาจึงสนใจใคร่รู้ว่าแล้วภารกิจระดับ A ล่ะมันจะขนาดไหนกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนเป็นล้านๆคนที่เฝ้ามองที่หอเกียรติยศและรอคอยที่จะชมวิดีโอนั่นในทันทีที่มันปรากฎขึ้น
อย่างไรก็ดีถึงแม้ความคืบหน้าของเควสออร์คไม่ได้ปรากฎขึ้น แต่ก็มีวิดีโออื่นที่มาดึงดูดความสนใจของผู้ชมที่เฝ้ารอเหล่านี้

กิลด์คริมสันวิง(The Crimson Wing Guild)
กิลด์นี้เป็นหนึ่งในสิบกิลด์ที่มีชื่อเสียงของทวีปเวอร์เซลล์  ธีรอส (Terose) ซึ่งเป็นผู้นำกิลด์ได้นำวิดีโอพิเศษมาปล่อยให้ผู้คนได้ชม
วิดีโอที่มีความยาว 5 นาที!
แม้จะเป็นวิดีโอที่สั้นเกินกว่าจะสื่อถึงภารกิจหรือการต่อสู้อันยอดเยี่ยม  แต่มันก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้คนอยู่ดีเพียงเพราะว่ามันเป็นชื่อของธีรอส
และมันยังต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักถึงจะได้ดูสงครามอันยิ่งใหญ่ของกองทัพอมตะ  พวกเขาจึงไม่มีปัญหาอะไรกับการดูวิดีโอสั้นๆนี้
วีดีโอ แสดงให้เห็นถึงการเข้าไปสู่โบราณสถานของคนกลุ่มหนึ่ง
“นั่นมัน คุณ ไพล์น(Plaine) ที่เป็นนักรบบาร์บาร์เรียนนี่นา”
“เดน (Dane) นักฆ่าสะพรึง ก็อยู่ที่นั่นด้วย!”
“โด-กวาง (Do-Gwang) นักเวท แมกมา ก็อยู่เหมือนกัน!”
บรรดาสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของกิลด์คริมสันวิงต่างมารวมตัวกันที่นั่น
ไม่ว่าจะเป็น พาลาดิน, พรีส, โจร, นักเวท, นักผจญภัย, นักฆ่า, กวี, นักรบ, ผู้อัญเชิญ, ชาแมน, นายพราน
นอกไปจากสายอาชีพที่คนทั่วไปเลือกแล้ว ก็ยังมีอาชีพสายนักเวทที่พลังกายลดลงแต่ชดเชยด้วยพลังเวทที่สูงขึ้นด้วย!
โด-กวาง! นักเวทผู้ต่อสู้ด้วยมีดเพียงเล่มเดียวโดยไม่รู้จักคำว่าถอยหนี  ชายผู้บ้าคลั่งอย่างสิ้นเชิงไปกับมีดสั้นของเขา
เดน! ชายผู้ใช้ชีวิตในป้อมที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ และคอยล่าสังหารพวกมันทุกๆค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์
สมาชิกประกอบไปด้วยผู้เล่นที่มีชื่อเสียงและอาชีพเฉพาะ
ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรให้มากมาย  กิลด์คริมสันวิงนับได้ว่าเป็นกิลด์ที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งทวีป
เพียงแค่เรื่องผู้เล่นที่เลเวลสูงและหาตัวได้ยากเหล่านี้ต่างมารวมตัวกันเพื่อเข้าไปสู่โบราณสถานแห่งนี้ ก็เพียงพอที่จะสร้างความตื่นเต้นให้ผู้เล่นอื่นๆแล้ว
ธีรอสที่แต่งกายในชุดเกราะสีชาดได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเป็นเอกลักษณ์ของเขาเพื่อดึงดูดความสนใจ
- หลังจากแกะรอยจากเงื่อนงำเล็กๆที่พบ  ในที่สุดพวกเราก็ค้นพบและมาถึงสุสานของราชาแมงป่อง (The tomb of the Scorpion King) จนได้
แม้ในขณะที่ธีรอสกำลังพูดอยู่  สมาชิกกิลด์ต่างก็กำลังเข้าไปสู่ด้านในของโบราณสถาน
ธีรอสหยุดกล่าวไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มเปิดปากพูดอีกครั้ง
- ไม่ว่าต้องเผชิญอุปสรรคใดๆหรือหนทางอันแสนลำเค็ญ พวกเราก็จะก้าวผ่านมันใปให้ได้  ข้าขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการพิชิตภารกิจนี้  มีเพียงคนที่ไม่ย่อท้อเท่านั้นที่จะทำความฝันให้เป็นจริงได้  ได้เวลาแห่งการเดินทางแล้ว  ภารกิจระดับ A กำลังรอพวกเราอยู่  ข้าจะเป็นผู้พิชิตเจ้า  สุสานราชาแมงป่อง เอ๋ย
ภารกิจระดับ A อีกอันหนึ่ง!
แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับการกระตุ้นผู้คน
ธีรอสกล่าวคำพูดสุดท้าย ก่อนที่จะหายเข้าไปในโบราณสถานพร้อมด้วยสมาชิกกิลด์ของเขา
- จงดูความกล้าหาญและเกียรติอันมุ่งมั่นของเรา  จากนี้ไปจงเฝ้ามองการต่อสู้, หยาดโลหิต และชัยชนะอันทรงเกียรติของพวกเรา
วิดีโอจบลงที่ตรงนี้
ความหมายของข้อความของเขายังคงไม่ชัดเจน  ยังมีหลายๆคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบเกี่ยวกับเรื่องของภารกิจระดับ A  แต่ไม่นานนักคำตอบของเรื่องราวก็ปรากฎออกมา
สิบนาทีหลังตากที่วิดีโอได้รับการอัฟโหลดขึ้นหอเกียรติยศ  ผู้เล่นได้ค้นพบว่าทาง CTS มีเดียกำลังออกอากาศเรื่องภารกิจของกิลด์คริมสันวิง ยิ่งไปกว่านั่นมันยังเป็นการถ่ายทอดสดถึงการสำรวจโบราณสถานของกิลด์คริมสันวิง


**************************


‘พวกเราทำได้ดีทีเดียว’
ธีรอสยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
ตามความเป็นจริงแล้ว พวกเขาได้เริ่มทำการสำรวจโบราณสถานมาได้สักพักแล้ว  พวกเขาได้สูญเสียคนไปจำนวนหนึ่งในการพยายามครั้งแรก  แต่จากการสูญเสียครั้งนั้นทำให้พวกเขาคนพบเส้นทางที่นำประตูห้องศิลา  อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยพวกเขาไม่มีของที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการบูชายันทำให้พวกเขาต้องถอยกลับไป
‘ได้เวลาที่จะปิดฉากภารกิจนี้แล้ว’
ธีรอสทำทีเป็นสำรวจโบราณสถานร่วมกับสมาชิกกิลด์คนอื่นๆ  พวกโจรและนักฆ่าเป็นผู้เปิดเส้นทาง ในขณะที่นักรบและพาลาดินต่างยกโล่ขึ้นเตรียมรับอันตรายที่จะเกิดขึ้น
“ควั่ก!”
“ระวัง มันเป็นกับดัก!”
กิลด์คริมสันวิงต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่อันตรายและทำลายกับดักต่างๆ  พวกเขาพบกับมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ในบางครั้ง และนั่นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปบางส่วน
“อย่าเพิ่งยอมแพ้  อันตรายที่แท้จริงมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ”
“มุ่งหน้าต่อไป เรื่องแค่นี้หยุดพวกเรา กิลด์คริมสันวิงไม่ได้หรอก”
“โลหิตที่พวกเราสูญเสียจะเป็นตัวช่วยให้พวกเราไปถึงจุดหมาย”
“อย่าปล่อยให้เพื่อนของนายตายอย่างไร้ค่า  อย่ายอมแพ้ที่ตรงนี้!”
ผู้เล่นระดับสูงรอบๆต่างส่งเสียงร้องเล็กๆน้อยๆ
ธีรอสระดมกองกำลังของผู้เล่นระดับสูงนับพันของกิลด์คริมสันวิง  ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าเป็น 4 เท่าของการสำรวจครั้งที่แล้ว  ดังนั้นระดับของเลเวลโดยเฉลี่ยจึงต่ำกว่าปกติ  ถึงกระนั้นก็ตาม พวกเขาก็ได้ระดมผู้เล่นที่มีระดับสูงกว่า 310 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘พวกเราจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปไม่ได้’
ธีรอสฉวยโอกาสใช้ภารกิจนี้โปรโมทกิลด์ของเขาอย่างเต็มที่
การได้ออกอากาศเรื่องการเตรียมตัวอย่างยากลำบากอย่างต่อเนื่อง 24/7 นั่นสามารถช่วยเพิ่มชื่อเสียงของกิลด์ได้เป็นอย่างมาก  ยิ่งไปกว่านั้น การทำภารกิจระดับ A สำเร็จยังจะทำให้พวกเขากลายเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งในสายตาของผู้อื่นอีกด้วย
‘หากภารกิจนี้เป็นไปด้วยดีล่ะก็  ความเชื่อมั่นต่อกิลด์ของเราก็จะแผ่ขยายออกไปได้ในวงที่กว้างยิ่งขึ้น  อย่างแรกเลยก็คือการเพิ่มเงินทุนเพื่อขยายขนาดของกิลด์  และถ้าพวกสมาชิกใหม่เลเวลสูงพอ  เราก็จะยึดฉายา กิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาจากกิลด์ เฮอร์มีสได้  กิลด์คริมสันวิงของเราจะเป็นผู้ควบคุมทวีปแห่งนี้’
ธีรอสสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด
ความทะเยอทะยานของเขาไม่มีทิ่สิ้นสุด
"อ๊า!"
“ใส่แรงเพิ่มเข้าไปสิ! พรีส จงไปรักษาพวกที่บาดเจ็บ!”
กิลด์คริมสันวิง บุกตะลุยไปด้วยความยากลำบาก
ในความเป็นจริงแล้ว  พวกเขาคืบหน้าไปได้เป็นอย่างมากจากการสำรวจครั้งก่อน  แต่พวกเขาแสดงราวกับว่าพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดันเจียนเลย และแกล้งทำเป็นได้รับความยากลำบากเพื่อให้ยอดผู้ชมสูงขึ้น
สมาชิกกิลด์ทำงานอย่างหนักกับการแสดงครั้งนี้  พวกเขารู้ทั้งรู้ว่าจะต้องตายตอนไหน  พวกเขาไตร่ตรองในการวางกำลังคนให้น้อยลงเพื่อเคลียร์เส้นทาง  และแน่นอน พวกเขาได้รับคำมั่นสัญญาถึงผลตอบแทนที่คุ้มค่าเพื่อแลกกับการเสียชีวิตลงไปของพวกเขา
“แม้ว่าชั้นจะตาย  แต่การสำรวจจะต้องดำเนินต่อไปนะ”
“แน่นอน  วางใจพวกเราเถอะ”
ธีรอส จงใจนำสมาชิกกิลด์ของเขาลึกเข้าไปในดันเจียนในขณะที่เหล่าดาร์คเกมเมอร์ไว้ซึ่งอยู่ส่วนท้ายของกลุ่มสำรวจนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มอย่างเหยียดหยาม
“พวกเขากำลังทำเรื่องที่ปราศจากประโยชน์”
“การเพิ่มจำนวนคนเข้าไปมันก็ทำได้แค่ทำให้เกิดการสูญเสียมากยิ่งขึ้นนั่นแหละ”
“นั่นเป็นเรื่องของความฉลาดในการใช้ชีวิต  นายทำอะไรไม่ได้หรอกถ้านายไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมนิดๆหน่อยๆเข้าช่วย”
“ไม่ใช่เรื่องอะไรที่พวกเราต้องไปกังวล  พวกเราก็แค่ทำงานและรับผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน  แต่ไอ้การที่พวกเราไม่สามารถจะเข้าร่วมการต่อสู้ได้มันก็ทำให้หงุดหงิดนิดๆอ่ะนะ”
ในขณะที่ตามเข้าไปด้านใน  พวกดาร์คเกมเมอร์ก็เดินไปด้วยบ่นไปด้วย


************************************


หลังจากผ่านความสูญเสียมาหลายครั้ง  ในที่สุดกิลด์คริมสันวิงก็มาถึงแท่นบูชาจนได้  มันเป็นปากทางเข้าไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของสุสานแห่งกษัตริย์ เบลรอส แห่งนี้
“พวกเรามาถึงจนได้”
ธีรอสตัวสั่นไปด้วยความตื่นเต้น
ภารกิจที่พวกเขาได้รับคือการนำ แตรของกษัตริย์เบลรอส (horn flute of King Belros) กลับมา  แต่ก็ยังมีการกล่าวถึงดาบหายากและไอเทมเวทมนต์ ที่อยู่ภายในด้วยเช่นกัน
ธีรอสมองไปโดยรอบ
ตอนที่เข้ามามีผู้เล่นจำนวนพันคน  แต่ตอนนี้มีเหลือเพียงประมาณ 650 คนเท่านั้น  เกือบ 350 คนได้เสียชีวิตไประหว่างทาง  ซึ่งนับเป็นจำนวนที่สูงหากนำไปเทียบกับการมาครั้งที่แล้วที่พวกเขาใช้เส้นทางที่ถูกต้อง  ในครั้งนั้นแม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียคนไป 45 คนที่ปากทางเข้าและจำนวนก็ยังเพิ่มสูงขึ้นจนกระทั่งถึง 130 คนกว่าพวกเขาจะมาถึงแท่นบูชา

“ได้เวลาแล้ว  พวกเราทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม ”
ธีรอสนำรูปแกะสลักแมงป่อง 7 ชิ้นไปวางไว้บนแท่นบูชา  ทันใดนั้นเองประตูบานใหญ่ที่แกะสลักด้วยรูปแมงป่องสีชาด (crimson scorpion) ก็เริ่มที่จะเปิดออกพร้อมด้วยเสียงอันดัง
*ครืนนนนนนน!*
เหล่าสมาชิกกิลด์ต่างพากันกระชับอาวุธแนบกับลำตัวด้วยความประหม่า  การใช้เวทมนต์ภายในโบราณสถานนั้นไม่สามารถกระทำได้  ดังนั้นสิ่งที่ผู้เล่นสามารถพึ่งพาได้จะมีเพียงความแข็งแกร่งทางกายภาพของตนเองเท่านั้น
มันเต็มไปด้วยสัตว์ที่ไม่เคยได้ยินได้เห็นมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือมอนสเตอร์เล่มใดก็ตาม
“มอนสเตอร์”
“ทุกคน เตรียมตัวต่อสู้!”
“สู้ให้มันตายกันไปข้างนึง”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราไม่ยอมถอยหรอก!”
ธีรอสเข้าสู่สนามรบพร้อมทั้งบัญชาการรบกับสมาชิกกิลด์
พวกดาร์คเกมเมอร์ก็เหมือนกัน พวกเขาไม่ได้มาอยู่ตรงนั้นเพื่อเป็นตัวประกอบ  พวกเขาจัดรูปขบวนป้องกันเป็นรูปวงกลมโดยมีพรีสอยู่ตรงวกลางและมีพวกอาชีพสายต่อสู้พิเศษเพื่อปกป้องพวกเขา
ถึงแม้พวกเขาจะจัดรูปขบวนได้เสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว  แต่ก็มีพวกสัตว์ปีศาจบางตัวที่เข้าถึงตัวของพวกเขา
*โฮกกก แง่งง!*
สัตว์ร้ายร้องออกมา
ผลจากการจู่โจมอย่างโหดร้ายของพวกมันส่งผลให้สมาชิกของกลุ่มสำรวจประสบความสูญเสียอย่างต่อเนื่อง  นี่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะอยู่ตรงประตูที่แคบๆแทนที่จะใช้รูปแบบกลมในการต่อสู้  ผลการต่อสู้คงจะออกมาดีกว่านี้  แต่นี่พวกเขาเชื่อถือในสิ่งที่ปฏิบัติกันเป็นประจำส่งผลให้พวกเขาสูญเสียชีวิตของสมาชิกมากกว่าที่จำเป็น
แต่จากการที่กิลด์คริมสันวิงทุ่มเทกำลังทั้งหมดของนักรบ, พาลาดิน และนักดาบของพวกเขาเข้าไปทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะที่แนวหน้ามาได้
“พวกเราชนะ!”
หลังจากจบศึก พวกเขาเหลือคนเพียงประมาณ 480 คนเท่านั้น  มีหลายชีวิตที่ต้องสูญเสียไปและเป็นอีกครั้งที่พวกเขาเป็นผู้ชนะ
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ธีรอสเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อน  ประตูที่เปิดอยู่เปล่งประกายแสงอันเจิดจ้า
บรรดาสมาชิกของกลุ่มสำรวจที่เข้าไปในรังของสัตว์ร้ายได้แต่อ้าปากค้างไปด้วยความประหลาดใจโดยที่ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้
"ไอ้หยา!"
“สมบัติ”
ในส่วนลึกของห้องปรากฎเห็นเป็นรูปปั้นแมงป่องทองคำขนาดยักษ์และทรัพย์สมบัติมากมายซ้อนเป็นกองพะเนินอยู่ใกล้ๆ
“ทองคำพวกนี้มันอย่างน้อยๆก็ ครึ่งล้าน”
“ครึ่งล้านงั้นรึ?  นี่มันอย่างน้อยๆก็ล้านนึงต่างหากล่ะ”
เงินทองไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้คณะสำรวจตื่นเต้น  มันมีไอเทมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกแห่งหน  สมบัติเหล่านั้นกองซ้อนกันอยู่พร้อมกับส่องแสงเป็นประกาย
ธีรอสพบ แตร อย่างง่ายดาย โดยมันถูกวางอยู่ที่เบื้องหน้าของรูปปั้นแมงป่องทองคำ
“นี่สินะ”
ธีรอส ยกแตร ขึ้นมา  จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือการนำแตรของกษัตริย์เบลรอสกลับไปยัง เคาท์เกรซ (Count Grace)
‘ภารกิจของเราจะสำเร็จได้ด้วยสิ่งนี้’
มันเป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก แต่พวกเขาก็บรรลุจุดหมายของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย
อนาคตของธีรอสช่างดูเรืองรองยิ่งนัก
CTS  มีเดียกำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้  มีคนอย่างน้อยๆหนึ่งล้านที่กำลังดูอยู่ เผลอๆจะถึงสิบล้านเอาก็เป็นได้
เมื่อภารกิจระดับ A นี้สิ้นสุดลง  ฉากที่ไม่อาจลืมเลือนนี้จะถูกประทับลงในความทรงจำของพวกเขา  วิดีโอที่ถูกออกสื่อจะได้รับการดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะเสริมสร้างชื่อเสียงให้กิลด์เป็นอย่างมาก
การมีอำนาจเหนือผู้อื่นใดของกิลด์คริมสันวิง จะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ทันใดนั้น ดาบสีขาวบริสุทธิ์เล่มหนึ่งได้ดึงดูดสายตาของธีรอสเอาไว้  ด้ามดาบฝังไว้ด้วยรูปเปลวเพลิง  ถึงแม้จะมีสมบัตินับไม่ถ้วนอยู่ที่แห่งนี้ แต่ในบรรดาของเหล่านั้นดาบเล่มนี้ดูสวยงามสะดุดตาเป็นพิเศษ
‘นี่มันไอเทมเอกลักษณ์ชัดๆ  บางทีอาจจะเป็นดาบของกษัตริย์  แต่เราก็ไม่แน่ใจเท่าไร’
ดวงตาของธีรอสเปล่งประกายของความโลภออกมา
ไม่มีนักรบคนไหนจะโลภเกินไปเมื่อเขาได้ดาบที่ดีกว่าเดิม  หากแต่พวกเขาถือเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาค่าความเสียหายสูงสุดที่ทำได้มากไปกว่าการป้องกัน
ดาบทุกๆเล่มมีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญในเรื่องของอานุภาพการทำลายล้าง  โดยปกติแล้วจะไม่มีการนำสุดยอดดาบไปเปรียบเทียบกับดาบธรรมดาสามัญ  ดาบจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายอาชีพ, ความลงตัว และลักษณะของมอนสเตอร์  ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ธาตุไฟคุณก็ควรจะใช้อาวุธน้ำแข็ง  และกับพวกมอนสเตอร์ธาตุมืด การใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นทางเลือกที่ฉลาด  ดังนั้นแล้วนักรบจึงมักจะครอบครองดาบที่แตกต่างกัน 3-4 ประเภท
‘มันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องครอบครองสุดยอดดาบ เพื่อที่กิลด์คริมสันวิงจะได้สามารถปกครองไปทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์  ด้วยดาบอันเปี่ยมไปด้วยเกียรติภูมิเล่มนี้จะยิ่งส่งเสริมชื่อเสียงของเราเป็นอย่างมาก’
ธีรอสจ้องไปยังดาบเล่มนั้นอย่างเงียบๆ  ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากิลด์ เขาปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของสุดยอดดาบ  ดาบที่งดงามราวกับผลงานทางศิลปะ  มีเพียงดาบที่ไร้ที่ติเท่านั้นจึงจะคู่ควรกับเกียรติภูมิของเขา
จากนั้น สมาชิกกิลด์ก็เห็นธีรอสและดาบ
“ธีรอส เอาเลย มันเป็นของนาย”
“หัวหน้าธีรอส ท่านได้รับความลำบากมามาก  สมควรแล้วที่ท่านจะได้รับดาบเล่มนี้”
สมาชิกกิลด์ของธีรอสต่างสนับสนุนให้เขาไปเอาดาบมา  พวกเขาได้พบกับป้ายสัญลักษณ์ข้างใต้ดาบ
การได้มองดูดาบอยู่เป็นเวลานาน มันส่งผลต่อความรู้สึกอย่างรุนแรง
“เฮ้, มีอะไรบางอย่างเขียนอยู่ด้วยล่ะ!”
ซาบรอน (Sabron) ทำการแปลตัวอักษร ได้ความว่า
จงนำดาบไป

“มันบอกว่าจงนำดาบไป”
“เอาดาบไป ชั้นน่ะเหรอ?”
ธีรอสไม่แสดงอาการกระตือรือล้นออกมาให้เห็นนัก  แต่ลึกๆลงไปแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นในตอนที่เขาเข้าใกล้ดาบ

ถ้าวีด อยู่ที่นั่น วีดต้องสงสัยเรื่องนี้ไปอย่างน้อยก็ห้าครั้งแล้ว! ด้วยการต่อสู้ที่ไม่ลำบากยากเย็นนี้ พวกเขาควรที่จะตั้งข้อสงสัยกับสิ่งรอบข้าง  เมื่อพิจารณาจากการที่ทุกสิ่งทุกอย่างไปได้ดีขนาดนี้  ภารกิจนี้มันง่ายเกินกว่าที่จะเป็นระดับ A   พวกเขาเพิ่งจะผ่านการต่อสู้ที่อันตรายมาแค่ไม่กี่ครั้ง


มันช่างแตกต่างกับวีด ที่ต้องสั่งการกองทัพและนำพวกเขาเข้าสู่การต่อสู้  แม้ว่าการได้นำทัพจะถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ แต่ทั้งออร์คและดาร์ดเอลฟ์ต่างก็ไม่สามารถใช้ศักยภาพของพวกมันได้สูงที่สุด
คู่ต่อสู้ของกิลด์คริมสันวิงนั้นอ่อนแอจนเกินไป  ความยากของเควสนี้ไม่สามารถที่จะนำไปเปรียบเทียบกับภารกิจกองทัพอมตะได้เลย  ยิ่งไปกว่านั้น ภารกิจนี้ยังไม่มีอะไรที่กล่าวถึงการครอบครองดาบเลยแม้แต่น้อย
ในชั่วขณะที่ธีรอส คว้าดาบเอาไว้
*แว่บ!*
สถานที่แห่งนั้นบรรจุไปด้วยสมบัติที่ทำจากทองคำ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“บริเวณนี้มันสว่างขึ้น”
ผู้คนรู้ว่าแสงมาจากที่ไหน  แต่หลังจากที่ได้ค้นหาพวกเขาก็ค้นพบต้นกำเนิดของมัน
รูปปั้นแมงป่องทองคำได้ถูกปลุกขึ้นมา
“เจ้าพวกละโมบโลภมาก  เจ้าไม่เกรงกลัวที่จะบุกรุก สุสานแห่งเบลรอส – ราชาไฟผู้ยิ่งใหญ่  ราชาทรงเบื่อหน่ายกับความเขลาของพวกเจ้า  ผู้ที่ล่วงล้ำจะไม่ได้รับการให้อภัยอย่างเด็ดขาด พวกเจ้าทุกคนจะต้องได้รับการลงทัณฑ์!”
*อว๊าก ย้ากส์ (Hwareureuk)!* (ผู้แปล : ผมอ่านไม่ถูกครับว่าจะอ่านยังไง  ใครมีไอเดียอะไรเสนอได้ครับ)
ร่างกายของธีรอสถูกเปลวเพลิงแผดเผาเมื่อเขาคว้าไปที่ดาบ  เขาตายเป็นผุยผงไปในพริบตา
เป็นความสูญเสียอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับคณะสำรวจ
จิตวิญญาณแห่งไฟ!
จิตวิญญาณแห่งไฟจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎตัวออกมาพร้อมทั้งจู่โจมพวกเขาพร้อมๆกัน
กลุ่มผู้สำรวจล้มเหลวต่อการรับมือสถานการณ์ฉุกละหุกนี้  และรูปแบบการจัดขบวนของเขาก็ค่อยๆรวนเร จนพังทะลายลงไปในที่สุด  ขณะที่มองดูเหล่าคณะสำรวจสลายเป็นเถ้าถ่าน  แมงป่องทองคำได้กล่าวขึ้นว่า:
“พวกมนุษย์ที่โง่เขลา! เจ้าได้ปลุกความพิโรธของราชาเบลรอสขึ้นมา และได้นำคำสาปแห่งไฟมาสู่ทวีปแห่งนี้”


***************************


CTS มีเดียได้นำการผจญภัยของพวกเขาเผยแพร่ออกอากาศสู่สายตาผู้ชมนับล้าน
กิลด์คริมสันวิง ล่มสลายลงไปในตอนนั้นเอง เป็นความโลภที่ทำให้กิลด์คริมสันวิงทำภารกิจล้มเหลว และนำพวกเขาไปสู่หายนะ
ตอนแรกพวกเขายังไม่เข้าสิ่งที่แมงป่องทองคำกล่าว  แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ตระหนักว่าพวกเขาทำภารกิจล้มเหลว
ผู้คนในรอยัลโรดเริ่มที่จะโพสข้อความกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
- ความชื้นกำลังเพิ่มขึ้น
- อยู่ๆแสงอาทิตย์ก็จ้าขึ้น
- ดูเหมือนอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5 องศา

คำสาปแห่งราชาเบลรอส!
มันก่อให้เกิดคลื่นความร้อน
ทั้งทวีปถูกโจมตีด้วยคลื่นความร้อนตลอดทั้งปี  ทำให้มันกลายเป็นดินแดนมรณะ
ถึงแม้จะว่ากันว่ามันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ที่ใช้ธาตุไฟเพราะเวทมนต์ไฟจะทรงพลังและประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้นก็ตาม  แต่แม้ว่าพวกเขาจะชอบธาตุไฟก็เถอะ พวกเขาก็จะชอบมันจนกระทั่งถึงตอนที่เหงื่อไหลผ่านกระดูกสันหลังเท่านั้น เพราะก่อนที่จะออกล่าครั้งถัดไปพวกเขาต้องการที่จะสูดอากาศเย็นบริสุทธิ์บ้าง  ซึ่งตอนนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปเนื่องมาจากคลื่นความร้อนดังกล่าว
ผู้เล่นจำนวนมากต่างพากันก่นด่าสาปแช่ง!
กิลด์คริมสันวิงถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด  พวกเขาสูญเสียชื่อเสียงและความภาคภูมิใจของพวกเขาไปในการเข้าร่วมภารกิจระดับ A ครั้งนี้  กิลด์เสื่อมเสียเป็นอย่างมากจากความล้มเหลวครั้งนี้ และทุกคนต่างก็จดจำพวกเขาได้ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ตาม
บรรดาพ่อค้าและนักแลกเปลี่ยนต่างก็ปฏิเสธที่จะขายสินค้าให้พวกเขา  รวมถึงเหล่าพวกผู้เล่นที่ต่างก็ไม่ยอมเข้าร่วมปาร์ตี้กับพวกเขาด้วยเช่นกัน
กิลด์พันธมิตรก็ค่อยๆถอนตัวไปทีละหนึ่งทีละหนึ่ง
กิลด์ที่เคยได้รับการยอมรับอย่างสูงกิลด์หนึ่งก็ได้ล่มสลายลงไป


********************************

ด้วยความที่มีเวลาเหลือ ลี ฮุนจึงทำการล้างหน้าล้างตาและอาบน้ำ
“ชั้นชอบฤดูร้อน”
มันเป็นเรื่องลำบากที่จะอาบน้ำในฤดูหนาว  อย่างแรกก็เพราะเครื่องทำน้ำร้อนต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการทำให้น้ำอุ่น เขาไม่มีทางที่จะรวยขึ้นมาได้แน่ถ้ามีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มพวกนั้นในใบเสร็จค่าไฟของเขา  ในทางกลับกันกับฤดูร้อนที่แสนดีที่ทำให้เขามีทางเลือกที่จะอาบน้ำเย็นได้
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเขาก็เข้าไปยังเวปไซด์ประมูล
ดาบใหญ่ของออร์ค, ผ้าคาดศีรษะเอลฟ์จำนวนหนึ่ง, สมุนไพรหายากที่ใช้เป็นยาพิษชนิดพิเศษ และก็แจปเทม(japtem)
ด้วยทักษะตัดเย็บและแบล็คสมิธที่เขามี ทำให้เขาตั้งใจที่จะเก็บพวกแร่และหนังสัตว์ที่เขารวบรวมระหว่างการผจญภัยในเทือกเขายุโรกิและที่ราบแห่งความสิ้นหวังเอาไว้ใช้เอง  ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอาไปเทมพวกนั้นไปลงในเวปไซด์ประมูล  แทนที่จะขายเป็นแร่ดิบที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการอะไร  เขาต้องการที่จะขายไอเทมที่เขาสร้างขึ้นให้แก่ผู้เล่นมากกว่า  ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้เขาหาผู้ซื้อได้ง่ายกว่า

ลี ฮุนใช้เวลาเกือบ 24 ชั่วโมงตลอดวันไปกับ รอยัลโรด
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้ได้ค่าประสบการณ์และไอเทมที่จะนำพาเงินทองมาสู่เขา!
“นี่ชั้นจะล็อกอินเข้าไปดูได้รึยังเนี่ยว่าชั้นได้อะไรมากันแน่?”
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงเป๊ะนับตั้งแต่เวลาที่เขาเสียชีวิตในเกม


******************************

ผู้อำนวยการของ KMC มีเดียได้พยายามที่จะติดต่อทั้งทางโทรศัพท์ , การส่งอีเมลล์มาเป็นโหลๆ, รวมไปข้อความส่วนตัว
แต่เขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง  โดยที่ไม่ได้รับการตอบกลับแม้สักนิด
“ได้โปรดอ่าน อีเมลล์ พ่อง มึ_ บ้างซิโว้ย!”
ผู้อำนวยการของ KMC มีเดีย เป็นชายที่ไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไร  เขาได้พยายามใช้ทุกวิถีทางที่เขามีอยู่
และตอนที่อยู่บนรถ  ดวงตาของเขาก็เบิ่งกว้างออกเมื่อเขาเห็นไอเทมของลิช ไชร์ อยู่บนเวปแลกเปลี่ยน
“นี่ไงล่ะ  นี่แหละของที่ชั้นกำลังพูดถึงอยู่”
อาวุธจาก ดาร์ค เอล์ฟ และออร์ค, หนังของมอนสเตอร์ยักษ์
ไม่ต้องมีข้อสงสัยเลย
ผู้อำนวยการทำการเข้าประมูลไอเทมพวกนั้นในทันที
เขาให้ราคาที่สูงถึง 30 ล้านวอน สำหรับกับแค่กรงเล็บของมิโนทอร์(Minotaurus) อันนึง


*********************


จากการที่ วีดตาย ทำให้เขากลับมาเกิดใหม่ที่หมู่บ้านของมนุษย์ที่ใกล้ที่สุดที่เรียกว่า หมู่บ้านผู้ถูกเนรเทศ
ชาวบ้านต่างกำลังยุ่งอยู่ พวกเขาเคลื่อนที่ไปโน่นนี่อย่างมีจุดมุ่งหมายด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยประกายและความมีชีวิตชีวา
นักล่า โคคุน กำลังซ่อมโล่ของเขาอยู่
“เฮ้ วีด เจ้ากลับมาแล้วรึ”
“สงครามกับกองทัพอมตะเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“พวกเราชนะ ลิช ตายไปแล้ว”
“แล้วไงต่อ?”
“หลังจากที่การต่อสู้จบลง พวกเราก็กลับมาที่นี่  พวกคนในหมู่บ้านที่เคยเป็นทาสก็กลับมาด้วย ตอนนี้ ออร์คและมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีข้อขัดแย้ง  แม้เป็นจะเป็นแค่การสงบศึกชั่วคราวก็เถอะ ตอนนี้พวกออร์คกำลังหา คาริชวิ วีรบุรุษของพวกเขาอยู่  ส่วนพวกเนโครแมนเซอร์กำลังตามหาเจ้า  พวกเขาตั้งใจที่จะออกจากโลกนี้ไปทันทีที่พวกเขาพร้อม”
ด้วยข้อมูลล่าสุดที่ได้  วีดเข้าใจแล้วว่าเขาจะต้องทำอะไรเพื่อเป็นการจบภารกิจนี้
“เข้าใจละ  ข้าจะไปพบพวกเขา”
“ขอบใจที่ช่วยปกป้องหมู่บ้านของพวกเรา  มันอาจจะไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก แต่อยากให้เจ้ารู้ว่าประตูของที่ราบแห่งความสิ้นหวังเปิดต้อนรับเจ้าอยู่เสมอ  พวกเราติดหนี้บุญคุณเจ้าอยู่”
โคคุนกลับไปขัดโล่ของเขาต่อ
วีด ตัดสินใจจะไปพบพวกเนโครแมนเซอร์ก่อน
“หน้าต่างสถานะ (Stat Window)!”
ชื่อตัวละคร วีด ฝักฝ่าย เป็นกลาง
เลเวล 286 อาชีพ ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน
ฉายา ช่างที่ความชำนาญพิเศษ
(Artisan With Exceptional Dexterity)
ชื่อเสียง 13645

พลังชีวิต 19230 มานา 9760
ความแข็งแกร่ง 715+65 ความคล่องแคล่ว 575+65
ความอึด 134+65
ปัญญา 136+65 ความฉลาด 154+65
จิตวิญญาณนักสู้ 323+65 ความอดทน 180+65
ความแข็งแกร่ง 374+65
ศิลปะ 447+145 บารมี 212+65
ความเป็นผู้นำ 492+65 โชค 5+65
ศรัทธา 96+435 เสน่ห์ 39+65
โจมตี 2211 ป้องกัน 640

ความต้านทานเวทมนตร์
ไฟ 13% น้ำ 15%
ดิน 25% มนต์ดำ 50%


เลเวลขอบเขาเพิ่มขึ้น 7 เลเวล
ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนฆ่า ลิช ด้วยตนเอง  แต่วีดมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก  ต้องขอบคุณเรื่องนั้นที่ทำให้เขาเลเวลขึ้นมาอย่างทันควัน ทำให้แม้จะเสียชีวิตไปแต่เลเวลของเขาก็ยังอยู่ที่ระดับ 286  อย่างไรดี อะไรหลายๆที่ไม่เกี่ยวกับเลเวลของเขาลดลงไปพอสมควร
อาชีพสายต่อสู้จะได้รับค่าสถานะที่สูงขึ้นในด้านของความแข็งแกร่ง, ความว่องไว หรือ ปัญญา เมื่ออาชีพของพวกเขาก้าวขึ้นไปสูขั้นที่ 2  แต่ประติมากรไม่ได้รับผลประโยชน์เหล่านั้น  พวกเขาได้รับทักษะหัตถกรรมมาแทน
ส่วนใหญ่แล้ว อาชีพประติมากรจะเกี่ยวข้องกับการผลิตผลงานศิลปะ  วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการพัฒนาทักษะหัตถกรรมก็คือการเรียนรู้ทักษะผลิตที่หลากหลาย  จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากความสามารถเหล่านั้นสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายออกมา
ต้องขอบคุณเรื่องนี้ที่ทำให้ความสามารถทั้งทางกายภาพและจิตใจสามารถเพิ่มขึ้นได้เท่าเทียมกับพวกอาชีพสายต่อสู้
หากมีใครที่ทุ่มเทเวลาลงไปอย่างเพียงพอ  เขาคนนั้นย่อมสามารถที่จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเหนือกว่าผู้เล่นอื่นๆที่เลเวลระดับเดียวกันได้  อย่างไรก็ดี  ข้อด้อยของประติมากร ก็คือระดับทักษะ
เมื่อคุณเสียชีวิตลง  ค่าประสบการณ์จากการสร้างสรรค์ผลงานที่ได้มาอย่างยากเข็ญจะตกลง:
ประติมากรรมขั้นกลาง 13%, ทำอาหาร 10%, ช่างฝีมือ 16%. เย็บผ้า, แบล็คสมิธ, สมุนไพร, ตกปลา, ลับดาบ, ขัดเกราะ, ผ้าพันแผล, รีดผ้า  สกิลพวกนี้ตกลงไป 5-7%  ซึ่งเทียบได้กับการสูญเสียเลเวลไป 2-3 ระดับ
“เฮ้อ”
วีดตัวสั่นไปด้วยความเศร้า
ทำไมทักษะที่เขาเฝ้าฝึกฝนมาถึงได้ตกลงไปขนาดนี้ได้เนี่ย! แต่ช่างมันก่อน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยืนยันอะไรบางอย่างที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือไอเทมที่เขาได้มาจาก ลิช ไชร์!
เขาต้องยืนยันว่าเขาได้อะไรมากันแน่
วีดล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเป้ของเขาอย่างเงียบๆ
คฑาด้ามหนึ่ง!
อัญมณีชิ้นนึง!
ตำราเวทมนตร์เล่มนึง!
มันคงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากเขาปราศจากความว่องไวพอที่จะฉวยไอเทมมาได้ในทุกสถานการณ์
แถมวีดเองก็สูญเสียไอเทมบางอย่างไปด้วยจากการที่เขาเสียชีวิตลง
ไอเทมเหล่านั้นได้แก่เตาทองเหลืองสำหรับตีเหล็ก, ด้ายและเข็มที่ใช้ในการตัดเย็บ
ในแง่ของตัวเงินแล้ว มันไม่ได้เป็นการสูญเสียอะไรที่มากมาย
“ไม่มีเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์  แถมชั้นเดาว่าตำราเวทมนต์นั่นน่าจะเป็นไอเทมภารกิจ...”
วีดยังคงรู้สึกกังวล
ถึงแม้จะมีไอเทมตกมาไม่น้อย  แต่ถ้ามันไร้ประโยชน์ไปซะทุกอย่างล่ะก็  นั่นก็แปลว่าที่เขาทุ่มเทลงไปนั้นไม่ได้อะไรกลับมาเลย
“ตรวจสอบ!”
วีด ตัดสินใจที่จะตรวจสอบตำราเวทมนต์เพื่อสงบจิตใจของเขาลง
*ตริ๊ง!*
หนังสือเวทมนต์เนโครแมนเซอร์ที่เขียนด้วยลายมือของบัลข่าน:
ความคงทน:30/30
ตำราเวทมนต์ดำที่ช่วยเปิดประตูความสามารถในการอัญเชิญอันเดธ  มันบรรจุกรรมวิธีในการอัญเชิญอันเดธตั้งแต่ระดับที่ง่ายที่สุดไปจนถึงระดับที่ซับซ้อนที่สุด
เนื่องด้วยเป็นตำราที่เขียนขึ้นโดยนักเวทที่เปรื่องปราดอย่างบัลข่าน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ ทว่าการสร้างและควบคุมอันเดธนั้นต้องใช้มานาปริมาณมหาศาล  ดังนั้นจึงควรใช้ทักษะด้วยความระมัดระวัง
ข้อจำกัด:
เฉพาะอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเวทมนต์
เลเวล: 300
ปัญญา: 500
มานา: 8000
สามารถที่จะก้าวไปสู่อาชีพเนโครแมนเซอร์ได้
คุณสมบัติเสริม:
ความต้านทานมนต์ดำ +25
ความสามารถในการสร้างอันเดธ +2
หากมีค่าความฉลาดที่สูงคุณจะสามารถสร้างบอสอันเดธที่มีเลเวล, พัฒนาความแข็งแกร่งแก่อันเดธและเพิ่มความต้านทานต่อเวทศักดิ์สิทธิ์ได้

มันเป็นไอเทมล้ำค่าที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดที่ใช้ในการสร้างและฝึกฝนอันเดธ
‘ชั้นจะต้องได้เงินจากมันเยอะแน่ๆ’
วีด เก็บตำราลงไปในกระเป๋าของเขา เพราะมันคงเป็นเรื่องยากที่จะขายมันจนกว่าจะมีเนโครแมนเซอร์มากกว่านี้
แม้เขาจะได้สุดยอดไอเทมสำหรับอาชีพเนโครแมนเซอร์มา  แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาชีพนี้ยังได้รับความสนใจไม่มากนัก
และแม้จะมีคนที่สนใจอยู่บ้าง แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งกว่าที่ผู้คนเหล่านั้นจะก้าวไปถึงอาชีพเนโครแมนเซอร์  ดังนั้นจึงยังไม่มีผู้ใดสามารถใช้ตำรานี้ไปได้อีกซักระยะหนึ่ง
เมือใดก็ตามที่ข้อได้เปรียบของการเป็นเนโครแมนเซอร์เผยแพร่ไปสู่สาธารณะ ก็จะมีผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนสายอาชีพ  อย่างไรก็ดี ความอ่อนด้อยทางกายภาพก็ยังคงเป็นเรื่องร้ายแรงของสายอาชีพนี้อยู่
เนโครแมนเซอร์ไม่สามารถได้รับการรักษาหรืออำนวยพรจากมนต์ศักดิ์สิทธิ์  นี่นับเป็นปัญหาใหญ่เพราะด้วยความที่มีความแข็งแกร่งของร่างกายต่ำอันเนื่องมาจากการเลือกอาชีพสายเวท ทำให้พวกเขามีโอกาสตายสูงขึ้นเป็น 3-4 เท่า  ด้วยเหตุนี้นักเวททั่วไปจึงไม่สามารถเป็นเนโครแมนเซอร์ที่สมบูรณ์ได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้เนโครแมนเซอร์อาจจะไม่เหมาะสมกับการจัดเข้าปาร์ตี้ทั่วๆไป เพราะ เนโครแมนเซอร์จะทำการอัญเชิญอันเดธออกมาเป็นจำนวนมาก และก็เป็นอันเดธเหล่านั้นเป็นผู้ทำการฆ่าศัตรูเสียเป็นส่วนใหญ่  ด้วยวิธีการต่อสู้ที่ปลอดภัยเช่นนี้ส่งผลให้ค่าประสบการณ์ที่ได้จะน้อยกว่าการต่อสู้แบบปกติเป็นอย่างมาก จำนวนของเนโครแมนเซอร์จะค่อยๆเพิ่มขึ้น และสุดท้ายจะเหลือเพียงนักเวทที่ชอบสไตล์แบบนั้นเท่านั้นที่จะเลือกเส้นทางนี้
วีด ค่อยๆสูดสมหายใจเข้าไปลึกๆ พร้อมทั้งตรวจสอบไม้เท้า
“ตรวจสอบ!”
ไม้เท้าของนักบุญ:
ความคงทน: 90/90
พลังโจมตี: 15-20
ไม้เท้าที่ว่าครั้งหนึ่งเคยถูกใช้โดย โกเรียน นักบุญผู้ยิ่งใหญ่ในยามที่ขาเขาไม่ดี มันถูกสร้างขึ้นโดยไม้เอล์ฟที่มีน้ำหนักเบาหากทว่าแข็งแกร่ง  แต่เนื่องด้วยฝุ่นละอองที่หนาส่งผลให้ไม่มีใครจดจำได้  มันถูกฝังไว้ด้วยพลังแห่งชีวิต
ข้อจำกัด:
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้พวกอาชญากรและวอร์ล็อกที่สามารถใช้ได้
คุณสมบัติเสริม:
ความศรัทธา +150 หากถูกใช้โดยพรีส
เสน่ห์ +30
ความทรหด +20
ลดปริมาณการใช้ความอึดในทุ่งหญ้ารก
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 30% กว่าปกติเมื่อทำการบริจาค
สามารถใช้เวทอุทิศตน หรือ เวทเสียสละได้
เมื่อถูกใช้โดยผู้มีจิตใจชั่วร้าย ไม้เท้าจะช่วยเพิ่มพลังด้านมืด
อุทิศตน (Devotion):
ใช้พลังชีวิตและมานาทั้งหมดที่มี โดยจะคงเหลือไว้ 1%
ช่วยเพิ่มระดับของมนต์อำนวยพรและป้องกันแก่สมาชิกปาร์ตี้ทุกคนไปอีกระดับชั้นหนึ่ง
เสียสละ (Sacrifice):
โดยการเสียสละชีวิตของคุณเอง  สามารถฟื้นพลังอย่างสมบูรณ์แบบให้แก่สมาชิกของปาร์ตี้ได้สูงถึง 50 คน

สมเป็นไม้เท้าที่โดนตั้งความหวังเอาไว้อย่างสูง!
“เป็นอย่างที่ชั้นคิดเอาไว้เลย!”
ไอเท็มนี้แหละที่เพียงพอที่จะช่วยปลดปล่อยวีด ออกจากห้วงความเศร้าโศก
“ชั้นจะเอามันไปขายที่ไหนดีน้า?”
อาวุธเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าปีศาจหากนำมาเทียบกับไม้เท้าเปราะบางที่พวกเนโครแมนเซอร์เอาไว้ใช้ร่ายมนต์ของตน ก่อนที่จะทำการตรวจสอบและปลดผนึกมัน เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นอาวุธที่ดีของพรีส ด้วยความที่พวกเขามีค่าความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ต่ำ พวกเขาจึงไม่สามารถใช้อาวุธประเภทคทาได้  พวกเขาจึงมากจะพกไม้เท้าหรือไอเทมศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยเพิ่มค่าความศรัทธาของพวกเขาได้
ใครมันจะต้องการไม้เท้าอันนี้?!
ถ้าหากว่าเป็นดาบ มันจะช่วยเพิ่มความเสียหายได้  แต่ไม้เท้านี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากเสริมค่าสถานะส่วนบุคคล
“ในโลกที่เห็นแก่ตัวใบนี้  ค่านิยม, การอุทิศตน และ การเสียสละมันไม่มีอยู่จริงหรอก”
วีด ทุบกำปั้นลงบนพื้นด้วยความปวดร้าว
“ชั้นไม่น่าหยิบมันมาเลย”
อย่างไรก็ตาม ความคิดที่จะเขวี้ยงมันทิ้งไปไม่เคยแวบเข้ามาในหัวเขาเลยซักครั้ง
เขาไม่จำเป็นต้องขายมันให้พรีส เพราะมันช่วยเพิ่มพูนมนต์ดำเช่นกัน  ดังนั้นเขาจะขายให้พวกอาชญากรหรือวอร์ล็อกก็ได้
“มันก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือ  ไม่ใช่ความผิดของมีดซักหน่อยที่มันเป็นมีด  มันอยู่ที่คนใช้มันต่างหากล่ะ”
ท้ายที่สุด เขาก็มาสำรวจอัญมณีที่เขาลูท (loot) มาได้ ซึ่งอัญมณีนั้นจะใช้ในการสร้างอาวุธและชุดเกราะเพื่อเพิ่มพลังของมัน!
พวกมันล้วนแล้วแต่เป็นอัญมณีชั้น 1 ทั้งสิ้น
ช่างทอผ้าสามารถนำผืนหนังที่แตกต่างมารีไซเคิลได้ฉันใด ช่างตีเหล็กก็ทำได้ฉันนั้น  ทั้งนี้อาจจะมีความแตกต่างที่มากน้อยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญทางทักษะ  ด้วยมูลค่าของโลหะที่เขาพบนั้น แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตาม ก็จำต้องใช้ความทุ่มเทเป็นอย่างสูงในการหลอมมัน
“ด้วยไอ้นี่ ชั้นน่าจะพอคุ้มทุนบ้าง”
วีด นั้นคิดไกลไปอีกขั้นแล้ว
แม้ภารกิจจะสำเร็จลง  แต่เขาลงทุนไปด้วยเลเวล 20 เลเวล, ค่าสถานะทางศิลปะ100 แต้ม และ เงินอีก 70,000 เหรียญทอง ภารกิจนั้นแตกต่างจากการล่าตรงที่มันนำเอาผลงานที่ทำมาใช้ในการพิจารณาด้วย
“ถ้านี่เป็นภารกิจลูกโซ่ล่ะก็ ชั้นคงต้องไปหาพวกเนโครแมนเซอร์เพื่อให้ได้รางวัลสินะ”
วีด ออกจากหมู่บ้านและมุ่งหน้าไปยังเทือกเขายุโรกิ   เศษซากปรักหักพังกระจัดกระจายและหลุมบ่อปรากฎให้เห็นตามสนามรบ
รอยบนพื้นแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ที่เกิดจาก ออร์ค, ดาร์ค เอล์ฟ และพาลาดิน
แตรแรดได้ถูกช่วงชิงมาพร้อมกับการจากไปของพวกหมอผี
หลังจากที่วีด ตายไป เขาก็ไม่ได้ปรากฎตัวขึ้นไปเวลา 4 วัน ดังนั้นของที่ตกก็ถูกเก็บไปหมดแล้ว
“ก็ยังดี”
เขายังสามารถคว้าสมุนไพรพิเศษเอาไว้ได้  พวกสมุนไพรเกรดสูงพวกนี้สามารถนำไปขายได้ในราคาที่ดีกว่า
“ชั้นยังพอที่จะทำกำไรได้”
ดวงตาของวีด เบิ่งขึ้นเมื่อเขาเห็นสมุนไพร
ภายในส่วนลึกของหุบเขา พวกสมุนไพรพวกนี้เติบโตเป็นอย่างดี  เขาจะค่อยๆเก็บเกี่ยวพวกมันอย่างระมัดระวังโดยไม่ให้หลุดรอดไปได้แม้แต่ต้นเดียว คอยดูสิ
*พาบาบาบั่ก (Pabababag)!* (น่าจะเป็นเสียงขุดดิน)
เขาขุดดินรอบๆสมุนไพรด้วยมีดที่มีจนกระทั่งเห็นรากของมัน  จากนั้นเขาก็ใช้มืออันว่องไวของเขาดึงมันออกมาโดยที่รากของมันยังมีดินติดอยู่
ในอดีต เขาคงมองว่างานพวกนี้มันต้องใช้ความพิถีพิถันจนเกินไป  เงินที่ได้จากสมุนไพรมันก็แค่ส่วนเสริมและมันไม่จำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทอะไรให้มันมากมายนัก  แต่ตอนนี้วีดได้ใช้เงินของเขาไปเกือบทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงได้ละโมบมากกว่าปกติ
“เงิน, เงิน, เงิน”
วีด บรรจงใส่สมุนไพรลงไปในขวด  ภายในเวลาไม่นานเป้ของเขาก็เต็มไปด้วยขวดสมุนไพรที่พร้อมนำเอาไปหมักบ่ม


*********************************


เครื่องดื่มเป็นของที่หาได้ยากในเทือกเขายุโรกิ
เหล่าทหารหาญจากโรเซนไฮม์และออร์คดื่มร่วมกันด้วยการกระทำที่อุกอาจเยี่ยงการนำจอกศักดิ์สิทธิ์เฮเลนมาผสมน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์และน้ำผลไม้ให้กลายเป็นน้ำประดิษฐ์
เป็นการใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของวิหารแห่งเฟรย่าเพื่อความบันเทิงส่วนบุคคล!
น้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกนำไปผสมกับสมุนไพร ก่อให้เกิดกลิ่นที่หอมหวาน และไหลรื่นลำคอเมื่อดื่มลงไป
จากการที่ภารกิจดำเนินไปได้เป็นอย่างดี  ทำให้เป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้ที่มีกำไรงาม  การเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการผลิตที่หลากหลายย่อมสร้างข้อได้เปรียบให้แก่ วีด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะการณ์ใดก็ตาม
“ชีวิตของประติมากรแขวนอยู่บนเส้นด้าย  ถ้าคุณไม่หาเงินจากทางด้านอื่นหรือขายผลงานสลักของคุณ คุณก็จะอดตาย”
นี่เป็นสาเหตุที่เขาทุ่มเทเก็บสมุนไพรพวกนั้นมา
- วีด!
เมแพนกระซิบมาหาเขา
บางมีเขาอาจรอดจากสงคราม  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็พยายามกระซิบหาวีด
-เป็นไง ว่ามาได้เลย
- ในที่สุดผมก็ติดต่อคุณได้ซะที! ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?
- อยู่ที่ๆพวกเราสู้กับ ลิช
- โอ เยี่ยมไปเลย ผมจะไปที่นั่นเร็วๆนี้  พวกเรามาตั้งปาร์ตี้ด้วยกันตอนที่พวกเราไปถึงที่นั่นกันเถอะ
- ปาร์ตี้?
- เพลและคนอื่นๆกำลังควบบึ่งไปยังที่ราบแห่งความสิ้นหวังเพื่อพบคุณ  ไว้เจอกันนะ ผมจะไปถึงนั่นในไม่ช้า
วีดรู้สึกซาบซึ้งจากส่วนลึกของหัวใจ
‘น่าเสียดายที่ชั้นไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้จริงๆ’
ปาร์ตี้ที่กำลังเดินทางข้ามที่ราบแห่งความสิ้นหวังนี้ได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน!


*****************************

“ฟิ้ว, ลำบากจริง”
เพลปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา
ทั้งขี่และก็เปลี่ยนม้ามาเรื่อย  อย่างน้อยเพลก็อยากจะเห็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของสงครามกับกองทัพอมตะ
พวกพรีสเข้ามาและอำนายพรให้เขา  ความเหน็ดเหนื่อยได้รับการฟื้นฟู และด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขาขี่ม้าต่อไปได้
หลังจากผ่านความยากลำบาก พวกเขาก็ยิ้มออกมา
“นี่มันเหมือนที่เห็นในวีดีโอเลย  สถานที่แห่งนี้แหละ ไม่ผิดแน่แล้ว”
“นี่เป็นทางด้านตะวันออกของราชอาณาจักรโรเซนไฮม์  ที่พวกนักผจญภัยยังสำรวจมาไม่ถึงดินแดนแห่งนี้”
“พวกเราจะเป็นคนแรกที่ได้เห็นผลลัพธ์”
โรมูนะและเซอร์กะรู้สึกท่วมท้นในหัวใจ  พวกเธอไม่เคยได้ก้าวเท้าออกนอกราชอาณาจักรโรเซนไฮม์เลย  ในการแสวงหาการผจญภัย คุณจะพบตนเองอยู่ในวังวนของอารยธรรมที่แตกต่างกันบนทวีปเวอร์เซลล์ และได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของพวกเขา
ตอนที่รอยัลโรดเปิดตัวขึ้นแรกๆนั้น มีหลายคนเป็นกังวลเรื่องที่จะมีพวกที่เข้าเกมมาเพื่อตอบสนองตัณหาของตนเองอย่างเห็นแก่ตัว  เมื่อเกมได้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ผู้คนต่างพากันติดอย่างงอมแงม  ผู้เล่นที่อายุยังน้อยก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นคนเก็บตัว,ปิดกั้นความคิด และ หวาดกลัวต่อโลกแห่งความเป็นจริง  ผลเหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญาหาใหญ่ได้  แต่ยูนิคอร์น คอร์ป ก็สามารถทำให้ผู้คนสงบลงจากความกังวลนั้นได้
ประสบการณ์ของผู้เล่นจะแตกต่างกันออกไปตามดินแดนที่พวกเขาเลือกในตอนแรก  ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละสถานที่รวมถึงเหตุการณ์ที่คุณไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิตจริง  อย่างเช่นการทำไร่ไถนาไปจนถึงการปกครองเมือง  ดังนั้นเองแทนที่จะจิตใจที่อ่อนแอนั้นมันไม่ใช่  คนกลับจะมีความเป็นคนยิ่งขึ้นไปอีก  และมิตรภาพก็ยิ่งจะแน่นแฟ้นขึ้นไปอีกจากการได้ต่อสู้เคียงข้างกัน
เซอร์กะ พูดขึ้นมาว่า
“อิอิ , ขอให้คุณ วีด ทำอาหารให้พวกเราดีกว่า”
ฮวารยอง ยิ้ม และพยักหน้าเห็นด้วย
“ชั้นจะให้เค้าทำอาหารจานเด็ดให้ชั้น”
พวกนักดาบก็อยู่ในปาร์ตี้ด้วย
“ข้าอยากดื่ม”
“ผมจะเตรียมจอกไว้ให้ครับ ท่านอาจารย์”
นักดาบ2 ตอบสนองด้วยความกระตือรือล้นอย่างรวดเร็ว
นักดาบ 1 ถึง นักดาบ 5 ได้มาเข้าร่วมปาร์ตี้อย่างเฉียบพลัน! ตอนแรกพวกเขาว่าจะแยกย้ายกันไปทั่วทั้งทวีปเพื่อฝึกฝนวิถีดาบของตน  แต่เพลและคนอื่นๆกำลังจะไปหาวีด และพวกเขาตัดสินใจที่จะตามไปด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออาหารและสุราเลิศรส! (ผู้แปล : น่านับถือมากครับ ท่านอาจารย์)


*********************

“คุณวีด!”
“พวกเรามาถึงนี่แล้ว!”
วีดกำลังอยู่ระหว่างการเก็บสมุนไพรบนหน้าผาขณะที่มองลงมายังด้านล่างของภูเขา ในขณะที่พวกนั้นวิ่งกรูเข้ามา
ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังภูเขาที่ไร้ผู้คนแห่งนี้
เพล, เซอร์กะ, ไอรีน, โรมูนะ, ฮวารยอง, เซเฟอร์!
พวกนักดาบก็มากะเค้าด้วย  มาได้ไงหว่า
วีดให้การต้อนรับพวกเขา พร้อมกับการได้รับบทสนทนาที่หลั่งไหลมาหาเขาอย่างท่วมท้นและต้องการให้เขาตอบ ซึ่งก็เพิ่งจะมีเวลานี้แหละที่เขาจบศึกกับพวกกองทัพอมตะแล้วมีเวลามาพูดคุยกับคนอื่น
ในขณะที่เมแพนนั่งรออย่างไม่เป็นสุขเท่าไรที่กลางทุ่งหญ้า  เขาก็เหมือนกับคนอื่นที่เพิ่งมาถึงนั่นแหละ เขาก็อยากฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมแพรวิ่งรี่เข้ามาเพื่อฟังกะเค้าด้วย
“คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
วีดค่อยๆเก็บสมุนไพรไปด้วยในขณะที่เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นฟัง
แค่ได้ฟังเรื่องสงครามกับกองทัพอมตะก็ทำให้ตื่นเต้นแล้ว  เพลรู้สึกราวกับว่าเขาเองเป็นส่วนนึงของการผจญภัยนั้นด้วย
เมแพนถูกอิจฉาจากทุกคน เพราะเขาเป็นผู้ที่อยู่ในสงครามครั้งนี้ตั้งแต่แรก
“ตกลงภารกิจนี้สำเร็จมั้ย?”
เพลถามอย่างระมัดระวัง
เมแพนก็เหมือนกับคนอื่นที่ไม่แน่ใจในผลลัพธ์ของภารกิจ เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือวีด กับ ลิช ไชร์ ตายไปพร้อมๆกัน
ขอเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ลิช ไชร์ตายไปก่อนที่วีดจะตาย ภารกิจนี้ก็นับได้ว่าสำเร็จ  ไม่งั้นมันจะกลายเป็นความล้มเหลว
“คือว่า...”
สิ่งที่วีดแสดงออกมาทำให้คิดไปถึงความผิดหวังที่ไร้ที่สิ้นสุด
โดดเดี่ยวและอ้างว้าง!
ความเศร้าโศกปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขา
แม้จะเป็นชายที่ยึดมั่นในความรักและถูกแฟนสาวทิ้งก็ยังดูไม่แย่ได้เท่านี้
“ผมนึกว่ามันโอเคที่จะถามซะอีก” เพลเอ่ยคำขอโทษออกมา
วีดก้มลงไปขุดดิน ถอนสมุนไพรออกมา แล้วก็กล่าวว่า
“ไอเทมพวกนั้น...”
“หา?”
“ผมสูญเสียโอกาสที่จะกวาดไอเทมทั้งหมดที่ลิช ไชร์ ดรอปออกมา”
“เคี๊ยก!” (ผู้แปล : ผมไม่รู้จริงๆว่าคำว่า Keoeog มันหมายถึงอะไร แต่เข้าใจว่าเป็นคำอุทานครับ)
ถึงแม้เขาจะทำภารกิจระดับ A ได้สำเร็จ  วีดก็ยังคงเป็นชายที่โศกเศร้าไปกับปมด้อยที่เขาไม่สามารถลอกคราบไอเทมจากลิช ไชร์มาได้ทั้งหมด!
‘วีดก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลย’
ฮวารยองยิ้มออกมา
และแม้ว่าจะไม่ได้เจอพวกเพื่อนๆของเขามาเป็นระยะเวลานาน  แทนที่จะเข้ามาร่วมวงพบปะสนทนา วีดก็ยังคงตั้งอกตั้งใจเก็บสมุนไพรเพื่อที่หาเงินเพิ่มขึ้นให้ได้แม้จะเป็นแค่เพนนีเดียวก็ตาม  แต่นี่แหละคือตัวตนของวีด  แม้เขาจะประพฤติตัวต่างออกไปบ้างในตอนนี้ แต่ตัวตนของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เพล กับ เซเฟอร์ กระโดดลงมาที่ทุ่งสมุนไพรอย่างรวดเร็ว
“วีด, พวกเราอยากช่วย”
แต่ว่าวีดส่ายศีรษะของเขาอย่างนุ่มนวล
“อย่าดีกว่า งานจุกจิกพวกนี้มันเป็นของผม ไม่ใช่ของนาย”
“แต่ว่า...”
“นั่งลงตรงนั้นแหละ แล้วดูผมทำดีกว่า”
ปกติแล้ว วีด จะไม่เคยละอายในการใช้ประโยชน์จากคนอื่น!
หลังจากที่วีดปฏิเสธความช่วยเหลือของเขา เพลก็นั่งลงบนหินก้อนใหญ่อย่างเชื่อฟัง
อย่างไรก็ตาม ฮวารยองและเซอร์กะต่างก็ถลกแขนเสื้อของพวกเธอขึ้นและพยายามเข้ามาช่วยวีด แต่พวกเธอถูกหยุดเอาไว้
“นี่เป็นงานของผม, ผมจะทำมันให้เสร็จเอง”
การได้เห็นทำให้เกิดความอยากได้!
วีดเป็นกังวลเกี่ยวกับสาวๆมากกว่าพวกหนุ่มๆ
โดยทฤษฎีแล้ว สมุนไพรเป็นที่ปรารถนาของสาวๆเพราะมันช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง

“ว้าว”
“สายลมนี่ให้ความรู้สึกทิ่ยอดเยี่ยมไปเลยครับท่านอาจารย์”
“ที่ด้านนี้ยังมีที่ว่างอยู่”
หลังจากที่พละกำลังที่ได้รับการเสริมจากสมุนไพรหมดไป  พวกนักดาบก็พากันนั่งลงบนก้อนหิน
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง กระเป๋าของวีดถึงจะเต็มไปได้ขวดบรรจุสมุนไพร
“วิ้ว ผมทำมันเสร็จแล้ว  ขอบคุณที่รอจนผมเก็บสมุนไพรเสร็จ  เดี๋ยวผมจะเริ่มทำสตูว์เนื้อกระต่ายนะ”
“ว้าว!”
ข่าวที่ว่า วีด กำลังจะทำอาหารเรียกเสียงเชียร์ให้เกิดขึ้น
“อึ๊ก!” นักดาบรีบทำคอให้ว่าง
“ลำคอของข้าแห้งผาก กระหายยิ่งนัก”
“มันราวกับมีดกรีดผ่านลำคอของผมเลย” นักดาบ2 กล่าวเสริมขึ้น
“วีด, พวกข้าจะไปจับกระต่ายมาสำหรับทำสตูว์  ในระหว่างนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยปรุง ‘อะไร’ เย็นๆบางอย่างที่จะเอามาดื่มกับสมุนไพรที่เจ้าเก็บมานะ”
“แน่นอน  จริงๆแล้วผมก็กำลังจะชงเครื่องดื่มที่ดีจนยอมเอาชีวิตเข้าแลกให้อยู่แล้ว”
“งั้นทำไมไม่ลงมือเลยล่ะ?”
ถ้ามันจะทำให้ท่านอาจารย์รู้สึกดีขึ้นล่ะก็ ผมจะให้ท่านดื่มได้มากเท่าที่ท่านต้องการเลยทีเดียว!
“ที่หุบเขาโน่นมีอาหารให้รับประทานและไวน์ให้ดื่มอยู่”
“จะให้พวกข้าเสียเวลาเดินทางทำไม? มันจะไม่เร็วกว่าหรือ ถ้าเจ้าจะเริ่มเตรียมการซะตั้งแต่ตอนนี้?”
“ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ แอลกอฮอลล์จะดีกว่าถ้าได้ดื่มมันเย็นๆ  แถมบรรยากาศยังส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของมันเป็นอย่างมากอีกด้วย   ถ้าหากท่านได้ดื่มมันท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลายจากยอดเนินในหุบเขาแล้วล่ะก็  ท่านคิดว่ารสชาติมันจะแตกต่างกันแค่ไหนล่ะ?”
“เอ๋?” นักดาบคิดอยู่ในใจว่า, 'แค่จอกเดียวก็ดีแล้ว...'
วีดตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอีกด้านหนึ่งของหุบเขาพร้อมกับเพื่อนๆของเขา  สถานที่ห่างไปจากสนามรบที่ยับเยินนั้นยังคงงดงามไปด้วยกลุ่มเมฆหมอกและฝูงปลาอันอุดมสมบูรณ์
“นี่จะช่วยเพิ่มความเชี่ยวชาญในการทำอาหารของผมขึ้นมาได้นิดนึง  เอาล่ะ ให้ผมนำน้ำจากลำธารมาใส่ลงในหม้อก่อนดีกว่า”
“ฮ่า, ตามสบายเลย”
ภายใต้สายตาของเหล่าสมาชิกร่วมทาง  วีดนำหม้อออกมาพร้อมทั้งเติมน้ำจากลำธารลงไป  จากนั้นเขาจึงนำเนื้อกระต่ายใส่ลงไปในหม้อและนำไปต้ม  สุดท้ายเขาเอาสมุนไพร 2-3 อย่างออกมาเพื่อปรุงรสเริ่มการประกอบสตูว์ที่เลิศรส
อาหารสามารถก่อให้เกิดความสดชื่นแก่ร่างกายที่เหนื่อยล้าของพวกเขา!
“ยอดเยี่ยม!”
“มันอร่อยสุดๆไปเลย”
อาหารที่วีดประกอบขึ้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
สตูว์เนื้อกระต่ายหายไปในทันทีที่มันเสร็ตลง  คนในกลุ่มทั้งหมดต่างก่อสงครามขึ้นอย่างจริงจังเพื่อแย่งชิงซุปที่เหลือ  ความอยากอาหารของพวกนักดาบก่อเกิดขึ้นอย่างไร้ปราณี! น่าประหลาดที่ความพยายามร่วมกันของพวกเพลต้องพ่ายแพ้  ท้ายที่สุดแล้วท่านอาจารย์ของพวกเขาเป็นผู้ชนะโดยที่คนอื่นๆถูกขจัดออกไป
วีด ให้บริการอย่างสุภาพ
แต่ของพวกนี้ไม่ได้มีไว้ให้ฟรีแน่นอน
‘ไม่ทางใดก็ทางนึง  ผมจะต้องให้พวกคุณตอบแทนผมให้ได้’
ถ้าเป็นกรณีของสถานปศุสัตว์ล่ะก็  พวกสุกรจะถูกขุนไว้แล้วก็เชือดเพื่อตอบแทนต่อค่าอาหารที่เจ้าของได้ลงทุนไป!
“มันแผดเผาลำคอข้าไปนิดนะ”
วีด ส่งถ้วยที่บรรจุแอลกอฮอลล์ไปให้นักดาบดื่ม
*อึ้ก!*
บางคนก็ถึงกับกลืนน้ำลายล่วงหน้า
ไม่ใช่นักดาบเพียงคนเดียวที่อยากจะลิ้มลองเหล้าที่วีดหมัก
“ตอนนี้ ผมจะให้ทุกๆคนได้ชิมเครื่องดื่มของผมบ้าง”
วีดใช้มีดแกะสลักของซาฮัปในการสลักถ้วยออกมาจากต้นไม้รอบๆแล้วส่งมันไปให้กับทุกคน
*ซู่ๆๆ* (เสียงรินน้ำ)
ของเหลวสีมรกตสดใสถูกบรรจุอยู่ในถ้วย  ไม่มีคนจิตปกติที่ไหนหรอกที่จะสามารถต่อต้านความเย้ายวนจากกลิ่นหอมหวลที่ฟุ้งในอากาศนี่ได้
พวกนักดาบดื่มเข้าไปจิบหนึ่งอย่างปลาบปลื้ม
“อ่าห์! ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
การได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆในยามที่ร่างกายอบอุ่นช่างแสนวิเศษ  ร่างกายของคุณจะรู้สึกสดชื่นหลังจากที่ได้ดื่มมัน
“เครื่องดื่มนี้มันช่างประเมิณค่าไม่ได้  มันคุ้มค่าไปทุกเพนนีเลยทีเดียว”
นักดาบกล่าวขึ้น และเมแพนก็เห็นด้วย
“มันเป็นเครื่องดื่มที่ดีมาก  ผมรู้สึกผิดที่ดื่มมันโดยไม่จ่ายอะไรเลย  มันต้องถูกหมักขึ้นมาอย่างยากลำบากเป็นแน่  นี่พวกเรากำลังใช้เงินที่วีดหามาได้อย่างยากลำบากจากเควสของเขา”
“ทุกครั้งที่ได้จิบมัน ผมรู้สึกราวกับผมติดค้างคำขอโทษคุณอยู่  พวกเราขอจ่ายสำหรับเครื่องดื่มแล้วกัน  ผมขอซื้อมัน 2 ขวดนะ”
หลังจากที่เพลได้ลิ้มรสชาติของมัน เขาจึงตัดสินใจขอซื้อบ้าง
“ถูกต้อง, ข้ามีชีวิตก็เพื่อเครื่องดื่มอย่างนี้แลหะ  ข้าจะซื้อ 10 ขวดเลย”
เหล่านักดาบในตอนนี้ไม่ใช่พวกมือใหม่อีกต่อไป พวกเขาสามารถที่จะจ่ายสำหรับเครื่องดื่มของพวกเขาแล้ว  ในที่สุดวีด ก็จะได้มีรายได้จากการขายแอลกอฮอลล์ซะที
แต่คำพูดที่แสนจะสุภาพของเขานั้นจะไม่มีวันถูกลืมเลือนเป็นแน่
“จริงๆ พวกคุณไม่ต้องซื้อหรอก”
"มันหมดแล้ว  ข้าเสียใจที่ต้องเอ่ยคำพูดนี้ออกมา แต่เจ้าพอจะไปนำเหล้าที่แสนวิเศษของเจ้ามาให้อีกซัก 4 ขวดได้หรือไม่ พวกเราคอแห้งกันหมดแล้ว  เจ้าพอจะให้พวกเราได้ดื่มมันอีกซักรอบได้มั๊ย?”
“แน่นอนครับ  รอซักครู่นะครับท่านอาจารย์”
วีดไปนำเครื่องดื่มมาให้เพิ่มอย่างกระตือลือร้น
พวกนักดาบและคนอื่นๆต่างมีความสุขไปกับการดื่มเหล้าที่หมักขึ้นจากสายน้ำเย็นในหุบเขา
ไอรีนและโรมูนะตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาช่วบวีด และพูดว่า
“คุณวีด คะ ให้พวกเราช่วยเถอะ”
“ไม่ต้องหรอก ให้ผมทำมันเถอะ  เหล้าให้รสชาติที่แตกต่างกันไปตามทักษะของผู้ที่หมักมัน  นี่แหละหนทางที่ในการปรุงแต่งรสชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
วีด มีเหตุผลของเขาในการทำเช่นนี้ และเขาก็ทยอยนำเหล้าออกมาเรื่อยๆ
ด้วยเหตุนี้ เหล่านักดาบและคนอื่นๆจึงดื่มเครื่องดื่มแสนวิเศษของวีดราวกับดื่มน้ำเปล่า พวกเขาสนทนาถึงเหตุผลที่พกเขาเดินทางร่วมกับวีดก็เพราะอยากดื่มนี่แหละ  พวกเขาคุยกันอย่างออกรสจนกระทั่งเครื่องดื่มนั้นหมดเกลี้ยง


เล่มที่ 7 ตอนที่ 4 : จบ
**************************


<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

2 ความคิดเห็น: