วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่ม2 ตอนที่ 3 สมบัติที่สาปสูญของวิหาร (Lost Treasures of the Temple)

เล่ม2 ตอนที่ 3 สมบัติที่สาปสูญของวิหาร (Lost Treasures of the Temple)


“โชคดีน๊า พี่ วีด”
“นี่ๆ ถ้าแกะสลักรูปปั้นออกมาหน้าตาเหมือนชั้นหละก็ จะมีรางวัลให้นะ”

เพื่อนๆของ วีด กล่าวคำร่ำลาก่อนจะแยกตัวออกไป
พวกเขาตัดสินใจว่า ระหว่างที่ วีด กำลังแกะสลักรูปปั้นอยู่นั้น  สมาชิกที่เหลือจะออกไปล่า มอนสเตอร์บริเวณ รอบๆกับผู้เล่นคนอื่น

ยังมีลิซาร์ดแมน จำนวนไม่น้อยที่ยังเหลืออยู่บริเวณรอบๆหมู่บ้านและคอยคุกคามชาวบ้านแถบนี้   นั่นหมายถึงรอบๆหมู่บ้านนั้นเป็นจุดเก็บเวลชั้นดีทีเดียว

วีด ไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ว่าอาชีพของเขาคือ “ประติมากร” ดังนั้นผู้คนอื่นๆก็เข้าใจว่า นี่คงเป็นเควสเฉพาะของอาชีพนี้ เลยไม่มีใครตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

พอทุกๆคนจากไปแล้ว วีด ยืนอยู่ตัวคนเดียวที่กลางลานกว้างของหฒู่บ้าน
“คงต้องหาก้อนหินก้อนใหญ่ๆซักก้อนนึง” เขาพูดกับตัวเอง
วีด ตัดสินใจว่าเขาจะแกะสลักรูปปั้นที่ทำจากหิน
เดิมที วีด เคยแต่แกะสลักไม้เท่านั้น  นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าจะใช้หินเป็นวัตถุดิบ

โชคดีที่มีหินมากมายอยู่บริเวณใกล้เคียง   หมู่บ้านบารัน นั้นเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณตีนเขา  ช่างเป็นเรื่องที่ประจวบเหมาะจริงๆ
วีด ค่อยๆมองหาหินที่เหมาะๆไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไปเจอก้อนนึงที่ใหญ่แหมาะจะนำมาสลักรูปปั้นของเขา

“เริ่มกันเลยดีกว่า”
วีด เอาค้อนแล้วสิ่วทีเคยซื้อมาจากร้านค้าเมื่อนานมาแล้ว ที่จริงเขาแค่ซื้อมาพกเก็บไว้เฉยๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้ใช้มันในการเดินทางครั้งนี้

ค้อนและสิ่วสำหรับแกะสลัก:

ความคงทน : 10/10
เซ็ทอุปกรณ์ราคาถูกสำหรับแกะสลักหิน  ทั้งทื่อและก็แตกหักได้ง่ายมาก  โปรดใช้อย่างระมัดระวัง .

เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!
.
.
.
จริงๆแล้วความแตกต่างระหว่างแกะสลักไม้กับหินนั้น มีเพียงแค่ตัววัตถุดิบเท่านั้น  สิ่งที่สำคัญจริงๆคือการจินตนาการถึงรูปร่างของรูปปั้นที่จะสลักออกมา   วีด จำเป็นจะต้องมี อิมเมจของเทพธิดาอยู่ในหัว จึงจะแกะสลักรูปปั้นที่ดีได้

วีด ค่อยๆแกะสลักหินด้วยความระมัดระวัง

การแกะสลักหินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและเปลืองแรงกว่าที่คิด   หากลงมือพลาดไปอาจทำให้เกิดรอยแตกกระจายไปทั่วหินได้

พอเข้าวันที่สอง  รูปร่างของหินเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย เทียบกับตอนแรก
วีด ยังไม่สามารถนึกภาพรูปร่างหน้าตาของเทพธิดาได้

เทพธิดาเฟรย่านั้นขึ้นชื่อเรื่องความงดงามที่ไม่มีใครเทียม  แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครเคยได้เห็นหน้าจริงๆซักคน  นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมทั้งช่างแกะสลักและจิตรกรทั้งหลายเห็นพ้องต้องกันว่า การสร้างสรรค์ผลงานที่เกี่ยวกับเฟรย่านั้นเป็นงานที่ยากและท้าทาย

“ชั้นจะต้องแกะสลักรูปปั้นเฟรย่าที่งดงามที่สุดเท่าทีเคยมีมา” วีด คิดในใจ

เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!
.
.
.
ความเร็วในการแกะสลักค่อยๆลดลง   วีด จมอยู่ในห้วงความคิดของเขา
“ทำยังไงดีนะ จะแกะสลักออกมาเป็นหน้าใครดี….?.”

หากผลงานออกมาห่วย   มันคงเป็นการเสียศักดิ์ศรีในฐานะของช่างแกะสลัก  นอกจากนั้น ค่าชื่อเสียงก็จะลดลง  ซึ่งตัวเขาไม่อาจมองช้ามเรื่องนี้ไปได้

“เอาใครเป็นต้นแบบดีน๊า…..ใคร…….”

เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!  เคร๊ง!!!
จู่ๆ วีด ก็เร่งความเร็วในการแกะสลักขึ้น

ความงดงามที่ไม่มีใครเทียม   เทพธิดาที่เสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์   เธอเรียนรู้ที่จะยิ้มเป็นครั้งแรก
รอยยิ้มของเธอ  มอบแสงสว่างที่แสนอบอุ่นห่อหุ้มโลกใบนี้ไว้

เขานึกถึงใบหน้าของ  ซอยุน

เขาเคยเจอหน้าเธอเพียงแค่ช่วงสั้นๆตอนที่ไปกินบาร์บิคิวที่บ้านของครูฝึก  ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยพบเจอผู้หญิงคนไหนที่งดงามเท่ากับเธอมาก่อน

แม้กระทั่งดาราที่พบเห็นได้ตามทีวี ก็ยังไม่อาจเทียบชั้นกับความงามของเธอได้
แต่กระนั้นเธอก็ไม่เคยยิ้ม  หรือแม้กระทั่งแสดงออกถึงอารมณ์ใดๆให้เห็นทางสีหน้า

ตรงกันข้ามกับรูปปั้นนี้ที่ยิ้มอย่างอบอุ่ม   หญิงสาวในชุดของนักเดินทาง  ถือดาบอยู่ในมือ
พอรูปปั้นนั้นเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างออกมา วีด มองไปที่รอยยิ้มพร้อมกับใจเต้นสั่นโดยไม่รู้ตัว

ความสวยงามของรูปปั้นดึงดูดผู้คนโดยรอยเข้ามาชื่นชมโดยไม่ขาดสาย

“ดูนั่นสิ”
“ช่างงดงามอะไรแบบนี้”

ไม่นานนักเหล่าชาวบ้านและทหารของ โรเซนไฮม์ ก็เข้ามารวมตัวกัน ภายใต้มนต์สะกดของรูปปั้นเทพธิดาเฟรย่า

รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่า

“เฟรย่า” เทพธิดาแห่งความงดงามและอุดมสมบูรณ์ ผู้ปกปักรักษาหมู่บ้านหมู่บ้าน บารันมาช้านาน  ครั้งก่อนเดิมที่เคยมีรูปปั้นตั้งอยู่ที่ลานกลางหมู่บ้าน  แต่เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อกาลก่อนทำให้รูปปั้นได้ถูกทำลายลง

“แกนดิลวา” ผู้อาวุโสผู้ปกครองหมู่บ้านได้เศร้าเสียใจเป็นอย่างมากต่อการพังทลายลงของรูปปั้นองค์เก่าและได้ขอร้องให้คุณสร้างรูปปั้นองค์ใหม่เพื่อทดแทน

********

ผู้เล่นคนนึงได้มาถึงหมู่บ้านบารัน เธอสวมใส่ชุดนักเดินทาง สวมผ้าคลุมที่มีฮู๊ดปกปิดใบหน้าเอาไว้

ซอยุน

ชื่อของเธอไม่ได้ติดสัญลักษณ์สีแดงเหมือนครั้งก่อน เธอได้ล่ามอนสเตอร์จำนวนมากเพื่อล้างโทษที่ฆ่าผู้เล่นไป

ที่นี่คนเยอะจริง
น่ารำคาญ

ซอยุน ค่อยๆเดินตรงไปที่บ้านของผู้อาวุโสเพื่อส่งเควส เธอแบกกระเป๋าสะพายที่สามารถจุน้ำหนักได้สิบเท่าของปกติ เพื่อที่จะได้บรรจุรูปปั้นของเฟรย่าได้

ระหว่างที่เธอกำลังเปิดประตูเพื่อข้าไปในบ้านของผู้อาวุโสนั้น

“ท่านนี่สุดยอดจริงๆ รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่านี่ช่างงดงามเสียนี่กระไร”

“ชมแบบนี้ผมเขินแย่เลยครับท่านผู้อาวุโส ผมพึ่งแกะสลักเสร็จไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเอง”

“ข้าไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี ท่าน วีด เมื่อรูปปั้นนี้สร้างเสร็จ หมู่บ้านของเราก็จะได้กลับมาผาสุขดังกาลก่อนอีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันลืมพระคุณของท่านเลย”

ซอยุน ชักมือกลับ และตัดสินใจไม่เข้าไปในบ้านของผู้อาวุโส

*****

เมื่อสองเดือนก่อน ซอยุน ได้ออกจากบ้านของครูฝึกและมุ่งลงใต้ เธอได้ท่องเที่ยวไปในสถานที่ๆคนทั่วไปไม่ค่อยจะไปกัน
ทั้งขึ้นเขา ทั้งเข้าไปที่รังของเหล่ามอนสเตอร์ เธอรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ในสถานที่แบบนั้น ตราบใดที่ยังมีมอนสเตอร์มาให้เธอได้เข่นฆ่าไม่จบไม่สิ้น

เธอเดินทางมาถึงหมู่บ้านบารัน ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีลิซาร์ดแมนมาบุกยึด

เธอเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อซื้ออาหารชายพวกไอเทมที่ได้มาจากการล่าครั้งก่อนๆ แล้วก็บังเอิญได้ยินเสียงถอนหายใจของผู้อาวุโส แกนดิลวา

ผู้อาวุโสกำลังพร่ำพรรณนาเสียใจเรื่องที่รูปปั้นถูกทำลายลง เขาเหลือบไปเห็น ซอยุน ผ่านมา จากนั้นเขาได้ขอให้ เธอ ช่วยหารูปปั้นใหม่มาทดแทนของเดิม

ข้าคิดว่าท่านจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะหารูปปั้นเทพธิดา องค์ใหม่มาเปลี่ยนแทนองค์เดิมที่ถูกทำลายไป ท่านจะช่วยทำให้คำขอของตาแก่ใกล้ตายคนนี้ได้สมหวังได้หรือไม่

ปกติแล้ว ซอยุน ไม่ค่อยได้รับเควสทั่วๆไปที่คนอื่นเค้าทำกันเท่าไรนัก เนื่องจากเธอไม่เข้าปาร์ตี้ และไม่คิดจะสร้างความสนิทสนมกับ NPC นานๆทีถึงจะมี NPC มามอบเควสให้เธอแบบนี้

ซอยุน ไม่พูดอะไร พยักหน้าตอบรับเควสนี้
ด้วยภาระกิจที่รับมา เธอจะต้องกลับไปที่นคร เซราบอร์ก เพื่อซื้อรูปปั้นเทพธิดาที่นั่นแล้วแบกกลับมาที่หมู่บ้าน
เส้นทางอันยาวไกลที่ต้องปกติต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 3 เดือน หากเป็นเส้นทางตามที่ผู้เล่นทั่วไปใช้
แต่ ซอยุน เลือกที่จะใช้ทางลัดที่เต็มไปด้วยอันตรายเดินตัดตรงไปสู่จุดหมาย ปกติผู้เล่นทั่วไปจะไม่ใช้เส้นทางนี้เพราะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ร้ายกาจมากกมาย

เธอสังหารมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนตลอดการเดินทางกลับไปที่นครเซราเบิร์ก
เมื่อเธอไปถึง ซอยุน ได้ไปซื้อรูปปั้นอันล้ำค่ามาจาก พระสังฆราช แมนโดลิน (Mandolin)
เป็นรูปปั้นที่งดงามและได้รับการปลุกเสกจากพระสังฆราชโดยตรง
ถึงกับต้องใช้เงินที่มีเกือบทั้งหมดเพื่อซื้อรูปปั้นนี้มา

*****

ซอยุน หันหลังกลับและเดินตรงไปที่จตุรัสกลางหมู่บ้าน
ที่นั้นเธอเห็นรูปปั้นเทพธิดาเฟรย่าตั้งอยู่
เป็นรูปปั้นที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดี

“มันงดงามมากใช่ไหมล่ะ คุณนักเดินทาง” หญิงสาวพูดกับ ซอยุน ขณะที่สายตายังจับจ้องที่รูปปั้นอยู่

“ท่าน วีด ผู้กล้าผู้กอบกู้หมู่บ้านของพวกเรา ได้แกะสลักรูปปั้นนี้ขึ้นมา เมื่อใดที่มันเสร็จสมบูรณ์ หมู่บ้านนี้ก็จะกลับมาผาสุขอีกครั้งดั่งเช่นกาลก่อน”

ซอยุน มองไปที่รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่าของ วีด แม้ว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่รูปปั้นก็ทั้งสวยงามและส่องประกายออกมา

รูปปั้นที่ให้บรรยากาศสบายๆ บนใบหน้าของรูปปั้นปรากฏรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น
เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นได้เปลี่ยนโลกทั้งใบให้สว่างสดใสดูมีชีวิตชีวา

รูปปั้นที่เธอซื้อมานั้นเป็นผลงานระดับ”มาสเตอร์พีช(master piece)” เป็นรูปปั้นที่ทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยแสงแห่งความศรัทธา

แต่กระนั้นเมื่อมันก็ยังไม่อาจเทียบได้กับรูปปั้นของ วีด ประหนึ่งเอาแสงของหิ่งห้อยไปประชันกับแสงอาทิตย์ยังไงยังงั้น

ซอยุน มองที่รูปปั้นของ วีด เป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็เดินออกจากหมู่บ้านไปเงียบๆโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกตุว่า รูปปั้นของ วีด นั้นถอดแบบมาจากตัวเธอเอง

*****

*แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก….*
.
.
.
แม้แต่ยอดมนุษย์จอมอึดอย่าง วีด ยังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า เขาแกะสลักรูปปั้นนี้ติดต่อกันมาร่วมสิบวัน

ข่าวลือเรื่องรูปปั้นเทพธิดาเฟรย่าแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มีผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมายังหมู่บ้านบารันเพื่อชมความงามของรูปปั้นนี้

นอกเหนือจากผู้เล่นในกองกำลังขับไล่และพวกทหารของโรเซนไฮม์แล้ว พวกผู้คนจากเมืองบริเวณใกล้เคียงก็ทยอยกันเดินทางมาเพื่อจะดูวินาทีที่รูปปั้นนี้เสร็จสมบูรณ์

“งดงาม……งดงามอะไรเยี่ยงนี้”
“ยังกับเทพธิดาเฟรย่าเสด็จมายังหมู่บ้านนี้จริงๆยังงั้นและ”

ผู้ชมจำนวนมากตกตะลึงและพูดคุยกันเรื่องความงามของรูปปั้นไม่ขาดสาย บางคนถึงกับคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้าของรูปปั้นด้วยความศรัทธา

ทันใดนั้นหน้าต่างของระบบก็เด้งขึ้นมา
ผลงานชั้นเยี่ยม! : คุณสร้างรูปปั้นเทพธิดาเฟรย่าได้สำเร็จ
งานศิลปะไม่ได้วัดค่าจากความสวยงามและความละเอียดละออในการสร้างสารผลงานเท่านั้น
งานศิลปะที่ยิ่งใหญ่จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของผู้ที่พบเห็นและชำระล้างจิตใจของผู้คนเหล่านั้นให้บริสุทธ์
รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่า มีความงดงามหาใดเปรียบได้ แม้จะถูกสร้างขึ้นโดยช่างแกะสลักที่ยังไม่ชำนาญนัก
แต่รูปปั้นนี้จะตราตรึงอยู่ในใจของผู้พบเห็นตราบนานเท่านั้น

ระดับคุณค่าทางงานศิลปะ : 150
คุณสมบัติ : เพิ่มอัตราการพื้นฟูพลังชีวิตและมานา 15% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ไม่สามารถรับคุณสมบัตินี้พร้อมๆกับรูปปั้นอื่นๆได้
จำนวนผลงานชั้นเยี่ยมที่คุณเคยสร้างมา : 1 ชิ้น


"ผลงานชั้นเยี่ยม!!!"
แค่ฝีมือในการสร้างสรรผลงานอย่างเดียว มิอาจสร้างผลงานที่มีระดับ “ผลงานชั้นเยี่ยม(fine piece)” “ผลงานระดับปรมาจารย์(grand piece)” และ“ผลงานระดับมาสเตอร์พีช(master piece)” ได้
ต้องเป็นผลงานที่ผู้สร้างทุ่มเทใส่จิตวิญญาณของตนลงไปและเป็นที่จดจำอย่างกว้างขวางในหมู้ผู่เล่นคนอื่นๆ

วีด สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เหนือกว่าที่คาดการไว้มากนัก
ผลงานชั้นเยี่ยม จะมีคุณสมบัติเสริมต่างๆติดมาด้วย ดั่งเช่นที่เห็นในรูปปั้นนี้

ความจริงแล้ว วีด เองยังมีระดับสกิลความชำนาญของช่างแกะสลักอยู่ในชั้นเริ่มต้นเท่านั้น จริงๆแล้วไม่ควรจะสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณสมบัติเสริมติดมาเช่นนี้ แต่ว่าเขามีไอเทมมีดแกะสลักของ ซาฮัป ช่วย ทำให้ วีด สร้างผลงานชั้นเยี่ยมออกมาได้สำเร็จ


Level up: ความชำนาญของช่างแกะสลักเพิ่มเป็นระดับ [9]
คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่งดงามและละเอียดละออได้มากขึ้น
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50 หน่วย  (+50 Fame)
แต้มศิลปะเพิ่มขึ้น 15 หน่วย (+15 Art)
ความอึดเพิ่มขึ้น 10 หน่วย (+10 EDR)
กำลังกายเพิ่มขึ้น 5 หน่วย (+5 VIT)


ค่าสถานะมากมายเพิ่มขึ้นจากการสร้างสรรผลงานระดับ “ผลงานชั้นเยี่ยม”
ระดับสกิล”ความชำนาญของช่างแกะสลักขั้นต้น” เพิ่มเป็นระดับ 9 แล้ว อีกแค่ระดับเดียวพัฒนาไปเป็น “ความชำนาญของช่างแกะสลักขั้นกลาง”

เขารู้สึกว่าแอบโกงคนอื่นไปหน่อย

ผลงานระดับ”ผลงานชั้นเยี่ยม” ไม่ได้โผล่มาง่ายๆ
ต้องขอบคุณ ”มีดแกะสลักของ ซาฮัป” ตามหลักแล้ว ช่างแกะสลักที่ระดับสกิลยังไม่ถึงชั้นกลาง ไม่มีวันสร้าง”ผลงานชั้นเยี่ยม” ออกมาได้เด็ดขาด

วีด รู้ดีว่า เขายังขาดความชำนาญในการแกะสลัก
หากว่าระดับสกิลของเขาอยู่ในชั้นกลาง หรือ ชั้นสูงก่อนที่เขาจะเริ่มสลักรูปปั้นนี้
ผลงานที่ออกมาจะต้องเป็นระดับ “ปรมาจารย์” หรือระดับ “มาสเตอร์พีช” เป็นแน่แท้

ซึ่งนั่นจะทำให้เขาได้ โบนัสค่าสถานะเพิ่มขึ้นอีก 5 หน่วย สิทธิพิเศษเฉพาะของอาชีพช่างแกะสลัก

ปกติแล้ว อาชีพช่างแกะสลักทั่วไป(ไม่นับอาชีพ ช่างสลักแสงจันทร์ของ วีด) มีความสามารถในการต่อสู้ต่ำกว่าอาชีพอื่นมาก
พวกช่างแกะสลักมีทั้งพลังโจมตี และพลังป้องกันที่ต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ ร่ายเวทย์ก็ไม่เก่ง
สกิลเสริมที่ช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ก็ไม่ค่อยจะมี
ปาร์ตี้ไหนก็ไม่ไม่ค่อยยินดีรับช่างแกะสลักเข้าทีม ช่างเป็นอาชีพที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากยิ่งนัก

ทางเดียวที่จะชดเชยได้คือการมีค่าสถานะพื้นฐานที่เหนือกว่าอาชีพอื่น ซึ่งได้จากการสร้างสรรค์ผลงานชั้นสูงๆออกมา
แต่กระนั้นการจะสร้างผลงานดีๆออกมาขึ้นอยู่กับทั้งฝีมือและโชค

แม้แต่ช่างแกะสลักฝีมือระดับต้นๆก็ไม่สามารถสั่งได้ว่าผลงานระดับที่จะให้โบนัสค่าสถานะจะออกมาเมื่อไร

ลองจินตนาการดูว่า หากคุณทุ่มเทแทบตายเป็นเวลาสิบวันสร้างสรรค์ผลงาน แต่สุดท้ายแล้วก็ได้ผลงานธรรมดาๆทั่วไป คุณจะรู้สึกเช่นไร ความผิดหวังและสิ้นหวังจะถาโถมเข้ามาขนาดไหน

ผู้เล่นจำนวนมากลองเลือกเส้นทางของนักแกะสลัก แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องลบตัวละครทิ้งไป

ชีวิตของเหล่าอาขีพช่างแกะสลักช่างยากลำบากยิ่งนัก

ผู้อาวุโส แกนดิลวา ตรงเข้ามากุมมือของ วีด ด้วยใบหน้าอันปลาบปลื้ม

“ขอบคุณมาก….. ขอบคุณท่านจริงๆ ท่านสร้างรูปปั้นที่แสนจะยอดเยี่ยม พวกเราชาวหมู่บ้านบารันได้รับพรอันยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นความงดงามของรูปปั้นนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากจากเมืองอื่นๆ ท่านเป็นดั่งผู้ชุบชีวิตหมู่บ้านนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งจริงๆ”

ภาระกิจเสร็จสิ้น : รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่า
ผู้อาวุโส แกนดิลวา ซาบซึ้งใจกับผลงานของท่านเป็นยิ่งนัก
รูปปั้นเทพธิดาเฟรย่าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางหมู่บ้านบารันได้มอบทั้งความหวังและความกล้าให้กับชาวบ้านทุกคน
พวกเขาจะยินดีต้อนรับท่านทุกครั้งที่ท่านกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 30 หน่วย (+30 Fame)
เลเวลอัพ!
เลเวลอัพ!
เลเวลอัพ!

ระดับความไว้เนื้อเชื่อใจของชาวบ้านหมู่บ้านบารันเพิ่มขึ้นเป็น 60%
อันดับ 1 วีด 60%
อันดับ 2 ดาริอุส 45%
อันดับ 3 ซอยุน 33%

ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
รางวัลค่าประสบการณ์จากเควสนี้เยอะจนเลเวลอัพไป 3 เลเวล เทียบเท่าได้กับเควสความยาก D ระดับต้นๆเลยทีเดียว

นอกจากนั้นยังเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจจนเพิ่มมาเป็นอันดับหนึ่ง
ซึ่งค่านี้ก็ให้ประโยชน์ในหลายๆทาง เช่น สามารถซื้อสินค้าต่างๆในเมืองนี้ด้วยราคาที่ถูกกว่าปกติ หรือมีสิทธิ์เข้ารับเลือกเข้าดำรงตำแหน่งบริหารในพื้นที่นี้เช่น เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน หรือเป็นลอร์ด

แต้มความไว้เนื้อเชื่อใจของ วีด เพิ่มอย่างรวดเร็วจากการที่เขาได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกจับและยังได้สร้างรูปปั้นเทพธิดาเฟรย่า อีกทั้งยังได้ขายอุปกรณ์ต่างๆจำนวนมากที่ขนมาจากรังของลิซาร์ดแมน

ส่วนอันดับ 2 ที่เป็นของ ดาริอุส นั้นแน่นอนว่ามาจากการที่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังที่ขับไล่พวกลิซาร์ดแมนออกไปจากหมู่บ้านได้สำเร็จ

สำหรับ ซอยุน นั้นเธอได้สังหารมอนสเตอร์รอบๆหมู่บ้านจำนวนมากมาย และขายพวกไอเทม ต่างๆที่ดรอปมาให้กับร้านค้า
ก่อนที่ วีด และ ดาริอุส จะมาชื่อของเธออยู่อันดับหนึ่งมาตลอด

“ซอยุน อยู่ที่ 3 ยังงั้นหรือ นี่เธอเคยมาที่นี่ด้วยหรือนี่” วีด ถึงกับใจหายวูบ

วีด แกะสลักรูปปั้นตามรูปร่างหน้าตาของ ซอยุน ถ้าเธอผ่านมาเห็นรูปปั้นนี้เข้า เขาคาดว่าเธอคงตัดหัวเขาเป็นแน่แท้

“ท่านผู้อาวุโส ข้ามีเรื่องจะถามท่านหน่อย” วีด ถาม แกนดิลวา ด้วยความสงสัย

“มีอะไรรึ ท่าน วีด”
“คนที่เคยรับเควสหารูปปั้นใหม่มาเปลี่ยนที่ท่านเคยกล่าวถึงนี่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อ ซอยุน หรือเปล่าครับ”

“ใช่ๆ เป็นเธอคนนั้นแหละ ท่านรู้จักด้วยหรือ เธอรับคำขอของข้าไป แต่ยังไม่ได้กลับมาเลย”

“อย่างนี้นี่เอง” วีด โล่งใจที่ ซอยุน ยังไม่ได้กลับมาที่นี่  ถ้าเธอกลับมาพบว่าเขาตัดหน้าทำเควสนี้สำเร็จไปก่อน หรือกลับมาตอนเขากำลังสร้างรูปปั้น สงสัยจะโดนเชือดโทษฐานที่ไปแย่งเควสเป็นแน่แท้

เมื่องานเสร็จแล้ว วีด อยากจะรีบไปเมืองลอยฟ้าให้เร็วที่สุด เขาอยากจะรีบเผ่นก่อนอาจจะซวยได้ แต่ แกนดิลวา ยังไม่ยอมปล่อยมือไปขากเขา

“ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับท่าน  ท่านผู้มีพระคุณ”

“ว่ามาเลย ท่านผู้อาวุโส”

“คงเป็นลิขิตจากฟ้า ที่ส่งท่านมาที่นี่ นานมาแล้วมีนักบวชที่มาจากวิหารแห่งเฟรย่าได้มาที่นี่และบอกกับข้าเรื่องการแผ่ขยายของอำนาจมืดจากเหล่าปีศาจที่ชั่วร้ายสุดแแสนจะร้ายกาจ นักบวชท่านนั้นเกล่าว่า มีแต่ผู้กล้าที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะกำจัดภัยร้ายเหล่านั้นได้”

“ตอนแรกข้าก็ไม่เข้าใจเรื่องที่นักบวชท่านนั้นพูดเท่าไรนัก แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ผู้กล้าท่านนั้นคงจะเป็นท่านนี่เอง เมล็ดที่ข้าได้มอบให้ท่าน จะเปิดทางไปสู่ดินแดนใหม่ นักบวชได้กล่าวไว้ว่า เมื่อไปถึงที่นั่นให้ตามหาคนที่มีนามว่า ซีกัล (Seagull) เพื่อที่จะได้ตามหาสมบัติที่สาบสูญของวิหารแห่งเฟรย่า จงตามหาเขาให้พบและเป็นผู้กล้าที่สามารถกำจัดเหล่าปีศาจร้ายได้”

คุณได้พบเบาะแสของสมบัติที่สาบสูญของวิหารแห่งเฟรย่า

เยี่ยม!! ท่าทางจะเป็นภาระกิจต่อเนื่องจากภาระกิจสร้างรูปปั้นเฟรย่า  เรานี่ช่างโชคดีจริงเลย

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ช่วยขจัดภัยร้ายให้กับโลกนี้ ข้าจะพยายามเต็มที่เพื่อตามหาสมบัติที่สาบสูญของวิหารแห่งเฟรย่าให้จงได้”
คุณตอบตกลงรับภารกิจนี้

หลังจากนั้นเสร็จเรื่องราวต่างๆ วีด ก็เดินไปหาเพื่อนๆของเขาที่รออยู่

“สุดยอดเลยพี่ ไม่คิดเลยว่ารูปปั้นที่พี่สร้างจะสวยขนาดนี้” เพล กล่าวขนาดสายตาของเขายังจับจ้องที่รูปปั้นอยู่ แม้แต่ เซอร์กะ, ไอรีน และ โรมูเนะ ก็ยังไม่วายหลงชื่นชมความงามของรูปปั้นได้ด้วย

ระหว่างที่ วีด สร้างรูปปั้น พวกเขาออกไปเก็บเลเวลจนตอนนี้ อยู่ที่ราวๆ 60 กลางๆกันหมดแล้ว จากการเก็บเลเวลกับแบบหามรุ่งหามค่ำ

“สุดยอดเลย ยังกับมีชีวิตเลยแหนะ เป็นรูปปั้นที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยนะนี่”
“หนูว่าเทพธิดาเฟรย่าตัวจริงก็คงสวยสู้รูปปั้นนี้ไม่ได้หละ”

“ไม่คิดเลยว่าพี่จะมีหัวศิลป์ขนาดนี้นะนี่ พี่นี่สุดยอดจริงๆ”

วีด คิดในใจว่า บอกไปทุกคนคงไม่เชื่อเรื่องที่ตอนเริ่มแกะสลักเขายังไม่รู้จริงๆว่าจะแกะออกมาเป็นรูปแบบไหนจนกระทั่งเริ่มลงมือไปแล้วค่อยคิดออก

“ผมก็แค่นึกภาพของสาวๆทุกคนรวมๆกันนั่นแหละ ไอรีน, เซอร์กะ และก็ โรมูเนะ ทั้งจิตใจที่บริสุทธ์และในหน้าที่งดงามถูกสลักลงในรูปปั้น มันเลยออกมาสวยแบบนี้ไง” (สกิลปากหวานของ วีด เริ่มทำงานอีกครั้ง)

“แหม พี่นี่หละก็ ปากหวานจริงๆ”

ระหว่างที่กำลังชื่นชมรูปปั้นก็มีเสียงของผู้ไม่ได้รับเชิญดังออกมา

“เฮ๊ย แกคือ วีด ใช่ไหม”

ดาริอุส โผล่ออกมาจนได้

“แกนี่มีฝีมือแกะสลักไม่เลวเลยนะ ชิ้นนี้ผลงานระดับ มาสเตอร์พีชหรือเปล่า”

ดาริอุส เองก็มีความรู้กว้างขวางไม่น้อย ด้วยเลเวล 140 เขาก็เคยรู้เรื่องของช่างแกะสลักมาบ้าง

“เปล่า ไม่ใช่หรอก”

“งั้นก็ผลงานชั้นดีสินะ”

“ใช่แล้วหละ” วีด ตอบห้วนๆ

“โฮ่! ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นผลงานชั้นดีกับตาตัวเอง เคยได้ยินว่าผลงานระดับนี้มีไม่เกิน 100 ชิ้นเท่านั้น”

ดาริอุส กล่าวพร้อมด้วยร้อยยิ้มที่ดูไม่จริงใจนัก

“ยินดีด้วยนะ ชั้นเดาว่าแกคงได้ค่าโบนัสสถานะ พอสมควรเลยนะนี่ ในที่สุดก็มีโชคตกถึงมือกับเค้าบ้างหละนะ กับชีวิตของช่างแกะสลักที่ไร้ฝีมือในแง่ของการต่อสู้หละก็นะ”

ดาริอุส ดูถูก วีด อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเขาเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาชีพช่างแกะสลัก
ในความจริงแล้ว ช่างแกะสลักส่วนใหญ่จะอ่อนมากในเรื่องของการต่อสู้ อาชีพนี้แม้จะมีค่าสถานะ ที่สูงแต่ก็ไม่มีสกิล ที่ใช้ในการต่อสู้ดีๆเลย
ถึงแม้จะสามารถหาสกิลสายต่อสู้มาได้ พวกช่างแกะสลักก็ยังไม่รู้วิธีสู้ที่ถูกวิธีอยู่ดีนั่นแหละ
พวกช่างแกะสลัก ต้องทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาสกิลความชำนาญของช่างแกะสลัก เทียบกันแล้ว หากนับเวลาที่เล่นเท่าๆกัน  ผู้เล่นพวกนี้จะเลเวลต่ำกว่าคนอื่นเขา

แต่แน่นอน วีด เป็นข้อยกเว้น (อาชีพประติมากรแสงจันทร์ มี สกิล สายต่อสู้โหดๆ และวีด เองก็ชำนาญเรื่องการต่อสู้อยู่แล้ว แถมบ้าเก็บเวลอีกต่างหาก)

“เฮ๊ย!! พูดอะไรระวังปากหน่อย” เพล ก้าวออกมาแสดงความไม่พอใจ เมื่อเห็นเพื่อนของเขาโดนดูถูก

“พวกงี่เง่าก็งี้แหละ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดอะไรออกมา พี่ วีด สู้เก่งจะตายไป” ทั้งสามสาวกล่าวด้วยความไม่พอใจ จุดชนวนให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

ปกติ เซอร์กะ เป็นสาวห้าวเลือดร้อนอยู่แล้วก็พอจะคาดเดาได้ ส่วน โรมูเนะ จะไม่พอใจด้วยในเรื่องนี้ก็ไม่แปลกใจเท่าไร แต่ที่ วีด และ เพล คาดไม่ถึงคือ ไอรีน ที่ปกติจะสุภาพและใจเย็นก็เป็นไปกับเขาด้วย

“พูดงี้หมายความว่าไงวะ!!” ดาริอุส ทนไม่ได้ที่ถูกด่าเป็นไอ้โง่

“ทำไม!? ก็พวกเราพูดเรื่องจริงนี่นา” สามสาวไม่ยอมถอย

“แก กล้า ดี ยัง ไง!!!”

“แล้วไง? จะฆ่าพวกเรางั้นเหรอ?......”

“แล้วแกคิดว่าชั้นจะยอมปล่อยพวกแกไปยังงั้นหรือ!!?”

ดาริอุส กำลังจะชักดาบออกมา ด้วยอาชีพนักรบเลเวล 140 ต่อให้พวก วีด รุมก็ยังสู้ไม่ไหว

ไม่สิ วีด อาจจะมีโอกาส เพราะ ดาริอุส ไม่รู้เรื่องความสามารถของ วีด
แม้จะมีเลเวลแค่ 70 แต่จาก Stat ที่สูงกว่าปกติ ทำให้ วีด เก่งเที่ยบเท่ากับพวกเลเวล 100 ต้นๆเลยทีเดียว
บวกกับสกิลโกงๆ ของประติมากรแสงจันทร์ ถ้าฉวยโอกาสตอนไม่ทันตั้งตัวก็อาจจะล้ม ดาริอุส ลงได้

ปัญหาคือถ้าจัดการม้วนเดียวไม่จบ ดาริอุส ก็เป็นฝ่ายชนะแน่นอน เนื่องจากสกิลของ วีด กินมานามหาศาลมาก ไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อได้

“ใจเย็นๆสิ ดาริอุส” พวกของ ดาริอุส เข้ามาห้ามทัพ

“ปล่อยสิวะ ให้ชั้นสั่งสอนพวกสวะไร้สัมมาคารวะนี่ก่อน”

“นายน่ะเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังกวาดล้างนะ มันไม่เหมาะที่จะมาท้าสู้กันกับลูกน้องของตัวเอง นายก็รู้นี่ ว่าค่าชื่อเสียงของนายลดฮวบแน่ถ้านายทำอย่างงั้น”

หลังจากพรรคพวกของ ดาริอุส ช่วยห้ามทัพในที่สุดเจ้าตัวก็เริ่มใจเย็นลง

“โอเค ครั้งนี้ชั้นจะยอมยกโทษให้ก็ได้”

ได้ยิน ดาริอุส พูดแบบนั้น โรมูเนะ ทำหน้าเบ้สวนกลับทันที
“ใครยกโทษให้ใครกันแน่ หน้าไม่อาย อี๋!!!”

“ทำตัวสูงส่งยังกับตัวเองเป็นเจ้าชายยังงั้นแหละ  แหวะ!!”

คำแขวะของ เซอร์กะ เกือบจำทำให้เกิดศึกรอบสอง แต่ทว่าพวกผู้เล่นในกองกำลังกวาดล้างแห่กันมามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซะก่อน

ภาพพจน์ของพวกของ ดาริอุส ติดลบอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในทางกลับกัน พวก วีด นั้นเป็นที่ชื่นชอบในหมู่กองกำลังกวาดล้าง
วีด คอยช่วยปรุงอาหาร ซ่อมอุปกรณ์และตรวจสอบอุปปรณ์ต่างๆให้ฟรีอยู่เสมอ พวกเพื่อนๆของเขาก็ใจดีและเป็นมิตรกับผู้เล่นคนอื่นๆอยู่แล้ว(ยกเว้น ดาริอุส นะ)
ช่วงที่ วีด กำลังง่วนอยู่กับการแกะสลักรูปปั้น พวกของ เพล ก็ไปเข้าร่วมออกล่ากับปาร์ตี้อื่นๆ ซึ่งด้วยความสามารถและเทคนิคในการล่าอย่างรวดเร็วของพวกเขา ทำให้ปาร์ตี้นี้เป็นที่ต้องการของผู้เล่นอย่างยิ่ง
ในทางกลับกัน ไม่มีใครชวนพวก ดาริอุส เข้าปาร์ตี้เลย พวกนี้ต้องออกล่ากันเองอยู่เสมอ

ดาริอุส ยืนโกรธจนตัวสั่นแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ สุดท้าย พาร์รอส (Parros) เพื่อนของ ดาริอุส ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองว่า


“พวกเราเป็นสมาชิกของกิลด์ อิกะ (Iga) คิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อนี้ใช่ไหม” อิกะ เป็นหนึ่งในสามกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดของ โรเซนไฮม์
“พวกเรามีแผนที่จะยึดเมืองนี้ในไม่ช้านี้ และเราก็อยากได้ป้ายสัญลักษณ์สวยๆซักป้ายนึง เมื่อถึงตอนนั้นนายจะช่วยสร้างให้เราได้ไหม และแน่นอนเราจะจ่ายให้อย่างงาม”

จริงๆตอนแรก ดาริอุส มาหา วีด ก็จะมาติดต่อเรื่องทำป้ายกิลด์นี่แหละ แต่ดันมาทะเลาะกันซะก่อน เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ ดาริอุส มีเรื่องหงุดหงิดใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ดาริอุส อารมณ์เสียเนื่องจากที่แม้ว่าภารกิจของกองกำลังกวาดล้างสำเร็จลง แต่ผลตอบแทนที่ได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มากนัก
ไม่รู้มีไอ้ตัวแสบที่ไหนแอบมาฉกสมบัติในรังลิซาร์ดแมนตัดหน้าเขาไป
พวกของเขาพยายามหาตัวต้นเหตุ แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าไอ้ตัวแสบที่ว่า กำลังนั่งแกะสลักรูปปั้นเฟรย่าอยู่กลางหมู่บ้าน
นอกจากจะเป็นแค่อาชีพช่างแกะสลักแล้วยังมีเลเวลไม่ได้สูงอะไร เลยไม่มีใครสงสัยปาร์ตี้ของ วีด เลย

**********************************

เมื่อเวลาผ่านไป พวกกองกำลังกวาดล้างที่นำโดย ดาริอุส ก็ยกพลย้ายขึ้นเหนือจากเมืองบารันไป

ยังเหลือผู้เล่นจำนวนไม่มากที่ปักหลักล่ามอนเสตอร์อยู่บริเวณรอบๆ แต่เนื่องจากหมู่บ้านบารันเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ไม่มี ผับและบาร์เหล้าให้บริการ  พวกผู้เล่นไม่สามารถปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าหลังจากออกล่ามอนสเตอร์ด้วยเบียร์และเครื่องดื่มเย็นๆได้ สุดท้ายด้วยความโหยหาสิ่งเหล่านี้ เหล่าผู้เล่นก็ออกจากเมืองไป

เหลือเพียงเหล่าทหารที่ถูกทิ้งไว้คอยดูแลเมืองเท่านั้น

วีด และพรรคพวกได้เข้าไปส่งเควสขับไล่พวกลิซาร์ดแมนกับผู้อาวุโส แกนดิลวา

“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะ พวกเราจะไม่ลืมสิ่งที่ท่านได้ทำไว้เลย”
พวกเขาได้รับแต้มชื่อเสียง 20 แต้ม (+20 fame)

หลังจากหมดเรื่องที่ต้องทำที่หมู่บ้านนี้ วีด และพรรคพวกก็พร้อมที่จะออกเดินทาง

“ได้เวลาแล้วล่ะ” วีด กล่าว

“งั้นไปหาที่เงียบๆมืดๆละกันนะ จะได้ไม่มีใครเห็น” โรมูเนะ พูดด้วยเสียงกระซิบ

ถ้าใครมาได้ยินเข้าสงสัยจะเข้าใจผิดคิดลึกไปใหญ่

พวกเขาออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าสู่แนวเขาทางตะวันตก ที่ๆเคยเป็นรังของลิซาร์ดแมน
หลังจากเดินทางมาซักระยะจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆในรัศมี 1 กิโลเมตรนี้แน่ๆ พวกเขาก็หยุดเดิน

“ตรงนี้น่าจะเหมาะนะ”

“โอเค ทุกคนพร้อมนะ?”

วีด ค่อยๆขุดหลุมและหย่อนเมล็ดลงไป จากนั้นก็กลบแล้วรดน้ำ

ตอนแรกก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ซักพักดินตรงที่ปลูกเมล็ดนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

“แผ่นดินไหว!!!”
“กรี๊ดดดดดดด!!!” เซอร์กะ ร้องด้วยความตกใจ

จู่ๆพื้นดินรอบๆก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
พื้นดินตรงจุดที่ วีด ปลูกเมล็ดนั้นแยกออกและมีต้นไม้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

เพียงเวลาไม่นานต้นไม้เติบโตจนพวกเขามองไม่เห็นยอด และยังไม่ลดความเร็วลง
วีด มองดูต้นไม้พุ่งสูงจนทะลุเมฆเบื้องบน


“นครลอยฟ้าต้องอยู่บ้างบนนั้นแน่ ผมคิดว่าเราคงต้องเกาะมันขึ้นไป”

“เอาจริงอ่ะ!?”

“มาถึงขนาดนี้คงไม่ถอยกลับแล้วหละ หรือจะรอให้มันหยุดโตแล้วปีนขึ้นไปเอง” วีด ตอบ

“หวาย… แบบนั้นไม่เอานะ”

วีด เอาเชือกออกมาจากเป้ และผูกเข้ากับทุกคน

“รอดก็รอดด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน”
“เย้!!!”

วีด และ เพล เข้าไปเกาะกับเถาวัลย์รอบๆต้นไม้ยักษ์ก่อน เผื่อว่า พวกสาวๆเกิดพลาดอย่างน้อยพวกผู้ชายอย่างเขาก็ยังคอยดึงทุกคนไม่ให้ตกลงไปได้



****************

ที่มา :
http://writer.dek-d.com/grit/story/viewlongc.php?id=837140&chapter=19

2 ความคิดเห็น: