วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 4 ตอนที่ 1 ทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวัง (Plains of Despair)

เล่มที่ 4 ตอนที่ 1 ทุ่งหญ้าแห่งความสิ้นหวัง (Plains of Despair)


(ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเมือง โมรา จะเปลี่ยนชื่อเป็น โมราต้า เพื่อให้สอดคล้องกับต้นฉบับภาษาอังกฤษที่มีการเปลี่ยนครับ)


“คนนั้นแปลกจังเลยเธอ กระโดดไปกระโดดมาแบบนั้นทำไม”
“เหมือนจะเป็นบ้านะ”
“ไปกันเถอะ”
ร่างนั้นถูกหลีกเลี่ยงและหวาดกลัวโดยผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นครอิสระโซมุเร็น เพราะเขาดูเหมือนคนที่จะก่อปัญหาให้ถ้าเข้าไปใกล้
ที่จริงแล้วคนคนนั้นก็คือวีดผู้กำลังกระโดดขึ้นลงด้วยความโมโห
“ว้ากกกกกก!”
เขาถึงขั้นกรีดร้องออกมา พฤติกรรมบ้าคลั่งนี้ทำให้ทุกคนหลีกห่างจากการคร่ำครวญของเขา ดีที่จุดนี้อยู่ใกล้กับวิหารแห่งเฟรย่า
ถ้าเขาไปทำพฤติกรรมแบบนี้กลางถนน คงมีคนถ่ายคลิปเก็บไว้และเจ้าคลิปนั่นคงไปลงเอยบนเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด
“ฮือออออ!” สุดท้าย วีดถึงขั้นน้ำตาไหล
‘ทิ้งโอกาสงามๆ ไปซะได้!’
วีดออกจากโมราต้าผ่านทางเทเลพอร์ตเกตและมาถึงนครอิสระโซมุเร็น ทันทีที่โผล่ออกจากเกตความคิดหนึ่งก็แว่บเข้ามาในสมอง
‘ใช้เอฟเฟคจากรูปแกะสลัก Bingryong ไม่ได้แล้ว เสียดายชะมัด’
รูปแกะสลักเหล่านั้นวีดใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะแกะเสร็จ ขนาดอันเหลือเชื่อ ความยิ่งใหญ่ และยังค่าสถานะเสริมต่างๆ ของรูปสลัก Bingryong เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ต้องขอบคุณค่าสถานะเสริมที่ติดมากับรูปสลักที่ทำให้เขาล่ามอนสเตอร์ได้ไวขึ้นกว่าครึ่ง
‘แล้วทำไมไม่เอามาด้วยล่ะโว้ย?!’
รูปสลัก Bingryong ใหญ่เกินกว่าจะเอามาด้วยก็จริง แต่เขาน่าจะเอา Ice Beauty กลับมาได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ถ้าเอารูปสลัก Ice Beauty ที่เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูทั้งเลือดและมาน่ามาขายละก็ จะต้องมีคนเข้าแถวรอซื้อแน่
ถึงจะทำมาจากน้ำแข็ง และจะต้องละลายเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าใช้เวทมนตร์ที่มีคุณสมบัติรักษาสภาพได้ก็น่าจะพอรักษาสภาพภายนอกของรูปสลักเอาไว้ได้
ด้วยค่าสถานะที่ได้จากรูปสลักสามารถบวกกับค่าสถานะที่ได้จากกำไล หรือแหวน แล้วยังบวกกับค่าสถานะที่ได้จากไอเท็มอื่นๆ ได้อีก
คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขาจะทำเงินได้มากเท่าไรจากการขายรูปสลัก Ice Beauty นี่
‘กระซิก... เพราะว่าเรามันเป็นคนดี ใสซื่อ แล้วก็ใจดีเกินไปถึงได้เกิดเรื่องเศร้าแบบนี้ขึ้น’
แม้เขาจะยังคงเสียดายอย่างต่อเนื่องขณะกระโดดขึ้นลงด้วยความโมโห มันก็สายไปแล้ว
ในสายตาวีด คนดีน่าคบหานั้นไม่ต่างอะไรกับคนโง่
คนเสแสร้งอย่างหน้าไม่อาย ต่ำช้า และไม่น่าเชื่อถือ แต่รวยต่างหากล่ะ จึงจะเป็นชีวิตแบบที่ควรตั้งเป็นเป้าหมาย
‘ยังไม่สายเกินไป จากนี้เราจะต้องแข็งแกร่งขึ้น วีด แม้ว่ามันจะไม่ยุติธรรมที่เราต้องมาเป็นประติมากร แต่ถ้าเรามองข้ามความได้เปรียบต่างๆ จากอาชีพนี้ไปละก็เราคงไปไม่รอด’
วีดยืนยันเป้าหมายชีวิตตัวเองอีกครั้ง
เขากลับมาที่วิหารแห่งเฟรย่าพร้อมอัลเวรอน และเหล่านักบวช ซึ่งยืนมองพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ ของวีดมาโดยตลอด
บางรูปขมวดคิ้ว บางรูปแสดงสีหน้าหวาดกลัว พอเป็นแบบนี้ทุกรูปก็เลยค่อยๆ เขยิบหนีช้าๆ ...แม้แต่ NPC ก็หลีกเลี่ยงวีด
“อะแฮ่ม”
เขาจัดเสื้อให้เข้าที่ และกลับสู่ภาพลักษณ์ปกติ... นักผจญภัยผู้ออกเดินทางเพื่อปราบสิ่งชั่วร้าย และปฏิบัติภารกิจอันชอบธรรม
“พวกเราไปพบหัวหน้านักบวชกันเถอะ”
***********
ทันทีหลังจากนั้น วีดพร้อมเหล่านักบวชก็ตรงเข้าพบหัวหน้านักบวชผู้รอคอยการเข้าพบของวีดมาตลอด
ครั้งนี้วีดไม่จำเป็นต้องถวายอะไรเหมือนครั้งที่แล้วและสามารถเข้าพบหัวหน้านักบวชได้โดยตรง เขาพอใจกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้
แม้จะหาเงินได้มากขึ้นแต่ถ้าไม่บริหารการใช้จ่ายให้ดีๆ เขาอาจไม่มีวันได้เป็นเศรษฐี วีดถือมงกุฎประดับด้วยเพชรสีขาวไว้ในมือทั้งสองข้าง
“นี่คือมงกุฎแห่งฟาร์โก้ที่ข้าค้นพบและนำกลับคืนมาได้”
“โอ้! พ่อซาบซึ้งจริงๆ ท่านผู้นำทั้งจอกศักดิ์สิทธิ์และมงกุฎแห่งฟาร์โก้มาคืนให้แก่เรา ท่านคือผู้กอบกู้วิหารของเรา”

ภารกิจ นำมงกุฎแห่งฟาร์โก้กลับคืนมา สำเร็จแล้ว
มงกุฎแห่งฟาร์โก้ โบราณวัตถุชิ้นสุดท้ายที่วิหารแห่งเฟรย่าทำสูญหาย อยู่กับเหล่าแวมไพร์แห่งโมราต้ามาโดยตลอด…
เผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์นำโดยแวมไพร์ลอร์ดโทริ
ขณะเฝ้ารอให้กองทหารอมตะที่นำโดยดาร์คเมจ บัลข่าน เดมอฟกลับมา พวกมันก็มาถึงเขตโมราต้า และเข้ายึดครอง
บัลข่านผู้ทำให้ทวีปแปดเปื้อนด้วยความชั่วร้ายของมันได้รับผลกระทบอันรุนแรงจากการที่เผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ถูกกำจัด
มงกุฎแห่งฟาร์โก้คือสัญลักษณ์ของอำนาจอันชอบธรรมแห่งสวรรค์และความศักดิ์สิทธิ์ มันคือไอเท็มที่ต้องนำกลับคืนมาเพื่อเกียรติยศของวิหารแห่งเฟรย่า
- ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1200
- มิตรภาพต่อวิหารแห่งเฟรย่าเพิ่มขึ้นเป็น 31
- ชื่อเสียงของวิหารแห่งเฟรย่าเพิ่มขึ้น 2200 สามารถตรวจสอบชื่อเสียงของวิหารได้ที่หน้าต่างสถานะของศาสนา
- ชื่อเสียงของวิหารแห่งเฟรย่า: 4612
- ชื่อเสียงขององค์กรทางศาสนาจะเพิ่มขึ้นเมื่อต่อสู้กับความชั่วร้าย หรือปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องสำเร็จ
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
                                                       -เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น...
ผลตอบแทนจากการปฏิบัติภารกิจระดับ B สำเร็จทำให้วีดเลเวลเพิ่มขึ้น 9 เลเวล
‘ผลตอบแทนใช้ได้เลย’
ด้วยเลเวลปัจจุบันของวีดการจะเพิ่มเลเวลรวดเดียวแบบนี้จากการฆ่ามอนสเตอร์เพียงอย่างเดียวคงเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม กว่าวีดจะตามหามงกุฎแห่งฟาร์โก้เจอก็ต้องลำบากอยู่หลายเดือน ผลลัพธ์นี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ
จากนั้นหัวหน้านักบวชก็มอบขวดน้ำยาที่มีของเหลวสีขาวและสีแดงบรรจุอยู่ให้วีด 30 ขวด
“นี่คือของกำนัลแด่ท่านจากวิหารของเรา มันคือน้ำศักดิ์สิทธิ์และน้ำยาฟื้นฟูเลือด”
“ของเหล่านี้ ทำไมถึง...”
“แม้จะไม่มากมายอะไร แต่โปรดรับไว้เถิด มันอาจมีประโยชน์ต่อท่านในยามคับขัน”
“ขอบคุณมาก”
วีดนำน้ำยาเก็บไว้อย่างมิดชิด เนื่องจากน้ำยาเหล่านี้ราคาสูงเกินไปวีดจึงไม่เคยซื้อพวกมันมาก่อนเลย
ถ้าคุณไม่ได้มีอาชีพปล้นสะดม หรือเป็นพวกนอกกฎหมายเหมือนพวก ดวิชิกิ ทั้งสี่ ก็จะใช้งานน้ำยาพวกนี้ยากอยู่สักหน่อย
นั่นเป็นเพราะว่าถ้าเลเวลคุณเพิ่มสูงขึ้น เลือดและกำลังกายก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ถึงตอนนั้นคุณก็จะต้องซื้อน้ำยาที่มีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งราคาแพงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับค่าที่เพิ่มขึ้นมา
ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้น้ำยาเวลาล่ามอนสเตอร์ แต่ถ้าคุณเกิดมีน้ำยาไปด้วยละก็ มันจะกลายเป็นตัวช่วยอย่างดีในสถานการณ์คับขัน ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงมีน้ำยาติดตัวไว้บ้างคนละ 2-3 ขวด
“และนี่คืออุปกรณ์สวมใส่เป็นรางวัลแด่ผู้กล้า”
เมื่อรวมกับดาบแห่งอกาธา นี่เป็นไอเท็มอีกชิ้นในเซ็ทเดียวกันที่วีดได้รับเมื่อนำจอกศักดิ์สิทธิ์กลับมา
‘พวกนี้น่าจะเป็นรางวัลเมื่อหาโบราณวัตถุที่หายไปกลับมาคืนได้ น่าจะพอทำเงินได้นิดหน่อย’
“และนี่คือไอเท็มจากคลังสมบัติของวิหารเรา เนื่องจากไม่มีผู้ใดสามารถใช้งานมันได้จึงได้แต่เก็บไว้ให้ฝุ่นเกาะ โชคดีที่อาชีพของท่านคือประติมากร คงจะดีหากท่านรับมันไว้”

-คุณได้รับเข็มขัดหนังไม่ทราบสถานะ
เมื่อคุณได้รับไอเท็มที่ไม่ทราบสถานะ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตรวจสอบสถานะของมัน
ไม่ว่าไอเท็มนั้นจะเป็นไอเท็มต้องสาป หรือเป็นไอเท็มที่มีเจ้าของแล้ว ถ้าความสามารถต่ำก็เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อยู่ดี
“ตรวจสอบ”

เข็มขัดหนังเรดไวเวิร์นของดีแกรม :
ความคงทน: 60/60
ป้องกัน: 22
กำเนิดจากท้องฟ้าอันเสรี เข็มขัดเส้นนี้ทำมาจากหนังของไวเวิร์น เรดไวเวิร์นเป็นสิ่งมีชีวิตหายากที่ผู้คนยังคงสงสัยว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่
คุณจะกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักผจญภัยเมื่อสวมใส่เข็มขัดเส้นนี้
มันมีความยืดหยุ่นจึงไม่ฉีกขาดง่ายและสวมใส่กระชับ แม้จะมีน้ำหนักมากแต่สามารถนำไปร้อยเข้ากับกางเกงและกระชับเข้ากับรอบเอวได้ และดูเหมือนจะสามารถใส่เครื่องมือแกะสลักลงไปได้
ดีแกรม ประติมากรผู้มีฝีมือได้แกะลายส่วนหัวของไวเวิร์นลงไปโดยตรงที่กึ่งกลางของเข็มขัด
จำกัด: เลเวล 150
เฉพาะอาชีพประติมากรเท่านั้น
คุณสมบัติ:
เสน่ห์ +15
ความแข็งแกร่ง +10
การหลบหลีก +30
สกิลประติมากรรม +7%.
หากสวมใส่เข็มขัดเส้นนี้ขณะสร้างประติมากรรม คุณจะได้รับชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 5
วีดนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่ง
เขาคาดว่าจะได้รับไอเท็มพิเศษจากการพิชิตภารกิจระดับ B แต่กลับได้รับเข็มขัดของดีแกรมแทน
เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติของไอเท็มไม่ได้ดีนัก ไอเท็มประเภทเดียวกันนี้ที่เพิ่มการป้องกันและค่าสถานะใช่ว่าจะหาไม่ได้
แต่นี่คือเข็มขัดของดีแกรม หนึ่งในห้าประติมากรมีฝีมือผู้เคยมีชีวิตอยู่ในทวีปนี้ในอดีต ดีแกรม! เข็มขัดของเขาตกมาอยู่ในมือของวีดแล้ว
‘เราเพิ่งหาเงินได้ 900,000 วอน’ (ประมาณ 30,000 บาท)
เซ็ทเครื่องสวมใส่ของดีแกรม
หมวกและเครื่องมือแกะสลักของเขาเคยปรากฏขึ้นครั้งหนึ่งในเว็บประมูล คุณสมบัติที่เพิ่มสกิลประติมากรรมเป็นของไร้ค่าสำหรับผู้เล่นทั่วไป
ด้วยสถานะใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกทีของอาชีพประติมากรทำให้ปกติแล้วไอเท็มชิ้นนี้ไม่น่าจะถูกนำมาขาย แต่หมวกกลับขายได้ 800,000 วอน(25,000 บาท) และเครื่องมือแกะสลักขายได้ถึง 1,100,000 วอน(35,000 บาท)
คนที่ซื้อของพวกนี้คือนักสะสมของหายาก
ไอเท็มที่วีดพบและนำมาคืนให้หัวหน้านักบวช ทั้งจอกศักดิ์สิทธิ์ และมงกุฏแห่งฟาร์โก้คือไอเท็มหายากเกินจะจินตนาการได้
“พวกเราที่วิหารแห่งนี้ปรารถนาจะแสดงความขอบคุณ เราติดค้างคำขอบคุณชั่วชีวิตต่อท่าน ผู้กล้า ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด ท่านจะได้รับพรจากเทพีเฟรย่าเสมอ หากท่านบาดเจ็บหรือถูกสาปสามารถมาหาเราได้ทุกเวลาเราจะรักษาท่านโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และท่านสามารถใช้งานเทเลพอร์ตเกทได้ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม”
“ขอบคุณมาก”
หัวหน้านักบวชถอนหายใจหนักหน่วง อากัปกิริยาของท่านดูเหมือนกำลังลำบากใจอย่างยิ่ง
“ในที่สุดโบราณวัตถุทั้งสามชิ้นของวิหารก็กลับคืนมา ด้วยการกลับมาอย่างสมบูรณ์ของอำนาจ ความชอบธรรม และพลังศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เหล่าพาลาดินและนักบวชสามารถแสดงความแข็งแกร่งอันแท้จริงที่มีอยู่เดิมออกมาได้อย่างเต็มที่ กองทัพอมตะนำโดยบัลข่าน ดีมอฟ กำลังหมอบซุ่มอยู่บริเวณที่ราบแห้งแล้งทางเหนือ และขยายกองกำลัง แต่จากข้อความที่พาลาดินซึ่งออกลาดตระเวนส่งกลับมา มอนสเตอร์ที่พวกมันรับเข้ากองกำลังไปนั้นไม่จำเป็นเลย เพราะพวกมันแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว”
ที่กองกำลังอมตะนำโดย บัลข่าน ดีมอฟ น่าหวาดกลัวเป็นเพราะอันเดธทุกตนมีชื่อ
ผู้ที่ถูกฆ่าตายในการต่อสู้และไม่ได้รับการกลบฝังจะถูกฟื้นชีพขึ้นมาอีกครั้งในฐานะผู้รับใช้ พวกมันคือพาลาดินที่มีพลังเวทมนตร์ธาตุมืด และนักบวชผู้ใช้พรจากปีศาจ
เมื่อใดก็ตามที่กองทัพอมตะต่อสู้ กองกำลังของพวกมันจะเพิ่มจำนวนขึ้น
“จากข่าวที่ได้ยิน บัลข่าน ดีมอฟคืนชีพแล้ว และในขณะเดียวกันก็พบเห็นการเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบของเหล่าเนโครแมนเซอร์ที่บูชาปีศาจ พวกมันค้นคว้าทดลองเวทมนตร์ด้วยเลือดสดๆ ภายใต้ความเกลียดชัง กล่าวได้ว่าพวกมันคือเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้าย พ่อได้รับแจ้งว่าพวกมันกำลังเตรียมการบางอย่างอยู่ในที่ราบแห่งความสิ้นหวัง”
ติ๊ง!
ผู้ถูกเนรเทศที่อาศัยอยู่ในที่ราบแห่งความสิ้นหวัง
เนโครแมนเซอร์นำโดย บัลข่าน ดีมอฟ เชื่อในปีศาจเบลเซบับ
ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ว่า เหตุใดเหล่าเนโครแมนเซอร์ผู้ดันทุรังค้นคว้าแหล่งที่มาของมานาจึงสร้างวิหารขึ้นเพื่อบูชาเบลเซบับ
ดาร์คเอลฟ์ และเหล่าผู้ถูกเนรเทศซึ่งโดนขับไล่ออกจากแต่ละอาณาจักรในช่วงกลียุคอาศัยอยู่ในที่ราบแห่งความสิ้นหวัง
เนโครแมนเซอร์บางส่วนออกจากวิหารและมุ่งสู่ที่ราบแห่งความสิ้นหวัง ค้นหาพวกมันให้พบและกำจัด หากท่านไปที่วิหารแห่งอาณาจักรโรเซนไฮม์ ท่านจะได้รับข้อมูลและกองกำลังสนับสนุน
ความยาก: B
ค่าตอบแทน: ไม่ระบุ
ข้อกำหนด:
หากล้มเหลว ชื่อเสียงของวิหารแห่งเฟรย่าจะลดลงเหลือ 0
ชื่อเสียง -3000
วีดอยากจะถอนหายใจ เควสต์ครั้งนี้ก็มีความยากระดับ B
‘แต่ก็ยังดีที่ไม่มีกำหนดเวลา’
ที่ราบแห่งความสิ้นหวังที่อยู่ห่างไกลออกไปทางตอนเหนือของอาณาจักรโรเซนไฮม์ ตั้งอยู่บนชายแดนระหว่างอาณาจักรเบอร์ทรัน และอาณาจักรโรเซนไฮม์ เป็นพื้นที่ที่ฝูงมอนสเตอร์อันตรายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของที่ราบแห่งความสิ้นหวัง
บนแผนที่ที่ไม่ทราบว่าถูกค้นพบเมื่อใดและจากที่ใดซึ่งถูกเรียกว่า ‘แผนที่ของทวีปเวอร์เซลล์’ ที่ราบแห่งความสิ้นหวังได้รับการวาดไว้กว้างขวางกว่าอาณาจักรไอเดิร์นซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีอำนาจที่สุดในทวีปด้วยซ้ำ
“เหล่าเนโครแมนเซอร์ผู้ต่อต้านพระผู้เป็นเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์จะต้องถูกกำจัด”

- ท่านได้รับภารกิจ
“ขอบคุณ ผู้กล้า!”
หัวหน้านักบวชมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี หลังจบเรื่อง หัวหน้านักบวชก็ไม่ตอบสนองใดๆ ต่อวีดอีก เขาจึงกลับออกจากวิหารอย่างช้าๆ
************
ระหว่างเมแพนกำลังเดินทางกลับสู่นครอิสระโซมุเร็นหลังจากฝึกฝนในหมู่บ้านใกล้ๆ หูของเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนที่เขาติดต่อไม่ได้มาเป็นเวลานาน
- เมแพน

- ครับ โอ้ คุณวีด! นึกว่าตายไปแล้วซะอีก ตอนนี้คุณอยู่ไหน

- งานไปได้สวย มาที่ด้านหน้าของวิหารแห่งเฟรย่าหน่อยสิ

- ครับ ผมจะรีบวิ่งไปเลย
เมแพนวิ่งไปเหมือนลมพัดจริงๆ เร็วจนใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ นี่คือวีดที่กลับมาจากการทำเควสที่มีความยากระดับ B
เมแพนตรงมาจากตลาดโดยไม่แม้แต่จะเก็บสินค้าของตน เขามาพร้อมกับสาวสวยคนหนึ่ง
แน่นอนว่าเมแพนอยากจะถามถึงเควสต์ของวีด แต่ก็คิดได้ว่าออกจะเสียมารยาทเกินไปก็เลยแนะนำคนที่มาด้วยก่อน
“นี่คือคุณวีด ส่วนนี่คือคุณ ฮวารยอง(Hwa Ryeong)”
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมวีด”
“ยินดีค่ะ ฉันได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะเลย”
ช่วงที่เมแพนพบกับเธอและเดินทางด้วยกัน อาชีพของเธอช่วยเขาได้มาก
“คุณวีดอย่าเพิ่งตกใจนะ อาชีพของคุณ ฮวารยองคือแดนเซอร์”
“แดนเซอร์?”
ฮวารยอง เอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะอันร่าเริงว่า
“มองว่ามันเป็นอาชีพประเภทเดียวกับนักดนตรี(Bard)ก็ได้ค่ะ เราใช้การเต้นแทนเสียงดนตรีในการเพิ่มค่าสถานะต่างๆ ให้พวกเดียวกันเพื่อรับมือกับศัตรู”
“อย่างนี้นี่เอง คงจะลำบากสินะ”
“ไม่เลยค่ะ! มันสนุกมาก ฉันชอบเต้นเหมือนกัน”
สิ่งที่ ฮวารยอง ชำนาญเป็นพิเศษคือการทำให้ศัตรูสับสน พอเธอเริ่มเต้นมอนสเตอร์จะสูญเสียความต้องการในการต่อสู้ และตกสู่สภาพเหม่อลอย เรียกว่าเป็นอาชีพลับอาชีพนึงก็ได้
เธอยังสามารถทำให้ศัตรูเลเวลสูงกว่าเธอที่มีเลเวล 175 สับสนได้ แต่จะต้องเสียมาน่าเพิ่มขึ้น
ถ้าเธอต้องการทำให้ศัตรูจำนวนมากสับสนพร้อมกันในครั้งเดียวก็ต้องเสียมาน่าเพิ่มขึ้นอีกเหมือนกัน แต่ถ้าเธอโจมตีในขณะเต้น มอนสเตอร์จะรู้สึกตัวทันที
เธอทำได้แค่ถือดาบสั้นในมือข้างหนึ่ง และพลังการโจมตีกับการป้องกันก็ต่ำมาก เธอจึงไม่สามารถล่ามอนสเตอร์ด้วยตัวคนเดียวได้ อาชีพนี้มีจุดเด่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดด้อยร้ายแรงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี จนถึงตอนนี้ เมื่อไรก็ตามที่พวกเธอเจอมอนสเตอร์ ฮวารยอง จะรับหน้าที่ทำให้พวกมันสับสน และเมแพนก็จะรีบขับรถส่งสินค้าหนีไป
‘ประติมากร พ่อค้า กับแดนเซอร์... ชักจะดีขึ้นไปทุกที’
มีตำนานที่เล่าขานกันมาในเส้นทางแห่งราชันย์ เกี่ยวกับอาชีพสายสร้าง และพวกอาชีพแปลกๆ อื่นๆ
อาชีพที่คนหลีกเลี่ยง!
การรวมกลุ่มกันทำให้แต่ละคนสามารถใช้ความสามารถของตัวเองให้เป็นประโยชน์สูงสุด และปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ถือกำเนิดขึ้น
มันเป็นตำนานที่เล่าว่าพวกเขาสามารถปราบมอนสเตอร์ลงได้ และก่อนที่จะแยกตัวกันไป พวกเขาสามารถใช้สกิลของตัวเองออกมาได้อย่างเหมาะสมที่สุด
แน่นอน มันเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ ของ เส้นทางแห่งราชันย์ ที่มาของตำนานก็เลยไม่แน่ชัด
‘ข่าวลือนี้ต้องไม่มีมูลความจริงแหงๆ’
การล่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่ใช้ระบบการต่อสู้เป็นหลัก การชวนคนเข้าปาร์ตี้ทำได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ความเร็วในการล่าจึงเพิ่มขึ้นมาก
แต่สำหรับพวกอ่อนแอและไร้ประโยชน์ในการต่อสู้ที่ต้องให้คนอื่นในปาร์ตี้คอยดูแลนั้น พวกนี้ไม่ถูกชวนเข้าปาร์ตี้ตั้งแต่แรกแล้ว
“ซื้ดดด!”
เมแพนสูดหายใจเข้าลึก แล้วค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้วีดก่อนกระซิบว่า
“พอผ่านความทุกข์ทรมานจากสกิลราชสีห์คำรามของคุณมาได้ ผมคิดว่าผมจะสามารถอดทน และทำใจให้ชินกับสภาพตอนต่อสู้ของคนอื่นๆ ทุกคนได้”
“แล้วยังไง?”
“รู้มั้ยว่าคุณ ฮวารยองเต้นยังไงใส่มอนสเตอร์”
“ยังไง?”
“ส่าย (*)(*) น่ะ”
“อึก”
แดนเซอร์คนนี้ เวลาเจอออร์คก็จะเข้าไปใกล้ๆ แล้วส่าย (*)(*)  แก้มของ ฮวารยอง แดงซ่านเหมือนชมพู่
“เมื่อก่อนฉันเคยไปเที่ยวผับบ่อยๆ... ตอนนี้ก็เลยชอบเต้นมากจนหยุดไม่ได้น่ะ”
“...”
“เออ ใช่!”
มีสิ่งหนึ่งที่เมแพนอยากถามมาก
“สามเดือนมานี่หายไปไหนมา แล้วทำเควสสำเร็จมั้ย”
วีดหัวเราะร่า
“เดี๋ยวนายได้รู้แน่”
“ฮะ?”
***********
มันเริ่มมาจากนครอิสระโซมุเร็น

- ท่านรู้จักนักผจญภัยที่ชื่อวีดไหม ครั้งนี้เขาปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ มงกุฎแห่งฟาร์โก้! มงกุฎที่วิหารแห่งเฟรย่าได้ทำสูญหายไปถูกค้นพบ และนำกลับมาคืนแล้ว

- เผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ที่ว่ากันว่าเป็นกำลังสำคัญให้กับดาร์คเมจ บัลข่าน เค้าว่ากันว่า ผู้กล้านามว่าวีด ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความทุ่มเทและความสามารถทางศิลปะ ได้กำจัดพวกมันแล้ว

- ท่านก็รู้จักวีดผู้โด่งดังใช่ไหม

NPC ทุกคนในตลาด โรงฝึก และพวกที่อยู่ในโรงแรม หรือสมาคมทหารรับจ้างเริ่มบอกเล่าเรื่องราวของวีดอย่างพร้อมเพรียงกัน เมื่อเวลาผ่านไป NPC ในสหราชอาณาจักรบริตันก็เริ่มพูดถึงวีดเช่นกัน

- มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่นครอิสระโซมุเร็น ว่ากันว่านักผจญภัยนามว่าวีดปฏิบัติภารกิจใหญ่ตามคำขอจากวิหารแห่งเฟรย่าสำเร็จ

- คนที่ชื่อวีด...

- วีดน่ะ...

และต่อมาอาณาจักรโรเซนไฮม์!

- ท่านรู้จักวีดที่มาจากอาณาจักรของเราหรือไม่ อะไรกัน ไม่รู้จักหรอกเหรอ ถ้าอย่างนั้น ฟังให้ดีล่ะ

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่แม้แต่ NPC จากอาณาจักรธอร์ ฮาร์แพน และพัลมอร์จะเล่าเรื่องราวของวีดเช่นกัน
************
หลังออกจากแคปซูล ลี ฮุน ล็อคอินเข้าเว็บประมูล ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาล็อคอินจะพบอีเมล์จากดาร์คเกมเมอร์เสมอ วันนี้ก็เช่นกัน
ติ๊ง!

คุณได้รับเชิญให้เข้าร่วมสมาคมดาร์คเกมเมอร์
เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลอีเมล์นี้จึงส่งถึงผู้ได้รับเลือกจำนวนจำกัด เราอยากพบปะเพื่อสนทนากับคุณเป็นการส่วนตัวเพื่อคุยรายละเอียด
ไม่ว่าจะเป็นทวีปเวอร์เซลล์หรือในชีวิตจริง สถานที่ใดก็ได้ เพราะสมาคมดาร์คเกมเมอร์อยู่ในทุกที่ที่มีความมืด ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น พวกเราต้องการพบปะและพูดคุยกับคุณ
ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้เข้าใจในสมาคมของเรา และเข้าใจว่าเราทำอะไรในสมาคม คุณสามารถเข้าร่วมการสนทนา และหากต้องการเพื่อนก็สามารถหาได้ที่นี่
ลี ฮุน เมินอีเมล์นั้น และเขียนประกาศประมูล
ท่ามกลางไอเท็มที่หามาได้ ชิ้นที่สามารถขายเป็นเงินสดได้ต้องรีบขายทันที เพราะราคาตลาดของไอเท็มในเส้นทางแห่งราชันย์ จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
มันเป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อผู้เล่นที่มีประสบการณ์มีจำนวนมากขึ้นไอเท็มก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ว่าความต้องการไอเท็มก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นี่จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ต้องกังวล
เครื่องสวมใส่ของแวมไพร์ที่ครอบครองโมราต้ายังไม่หมดเวลาประมูล ตอนนี้ราคาของพวกมันขึ้นสูงถึง 100,000 ถึง 400,000 วอนแล้ว (3,000 ถึง 13,000 บาท)
“ใช้ได้ พอราคาประมูลที่สูงที่สุดมา ราคาน่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้”
ลี ฮุนเข้าหน้าประมูลเปิด และลงไอเท็มเพื่อขาย ชิ้นที่ต้องรีบขายก่อนคือสองชิ้นที่ได้รับมาจากหัวหน้านักบวชแห่งเฟรย่า
“ดาบแห่งอกาธา กับแหวนของหัวหน้านักบวชน่าจะขายได้ราคาดี”
มีราคาตลาดสำหรับไอเท็มทั่วไปอยู่ แต่สำหรับไอเท็มที่ได้มายากแบบนี้ราคาจะกว้างมาก ขึ้นอยู่กับคนที่ต้องการซื้อ
ถ้าคุณเจอคนที่ต้องการซื้อมันจริงๆ ก็จะขายได้ราคาแพง แต่ถ้าไม่เจอคนแบบนั้นก็อาจจะขายไม่ได้ในราคาสมเหตุสมผล
“ถ้าขายได้ราคาดีก็คงจะดี...”
ลี ฮุน ลงประกาศไว้แล้วเข้านอน

คืนนั้นเว็บประมูลต้องปั่นป่วน
“นั่นเขา! เขาโพสต์อะไรน่ะ!”
“นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่มีเรทติ้งเป็นเพชรสามเม็ด ID ที่ใช้โพสต์ก็เป็น ID เดียวกัน”
“นั่นวีด! วีดขายไอเท็มจาก เส้นทางแห่งราชันย์”
“นี่มันข่าวใหญ่!”
วีดกลายเป็นคนดังตอนที่ขาย ID จากเกม the Continent of Magic และ CTS มีเดียก็ฉายรายการหลายรายการเกี่ยวกับ the Continent of Magic ผ่านทาง ID ของวีด
ตอนนี้ แม้แต่คนที่ไม่สนใจเกมก็ยังไม่มีใครไม่รู้จักวีด ID ของลี ฮุน ในเว็บซื้อขาย
เรื่องนี้ทุกคนในเว็บจำได้แม่น จนถึงตอนนี้ วีดโพสต์ขายไอเท็มไปสองสามชิ้นแล้ว แต่ในจำนวนนั้นไม่มีไอเท็มที่ดีจริงๆ เลย
เครื่องสวมใส่ของเดธไนท์ไม่เป็นที่นิยมเท่าไร และก็มีไม่กี่คนที่ต้องการผ้าคลุม รองเท้าบูธ หรือถุงมือของแวมไพร์ ก็เลยไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร
“ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอกาธา! ถุงมือลายกุหลาบ! แหวนของหัวหน้านักบวช! นี่มันของวิหารแห่งเฟรย่า เครื่องสวมใส่ที่พาลาดินของวิหารแห่งเฟรย่าใช้”
ถุงมือลายกุหลาบเป็นแค่ไอเท็มที่ไม่ใช่ไอเท็มทั่วไปเท่านั้นราคาตลาดก็เลยไม่สูงเท่าไร
แต่ดาบแห่งอกาธาที่เคยเป็นของพาลาดินแห่งวิหารแห่งเฟรย่ามาก่อน เป็นหนึ่งในไอเท็มที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ค่าการโจมตีแรงและจำกัดเลเวลผู้สวมใส่ไว้ไม่สูง
แล้วยังสามารถใช้พรเพิ่มค่าสถานะให้ตัวเองได้วันละห้าครั้ง ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการของทุกคนที่ใช้ดาบได้
บางคนเข้าไปดูรายการไอเท็มที่ลี ฮุน นำมาขาย และหลังจากค้นคว้านิดหน่อย ได้เขียนโพสต์นี้ขึ้น ซึ่งแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
วีดจาก the Continent of Magic กำลังเล่น เส้นทางแห่งราชันย์! วีดเอาเครื่องสวมใส่ของพาลาดินจากวิหารแห่งเฟรย่ามาประมูล! ผู้คนแห่กันโพสต์เรื่องนี้ลงในเว็บประมูล

- วีดคนนั้นเข้าร่วมกับวิหารแห่งเฟรย่าเหรอ

- หรือจะเป็นพาลาดินไปจริงๆ แล้ว

- ทั่วทั้งทวีป จำนวนคนที่ได้เป็นพาลาดินของวิหารยังไม่ถึงร้อยคนเลย ได้เป็นอัศวินของอาณาจักรหรือของลอร์ดน่ะง่าย แต่จะเป็นพาลาดินของวิหารได้เนี่ย เค้าว่ากันว่าต้องผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ...

- วีดจริงๆ นั่นแหละ ในเกม เส้นทางแห่งราชันย์ ก็เจ๋ง

คนที่มาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ประมูลต่างพูดคุยกัน พวกเขายินดีและประหลาดใจที่รู้ว่าวีดเล่น เส้นทางแห่งราชันย์
คนที่เล่น the Continent of Magic และเคยได้ยินเรื่องวุ่นวายของวีดบนอินเตอร์เน็ตเข้ามารวมตัวกัน แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่แสดงความผิดหวังออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

- ถ้าเป็นวีดจาก Continent of Magic สำหรับพวกเราที่เล่นเกมแล้ว เขาเป็นเหมือนตำนาน

- นั่นสิ เหมือนกับไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ เขาจะเข้ายึดครองพื้นที่ล่ามอนสเตอร์อันตราย และคงกวาดหมดแมพ จนไม่เหลือมอนสักตัว สำหรับเราที่จดจำรอยเท้าของเขา...

- เขาเป็นคนที่อยู่คนเดียวตลอด แล้วนั่นก็คือสิ่งเดียวที่เขาต้องการ สำหรับผู้พิชิตแล้ว การเป็นพาลาดินของวิหารแห่งเฟรย่าทำให้ผมผิดหวัง

- เขาที่ทั้งโดดเดี่ยวและแข็งแกร่งจนกลายเป็นสิ่งให้ผู้คนบูชา ความสนใจของทุกคนพุ่งมาที่ตัวเขา ทั้งที่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในเกมอื่น จะกลายมาเป็นคนที่เก่งกว่าคนอื่นแค่นิดหน่อยใน เส้นทางแห่งราชันย์ งั้นเหรอ

- เส้นทางแห่งราชันย์ เปิดตัวมาได้ปีนึงแล้ว มาเริ่มเล่นเอาตอนนี้ไร้เหตุผลสิ้นดี เรื่องอื่นๆ ของเขาหลังจากนี้คงจะน่าเบื่อ

- ได้เห็นชื่อวีดก็ดีใจอยู่หรอกนะ แต่ที่นี่ไม่ต้องการไอดอล

ผู้คนแสดงความคิดเห็นโต้เถียงกัน สำหรับวีดที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการเล่นเกม ผู้คนแยกเป็นสองพวก พวกที่แสดงความยินดีที่เขาได้เป็นพาลาดินของวิหารแห่งเฟรย่า และพวกที่ผิดหวังที่ถึงแม้เขาจะเก่งกว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่ก็เทียบไม่ได้กับก่อนหน้านี้
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น ความสนใจก็จะถูกดึงไปจากการประมูล ตรงข้ามกับการให้ความสนใจในตัววีด ราคาประมูลของไอเท็มที่ลี ฮุน ลงขายเพิ่มขึ้นช้ามาก
ในขณะนั้นเองก็มีคนคนหนึ่งโผล่มา เขารีบโพสต์ความคิดเห็นบรรทัดหนึ่ง

- ฉันเพิ่งออกมาจาก เส้นทางแห่งราชันย์

โพสต์แบบนี้มักโดนด่าแรงๆ เสมอ

- ใครถามวะ

- จะออกจากเกมหรือไม่ออกก็ไม่มีใครสนใจหรอก

ในช่วงเวลาไม่นานก็มีคนโพสต์คอมเมนต์ถากถางคนแล้วคนเล่า จากนั้นคนที่มาโพสต์ตอนแรกก็โพสต์เนื้อหาที่ละเอียดขึ้นอีกครั้ง

- ในเวลาของทวีปเวอร์เซลล์ ประมาณ 5 ชั่วโมงที่แล้ว NPC ใน เส้นทางแห่งราชันย์ เริ่มเล่าเรื่องราวของวีดพร้อมๆ กัน NPC ทั่วทวีปพากันตะโกนเล่าเรื่องการผจญภัยของเขาที่กำจัดเผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ที่มีบทบาทสำคัญในกองกำลังอมตะนำโดยดาร์คเมจบัลข่าน ดีมอฟ และนำวัตถุโบราณของวิหารแห่งเฟรย่ากลับคืนมาได้ ผมก็เป็นผู้เล่นใน the Continent of Magic เหมือนกัน พอได้ยินว่าคุณวีดเอาเซ็ทเครื่องสวมใส่ของพาลาดินมาลงประมูลก็รีบตามมาที่นี่เพื่อคอนเฟิร์มเรื่องนี้ แสดงว่านี่เป็นเรื่องที่คุณวีดทำจริงๆ น่าชื่นชมมากๆ

- ว่าไงนะ กองทัพอมตะของบัลข่าน?

- นั่นมันหนึ่งในกองกำลังที่เขาว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดใน เส้นทางแห่งราชันย์ ไม่ใช่เหรอ

- ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านั่นคือเผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์จริงๆ มันเป็นกลุ่มที่แต่ละตัวเลเวลไม่ต่ำกว่า 270 ทั้งนั้น แล้วผู้นำของมันที่ชื่อลอร์ดโทริก็เลเวลสูงกว่า 400...

- อึ้งเลย! นี่มันเหลือเชื่อ

ผู้คนแสดงความไม่เชื่อถือ และพยายามจะเมินโพสต์นั้น มันคือหลักฐานที่ยืนยันตัวมันเองว่าระดับความยากของเควสที่นำโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของวิหารแห่งเฟรย่ามาคืน และกวาดล้างเผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ต้องมีระดับสูงมาก
การพูดว่าคนเพียงคนเดียวสามารถทำเควสต์นี้ได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม หลักฐานนั้นชัดเจนเกินไป
เครื่องสวมใส่ที่พาลาดินของวิหารแห่งเฟรย่าเคยใช้ กับแหวนของหัวหน้านักบวช!
โดยเฉพาะแหวนของหัวหน้านักบวช ว่ากันว่าจะมอบให้กับผู้ที่ทำคุณความดีใหญ่หลวงให้แก่วิหารเท่านั้น
ต่อให้เป็นพาลาดินก็เถอะ นี่ไม่ใช่ไอเท็มที่จะได้รับกันง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้
ไอเท็มของแวมไพร์ที่ลี ฮุน เคยนำออกประมูลคราวที่แล้ว เสื้อคลุม และรองเท้าบูธของแวมไพร์ ที่ยังไม่หมดระยะเวลาประมูลทำให้ไม่เหลือที่ว่างให้ความสงสัยอีกต่อไป

ลี ฮุน นอนไป 4 ชั่วโมง และลืมตาขึ้นมาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
เขารีบสวมเสื้อผ้าและไปตลาดเพื่อซื้อเครื่องเคียงสำหรับอาหารเช้า และสำหรับใส่ในกล่องข้าวอาหารกลางวันของน้องสาว
ที่โรงเรียนมีอาหารให้ก็จริง แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีใครกินแล้ว สารอาหารน้อยและที่มาของวัตถุดิบก็ไว้ใจไม่ได้
ถึงแม้ว่าอาหารเป็นพิษจะเกิดขึ้นน้อยมากแต่ถ้าเจอขึ้นมาก็เป็นปัญหาใหญ่อยู่ดี
‘ถึงจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของวัยรุ่น...’
เขาต้องเตรียมอาหารดีๆ เพื่อน้องสาวที่กำลังอ่านหนังสือสอบ
แม้จะไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้ เขาก็ไม่อยากให้น้องต้องรู้สึกขาดจากการที่ไม่มีพ่อแม่ เขาอยากให้เธอได้กินอาหารที่เต็มไปด้วยความรัก
ลี ฮุนซื้อผักสด และเนื้อสัตว์ขณะเดินไปมาในตลาดผู้ผลิตโดยไม่ลืมต่อราคา
แม้แต่ร้านที่ไม่ยอมลดราคาเยอะๆ เขาก็ใช้วิธีโผล่หน้าไปบ่อยๆ ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อให้คุ้นหน้าคุ้นตา วิธีนี้ทำให้เขาซื้อของได้ในราคาค่อนข้างถูก
เนื่องจากเขารับงานบ้านทั้งหมดมาทำคนเดียวทำให้ค่อนข้างมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ฝีมือการทำอาหารของเขาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเพราะ เส้นทางแห่งราชันย์
ตอนนี้เขามั่นใจว่าอย่างน้อยในเรื่องทำอาหาร เขาไม่เป็นรองใคร ในระดับที่สามารถไปหางานทำในห้องอาหารของภัตตาคารได้เลยทีเดียว
“ฮ้าวว! อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่”
“เพิ่งตื่นเหรอ”
ตอนที่เขากลับจากตลาด น้องสาวก็เดินขยี้ตาออกมาจากห้อง
“ไปล้างหน้าเถอะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”
“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลาน่า”
“อย่าทำตัวขี้เกียจ ถ้ามีเรื่องต้องทำละก็ รีบทำให้เสร็จ”
“ชิ! ทุกวันมีแต่บ่นๆๆ ว่าแต่ว่า เรื่องเตรียมสอบ GED เป็นยังไงบ้าง”
ลี ฮุน เคยให้สัญญากับย่า ว่าจะสอบ GED ให้ผ่าน เพราะเขาไม่มีโอกาสได้เรียนมัธยมจนจบ แต่เขายังไม่ได้อ่านหนังสือเลย
ถ้ามีเวลาให้ศึกษาภูมิศาสตร์ เขาคงจะนั่งดูแผนที่ของทวีปเวอร์เซลล์ และแทนที่จะทบทวนภาษาเกาหลี เขาต้องมานั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลล์
เพราะถ้าคุณอยากจะเป็นนักผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ คุณก็ต้องมีความรู้พื้นฐานไว้บ้าง อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกไป
“แน่นอน! พี่เรียนหนักเลยล่ะ ไม่ต้องห่วง”
จะว่าไปก็ไม่ใช่การโกหก จะเรียนนี่หรือเรียนนั่นก็คือเรียนเหมือนกัน
“โอเค หนูจะเชื่อพี่”
ระหว่างที่น้องสาวไปล้างหน้า ลี ฮุน ก็เตรียมอาหารเช้า ช่วงนี้เพิ่งเข้าฤดูหนาวและอากาศก็เริ่มเย็นเขาเลยทำซุปรสชาติสดชื่น ข้าวหุงกับถั่วแดง และเครื่องเคียงปกติ
“ขอบคุณสำหรับอาหาร”
หลังจากส่งน้องสาวไปโรงเรียนจะยังพอมีเวลาว่างนิดหน่อย
“เอาล่ะ มาดูสิว่าราคาไอเท็มที่เอาไปลงประมูลไว้ขึ้นไปถึงไหนแล้ว”
ลี ฮุน เข้าสู่เว็บประมูล แม้ว่าจำนวนผู้เข้าร่วมเสนอราคาจะมีไม่ต่ำกว่า 140,000 คนแต่ทว่า
“อะไรกันเนี่ย...”
เห็นได้ชัดว่ามีคนถึง 140,000 คนเข้าร่วมปรมูล แต่ราคาสูงที่สุดกลับยังไม่ถึง 230,000 วอนด้วยซ้ำ (7,300 บาท)
ต่อให้นำดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอกาธามาขายแบบไม่เอากำไรเลย อย่างไรก็ควรจะเป็นไอเท็มที่น่าจะขายได้สัก 2,000,000 วอน (63,000 บาท)
“ใครมันกล้าให้แค่ 230,000 วอน แล้วถ้ามีคนร่วมประมูลตั้ง 140,000 คน ราคานี้มันเป็นไปได้ด้วยเรอะ?”
ด้วยความงุนงงลี ฮุน คลิกเข้าไปดูโพสต์ในหน้าประมูล

- คุณวีด คุณเยี่ยมมาก ผมอยากจะใส่ไอเท็มของคุณแม้จะเพียงแค่ครั้งเดียวก็ตาม ไอเท็มของวีด! แต่ว่าผมไม่มีเงินเหลือเลย ก็เลยทำได้แค่เข้าร่วมประมูลแบบนี้

คนที่โพสต์แบบนี้คือคนแรกที่ประมูลที่ราคา 500 วอน (15 บาท) หลายคนที่ต้องการเข้าร่วมการประมูลมักจะเริ่มประมูลที่ 10 วอน ราคานี้จึงไม่มีนัยสำคัญอะไร

- ยินดีด้วยที่ทำเควสต์วิหารแห่งเฟรย่าสำเร็จ รักษาสปิริตของผู้เล่น Continent of Magic แล้วทำให้ดีที่สุดนะ!

คนที่สองที่มาโพสต์เพิ่มราคาประมูลขึ้นไปที่ 501 วอน เรื่องราวหลังจากนั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก

- คุณวีด กู้ดลัค!      502 วอน

- คุณวีด เยี่ยมไปเลย! 503 วอน

- ผมนับถือคุณ พยายามเข้า      504 วอน

- เอ่อ... นี่เกมประมูลแบบใหม่ใช่มั้ย      505 วอน

- ฮ่าๆ! น่าสนุกดี เอาด้วยๆ      506 วอน

- นี่มัน นี่มัน...      601 วอน

- ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ      602 วอน

นี่คือวิธีการแสดงความชื่นชมผ่านความสนุกสนานของพวกเขา มันคือการแสดงความเป็นมิตรขณะค่อยๆ เพิ่มราคาประมูลขึ้นไปช้าๆ
ต้องขอบคุณการเข้าร่วมของผู้ประมูลจำนวนมากที่ทำให้มันได้รับความสนใจจากคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ข่าวลือแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตจนแม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จักวีดมาก่อนก็เข้ามาดู

- อ้อ! นี่คือไอเท็มที่ขายโดยวีดที่เค้าลือกัน

- มาร่วมทำบุญ

- เกิน 90,000 คนแล้ว ราคาประมูลขึ้นไปกว่า 120,000 วอน

- ต่อให้ไม่รวมพวกที่ประมูลซ้ำ ก็มีคนเข้าร่วมประมูลกว่า 60,000 คนแล้ว รวมตัวกันผ่านทางโพสต์ประมูล!

- เฮ้ย! ใครมันกล้าบิดที่ 200,000 วอนวะ!  (6,300 บาท)

- ใครไม่ประมูลเรียงตามลำดับเราจะหาตัวให้พบแล้วแก้แค้น ระวังตัวไว้ เริ่มใหม่ที่ 200,001 วอน

- มาตั้งเป้าที่หนึ่งล้านคนกันเถอะ!


*************************


<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

3 ความคิดเห็น: