เล่มที่ 4 ตอนที่ 5 ประติมากรรมจำแลง (Shapeshifter Sculpture)
วีดไปที่ย่านสลัมของเมือง
บ้านที่เขามองหาอยู่ตั้งอยู่แถวชานเมืองของป้อมซึ่งสร้างเป็นชั้นๆอยู่ที่เนินเขา เล่ากันว่าถ้าคุณซื้อบ้านที่นี่คุณจะเห็นวิวปราสาททั้งหมด ที่นี่ไม่มีร้านค้าหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ได้
เหตุผลเดียวที่วีดมาที่นี่เป็นเพราะดาโรน(Darone) ในฐานะประติมากร มันเป็นเรื่องสําคัญมากที่เขาจะค้นหาความลับในการออกแบบประติมากรรม (sculptural design) เพราะฉะนั้นเขาโชคดีบัดซบที่ได้พบกับหนึ่งในปรมาจารย์อย่างรวดเร็ว
“ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียง แต่การมาอาศัยในที่เช่นนี้…”
ตอนแรกเมื่อวีดได้ยินเรื่องการออกแบบประติมากรรมเขายังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ตอนนี้เขารู้สึกตั้งตาคอยพบกับปรมาจารย์การแกะสลักจริงๆ
“ปรมาจารย์แกะสลักแต่ละคนมีทักษะแกะสลักเป็นของตัวเอง หากว่าคุณเรียนรู้ทั้ง5เทคนิคคุณจะสามารถเรียนรู้ทักษะขั้นสุดท้ายได้ ในการที่จะเชี่ยวชาญในสายอาชีพของตนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย…”
ถ้าคุณจําจุดกําเนิดของเรื่องได้ คุณจะพบว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เรื่องราวที่เขากลายมาเป็นประติมากรและเข้าถึงศาสตร์ของมันช่างเหลือเชื่อ เริ่มจากที่เป็นเพื่อนกับครูฝึกที่หอฝึกตนโดยการฟาดฟันหุ่นไล่กาทั้งวันทั้งคืน
ด้วยความรักในการต่อสู้และการดูถูกการแกะสลักได้สร้างความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรของเขากับครูฝึก จากนั้นก็ทําตามคําแนะนําของครูฝึกโดยการไปพบกับนักปราชญ์เพื่อค้นหาอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเขา
หลังจากถูกหลอกโดยนักปราชญ์ เขาก็ได้กลายเป็นประติมากรแสงจันทร์ในตํานานในตอนที่เขาเลเวล60 แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น เขาต้องทุกข์ทรมานผ่านความยากลําบากบนเส้นทางประติมากร แต่ด้วยความพยายามเขาก็สามารถเชี่ยวชาญทักษะผีมือทั้งหลายได้ และในที่สุดวีดก็ได้มาถึงบ้านของดาโรน
บ้านหลังนี้ถูกล้อมรอบด้วยรั้วแต่เขาไม่สามารถเรียกได้เต็มปากเพราะมันโทรมมาก ข้างในมีชายวัยกลางคนยืนอยู่
“ดูเหมือนคนๆนั้นจะเป็น ดาโรน”
ในขณะที่เข้าไปข้างใน เขามองดูดาโรนแกะสลักอย่างเงียบๆ วีดเห็นเขาทำงานในระยะเวลาสั้นๆแต่ก็รู้ในทันทีว่าคนๆนั้นเป็นปรมาจารย์ เขาไม่อยากจะไปรบกวนแต่ทว่าเขามีคำถามหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการแกะสลัก ดาโรนกำลังแกะสลักผู้หญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงกว้าง
ในขณะที่ทำงานเขาจะหยุดเป็นระยะๆและกระอักเลือดลงบนพื้น หลังจากเขาทำเสร็จเขาก็มองมาที่วีด
“เจ้ายืนรอมานานมากแล้ว, เจ้าเป็นประติมากรงั้นรึ?”
“ครับ”
“ในที่สุดเจ้าก็หาข้าพบ...มันเป็นเรื่องจําเป็นที่เจ้าจะต้องเข้าใจในทักษะของตนเอง เมื่อจิตวิญญาณของเจ้าเปลี่ยนไป เจ้าก็จะพัฒนาทักษะที่แตกต่างและสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างซึ่งเป็นตัวตนของเจ้าเอง ...แต่เจ้าก็ยังต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะลับของข้างั้นสินะ”
วีดเข้าใจความหมายของดาโรนแต่เขาไม่สามารถแม้จะนับจำนวนครั้งที่เคล็ดมีดสลักได้ช่วยเขาไว้ และยิ่งผลองทักษะอื่นๆของเขาอื่นๆอย่างประติมากรรมประทานชีพ ก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น
“ข้าต้องการที่จะเรียน!”
“ดี แต่ข้าไม่สามารถเปิดเผยความลับให้ใครได้ง่ายๆหรอกนะ อย่างแรกข้าต้องตรวจสอบว่าเจ้ามีค่าคู่ควรพอที่จะสอนไหม ดังนั้นจงออกไปแล้วพยายามเข้าใจถึงจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิต 5 ชนิดมาซะ”
ติ้ง!
วีดงวยงง
เคล็ดลับของการแกะสลักมักไม่ตรงกับสามัญสำนึก ไม่ว่าจะเป็น 'เคล็ดมีดสลัก' หรือ ‘ให้ชีวิตกับประติมากรรม’ และตอนนี้เขาต้องเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 เพื่อที่จะเข้าใจถึงจิตวิญญาณของพวกมัน เขาไม่สามารถคิดออกว่าต้องทำอย่างไร
“ปกติแล้วท่านมอบหมายงานพวกนี้ให้ประติมากรคนอื่นๆด้วยรึ? "เขาถาม
“อะไรนะ?เจ้าไม่อยากเรียนเคล็ดลับของข้าหรือ? เจ้าปฏิเสธเควสของข้า?”
วีดตอบกลับอย่ารวดเร็ว
“ไม่ ข้าอยากที่จะเรียน ตอนนี้ข้าจะออกไปและเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 ชนิด แค่นี้น่ะเหรอที่ท่านต้องการให้ข้าทำ?”
คุณได้ยอมรับเควส
“ใช่ แต่ข้าก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าจะทำได้หรือเปล่า…..”
วีดออกมาจากป้อมปราการ
********************************
“สิ่งมีชีวิต5ชนิด….”
ถ้าตีความจากคำพูดนี้ล่ะก็ แปลว่าสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้งั้นสินะ
“แล้วชั้นก็ไม่ควรเลือกสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน”
เขามองไปรอบๆปราสาท สัตว์ที่กำลังวิ่งไปรอบๆบริเวณก็มี กระต่าย, กระรอก กวาง, และสัตว์อื่นที่เหมาะกับผู้เล่นเริ่มต้น เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง เป้าหมายแรกของเขาคือเลียนแบบกระต่าย พวกหนูขนาดเล็กหรือกวางมันเร็วเกินไป เขาเลยเลือกไปที่กระต่าย
เขาหมอบลงบนพื้นแล้วคลานเข้าไปหากระต่ายที่เคี้ยวหญ้าอย่างสบายอารมณ์
“…..”
“.....”
เขาเองก็ไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ เขาจึงเริ่มเลียนแบบกระต่าย
“หยับๆ”
วีดคุกเข่าแล้วเคี้ยวหญ้า
เพราะความรู้ของเขาเกี่ยวกับสมุนไพรทำให้เขาไม่ต้องกังวลกับการกินพืชที่มีพิษ แต่สำหรับคนอื่นแล้วเขาดูเหมือนตัวตลก เมื่อกระต่ายรู้สึกว่าถูกเขาจ้องมองมันก็กระโดดไปยังที่อื่น วีดทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ก็กระโดดตามหลังไป
กระต่ายเคลื่อนที่แบบซิกแซกและไม่มีสัญญานเตือนถึงการเพิ่มและลดความเร็ว มันหยุดดื่มน้ำ,เคี้ยวหญ้าเป็นระยะๆ และก็หันมองดูเขา
“อะไรกัน!ทำไมกระต่ายมันรวดเร็วอย่างนี้”
คุณเลียนแบบการเคลื่อนไหวของกระต่าย ความคืบหน้า 0.6%
โชคดีที่เขาเลียนแบบการเคลื่อนไหวถูกต้อง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่ามันจะใช้เอาไปใช้กับทักษะประติมากรรมได้ยังไง อย่างไรก็ดีวีดก็กระโดดแบบกระต่ายและเลียนแบบการเคลื่อนไหวไปจนถึง 35%
แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ถัดจากกระต่ายก็ยังมีสัตว์อื่นๆรอยู่อีก 4 ชนิด การได้ติดตามกระต่ายทำให้วีดได้เรียนรู้หลายๆเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของกระต่าย
ประการแรกพฤติกรรมของกระต่ายมีความแตกต่างจากสิ่งที่วีดคิดไว้ นั่นก็คือกระต่ายจะล้างหูของมันกับทำ
เครื่องหมายอาณาเขตของมันและบางครั้งจะกระโดดอย่างร่าเริง นี่เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมัน
กระต่ายตัวเล็กน่ารักได้ถูกชายร่างใหญ่และดูโหดเหี้ยมติดตามอยู่ตลอด
“กระต่ายดูน่าอร่อยจัง ถ้าชั้นได้กัดซักคำ….มันคงจะอร่อยน่าดู”
แต่เขาไม่ได้จะมาล่ากระต่าย
ตลอดทั้งวันสิ่งเดียวที่เขาเอาเข้าปากก็คือหญ้า และตอนนี้การที่ได้เห็นกระต่ายทำให้เขาน้ำลายสอ
ในทวีปเวอร์เซลล์นี้คงมีแต่กระต่ายตัวนี้เท่านั้นที่รอดพ้นจากเงื้อมมือของวีดมาได้
คุณเลียนแบบการเคลื่อนไหวของกระต่าย ความคืบหน้า 84.2%
ยิ่งเขาเลียนแบบการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นเท่าไร ความคืบหน้าที่ได้ก็ช้าลงเป็นเงาตามตัว
ทว่าในเวลาแค่ 5 วันนี้ เขาเลียนแบบไปได้80% และตอนนี้เขาก็สามารถออกคำสั่งง่ายๆอย่าง “นั่งลง, ลุกขึ้น, หมุนตัว, เตะข้าง(Side kick!)” ได้ โดยมีกระต่ายเกลือกลิ้งอยู่บนพื้นตามคำสั่งของวีด
“กระต่ายเมื่อคุณได้รู้จักมันมากขึ้น คุณจะตระหนักว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่ดีขนาดไหน”
เมื่อความคืบหน้าของเขาถึงระดับ 99.8%, กระต่ายก็นั่งและมองไปยังพระจันทร์บนท้องฟ้า, วีดก็ทำตามเช่นเดียวกัน
คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงการเคลี่อนไหวของกระต่าย
หลังจากกระต่ายก็ถึงรอบของกวางบ้าง วีดไม่ได้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นประติมากรทั่วๆไปเพราะเขาลงแต้มทั้งหมดไปที่ความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่ว ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นที่เป็นประติมากรนั้นจะลงแต้มทั้งหมดไปที่ค่าศิลปะ
แต่วีดนั้นขี้ตืดเกินกว่าจะลงแต้มไปที่ค่าศิลปะของเขา ค่าศิลปะนั้นจะเพิ่มมูลค่าของไอเท็มที่เขาสร้างและเพิ่มโอกาสที่จะสร้างผลงานที่สวยงาม แต่ว่ามันจับต้องได้ยาก ในขณะที่ความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่วนั้นเขารู้สึกว่ามันทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่วีดนั่งพัฒนาค่าสถานะงานศิลปะของเขาอย่างอดทนผ่านการทำงานประติมากรรม
ตอนนี้สถานะศิลปะของเขาเกิน 800 แต้มไปแล้ว และเขายังมีความคล่องแคล่ว 505 แต้ม แน่นอนนี่นับรวมโบนัสที่ได้เข้าไปแล้ว
“ถ้าเป็นกวาง ชั้นน่าจะตามพวกมันได้ทัน”
กวางแทะเล็มใบไม้จากกิ่งไม้อย่างสงบ และหากมีอะไรทำให้มันตื่นตกใจมันก็จะวิ่งหนีออกไปทันที วีดก็ได้แต่ตามมันไปโดยไม่มีทางเลือกอิ่น โชคดีที่เขามีความคล่องแคล่วที่สูงทำให้เขาไม่โดนมันทิ้งไป
คุณได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของกวาง ความคืบหน้า 0.2%
หลังจากที่กระโดดตามกระต่าย, การไล่ตามกวางยิ่งทำให้เขากระปี้กระเปร่ามากขึ้น หนำซ้ำกวางยังสง่างามกว่ากระต่ายเป็นอย่างมาก
ทว่ามันก็ยังมีหลุมพรางอยู่ เขาเพิ่งจะได้คิดว่า”เฮ้ย กวางมันวิ่งสี่ขานี่หว่า” แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนเป็นสัตว์ชนิดอื่น เขาจึงคุกเข่าลงคลานสี่ขาและพยายามอย่างหนักที่จะไล่ให้ทันกวาง
*************************************
หลังจากเมแพนและฮวารยองทำการค้าเสร็จสิ้น , พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังเมืองเรกะ (Rega)
“ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นต้องขอบคุณเธอมากเลย, ฮวารยอง”
“ไม่หรอก, มันเป็นพราะทักษะพ่อค้าของเธอต่างหาก เมแพน”
เมแพนและฮวารยองสนธนาฉันมิตรกันในขณะที่นั่งอยู่บนเกวียน การค้าประกอบไปด้วยการซื้อและการขายซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยาวนานและน่าเบื่อ ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่พ่อค้าจะสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อ NPCs เมื่อพวกเขาไปที่เมืองต่างๆ และหากคุณไม่ได้เป็นพ่อค้าในสายเลือดแล้วล่ะก็ การทำการค้าอย่างนี้มันก็จะคงเป็นเรื่องแสนจะน่าเบื่อ
ในฐานะพ่อค้าเมแพนสามารถที่จะลดน้ำหนักของสินค้าและเพิ่มความเร็วในการเคลี่อนที่ของยานพาหนะอย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีบัฟมาสนับสนุนก็ตาม, การเดินทางก็ยังคงยาวนานและน่าเบื่ออยู่เช่นเคย
เมแพนและฮวารยองพูดคุยกันเพื่อฆ่าเวลา ในตอนนี้พวกเขากำลังคุยเรื่องเกี่ยวกับวีด
“โอ, ชั้นอยากจะอยู่ที่นั่นตอนที่วีดสู้และเอาชนะแวมไพร์ลอร์ดโทริด้วยความช่วยเหลือจากเหล่า
พาลาดินแห่งภาคีแห่งเฟรย่าจังเลย”
“ใช่, ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะสามารถทำเควสระดับBสำเร็จได้น่ะ นอกจากนี้เขายังสร้างมังกรน้ำแข็งในทวีปทางเหนืออีกต่างหาก”
ฮวารยองตาเป็นประกาย
เธอชอบเทพนิยายกับตำนาน, และเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวีดนั้นประทับใจเธอมาก
เธอประทับใจมากเมื่อได้ยินเรื่องที่วีดและอัลเวรอน- ซึ่งเป็นถึงผู้สืบทอดตำแหน่งโป๊ปแห่งคริสตจักรเฟรยา-ได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือเหล่าพาลาดินที่ถูกสาบ
=========================================
เมื่อพวกเขามาถึงซากปรักหักพุพังของหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง, วีดและอัลเวรอนก็เจ็บป่วยจากความหนาวเย็น
และถูกล้อบรอบไปด้วยมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่พวกเขายังคงไม่ย่อท้อและค่อยๆเสริมสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมา
ในขณะที่เควสดำเนินไป , วีดก็ได้แกะสลักมังกรน้ำแข็งขนาดยักษ์ และเมื่อเหล่าพาลาดินที่ถูกสาบ
ข้างนอกปราสาทเป็นอิสระ, วีดและกองทัพของเขาก็บุกเข้าปราสาทรัตติกาล ที่นั่นพวกเขาได้โค่นเหล่าแวมไพร์อันโหดร้ายแล้วปลดปล่อยเหล่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์รวมทั้งพิชิตบอสใหญ่โทริ
=========================================
ในความคิดของฮวารยอง, เหตุการณ์เหล่านี้ถูกฉายออกมาราวหนังมหากาพย์เรื่องหนึ่ง เธอเห็นวีรบุรุษผู้มุ่งมั่นต้องเจ็บปวดดิ้นรนกับความหนาวเย็น, การต่อสู้กับมอนสเตอร์,และความโหดร้ายของธรรมชาติ เมแพนก็ยักไหล่เมื่อเห็นถึงความประทับใจของฮวารยองที่มีต่อเรื่องเล่าภารกิจของวีดมันซึ่งราวกับเป็นเรื่องการผจญภัยอันน่าทึ่งและอันตราย
“ผู้คนเพิ่งจะพูดคุยเกี่ยวกับเขาในตอนนี้ แต่เชื่อมั๊ยว่าผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาตกลงมาจากฟ้านั้น ผมก็รู้แล้วว่าเขาเป็นต้องเป็นคนที่พิเศษมากๆ…” (ถ้าเป็นคนไทยต้องขอหวยแน่ๆ)
*************************************************
พวกเขาคุยต่ออีกซักพักนึง พวกเขามาถึงบริเวณใกล้ๆประตูเมือง, แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ดูแปลกๆ พวกเขาเห็นผู้คนจำนวนมากกำลังดูอะไรกันอยู่ มันไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้คนจำนวนมากจะมามุงกันตรงที่ราบตรงนี้เพราะประตูเมืองยังอยู่ห่างออกไปราวๆ 2-3 ชั่วโมง
เมแพนและฮวารยองมองหน้ากัน หลังจากการเดินทางที่ยาวนานและแสนน่าเบื่อ, พวกเขาสนใจเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็นอยู่นี้
“พวกเราไปมุงกะเค้ากันไหม?” ฮวารยองถาม
“ได้เลย, เราไปดูกันเถอะ”
เมแพนหยุดเกวียนและไปเขาร่วมกับฝูงชน จากนั้นพวกเขาได้เห็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจสุดขีด
พวกเขาเห็นสุนัขจิ้งจอกกำลังวิ่งตัดผ่านสนาม หางยาวๆที่มีขนฟูสลวยของมันโยกขึ้นลงเบาๆ แต่หางนั่นไม่ได้ทำให้เขาตกใจแต่เป็นผู้เล่นปริศนาคนหนึ่งต่างหากที่กำลังติดตามจิ้งจอกด้วยการคลาน 4 ขา และเมื่อสุนัขจิ้งจอกกระโดดผู้เล่นคนนั้นก็กระโดดตาม
เมื่อจิ้งจอกกลิ้งผู้เล่นคนนั้นก็ทำตาม บางครั้งก็มีความแตกต่างในการเคลื่อนไหวเล็กน้อยแต่ถ้าไม่ใช่ดูจากผู้เล่นแล้วล่ะก็ พวกเขาก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
“ว๊าว, เขาคือใคร? เขาช่างเป็นคนที่แปลกประหลาด”
เมแพนเริ่มตั้งคำถามกับคนที่ยืนอยู่รอบๆ พวกเขาเข้าใกล้ไม่พอที่จะมองเห็นใบหน้าผู้เล่นคนนั้นจากตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่
สาวน้อยที่ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงเริ่มหัวเราะเสียงคิกคัก “ผู้ชายคนนั้น? ชั้นไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครหรอก, แต่ชั้นเห็นเค้าเลียนแบบกระต่าย, กวาง, ก๊อบลินและตอนนี้ก็สุนัขจิ้งจอก และหลังจากการเลเลียนแบบแต่ละครั้ง, เค้าก็ทำได้ดียิ่งขึ้นเรื่อย”
“ทุกวันนี้มีแต่คนแปลกๆแฮะ”
และตอนนั้นเองที่สุนัขจิ้งจอกหันกลับมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้เล่นคนนั้นหันกลับมา ทำให้เมแพนและ ฮวารยองได้เห็นใบหน้าผู้เล่นคนนั้น
“โอ้!”
“ว๊าว!”
นั่นมันวีดนี่นา ! วีดกำลังเลียนแบบจิ้งจอก
แพนและฮวารยองหันไปมองหน้ากัน ในขณะที่คนอื่นๆดูตื่นเต้นไตร่ตรองกับสถานะการณ์
ความศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อวีดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด แต่บางครั้ง วีด ก็ทำสิ่งที่น่าอับอาย
พวกเขาหันกลับเกวียนโดยไม่พูดจาและไม่สนใจวีด
วีดเข้าใจพฤติกรรมของ กระต่าย กวาง ก๊อปลินและตอนนี้ก็เป็นสุนัขจิ้งจอก ได้เวลาที่ขาจะมองหาสัตว์ชนิดสุดท้ายแล้ว
******************************************
“เวรเอ้ย งานนี้ใช้เวลามากเกินไป!”
เพราะกระต่าย ก๊อปลิน กวางและจิ้งจอกเป็นมอนสเตอร์เริ่มต้นซึ่งมักจะถูกฆ่าอยู่บ่อยๆ เป็นผลให้เขาจะต้องเสียเวลาอย่างมากในค้นหาและทำการเลียนแบบอีกครั้ง
ดั้งนั้นวีดตัดสินใจว่าจะหาสัตว์ที่คนอื่นจะโจมตีมันไม่ได้ เขาเลือกม้าเพราะพวกมันง่ายที่จะหาเจอและอยู่ไม่ไกลจากเมืองจะมีทุ่งหญ้าที่ทำเป็นฟาร์มเลี้ยงม้า ที่นั่นเขาวิ่งคลาน4ขาอย่างยากลำบากและเริ่มเลียนแบบพวกมัน ม้านั้นเป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อวิ่งดังนั้นพวกมันจึงมีค่าความคล่องแคล่วสูงมาก นั่นทำให้วีดเจอช่วงเวลาที่น่าลำบากในการไล่ตามมัน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ถ้าไม่มีรั้วล้อมทุ่งหญ้านี้ไว้เขาก็จะไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้
“อีกหนึ่งรอบ ถ้าชั้นรักษาสภาพการเคลื่อนไว้แบบนี้ไว้ได้, ชั้นก็จะสามารถที่จะเรียนรู้เคล็ดลับการออกแบบประติมากรรม”
คุณได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของม้า ความคืบหน้า 12.1%
วันนั้นความคืบหน้าของเขาขึ้นถึง 12% เป็นการพัฒนาตามแผนที่วางไว้, วีดจัดเตรียมอาหารจากพืชผักกับหญ้าชนิดพิเศษซึ่งช่วยให้งานคืบหน้ามากยึ่งขึ้น
“คุณจะเป็นตามสิ่งที่คุณกิน ดังนั้นการกินหญ้าทำให้ชั้นเรียนรู้เกี่ยวกับม้าได้เร็วขึ้น”
คุณได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของม้า ความคืบหน้า 59.0%
คุณได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของม้า ความคืบหน้า 89.7%
คุณได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของม้า ความคืบหน้า 95.9%
สอง, สาม, สี่! เมื่อเวลาผ่านไปความคืบหน้าที่เขาทำเพิ่มมากขึ้นและสุดท้าย
คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้กับการเคลี่อนไหวของม้า
วีดมีความสุขอย่างมากที่สุด จากนั้นเขาก็นึกได้ถึงเรื่องบางอย่าง...กุ๊บกับ-กุ๊บกับ-กุ๊บกับ!(เสียงม้าวิ่ง)ในขณะเลียนแบบกวาง การเคลื่อนไหวของเขาถูกจำกัดและงุ่มง่ามเล็กน้อยในตอนนี้เขาวิ่งอย่างคุ้นเคยและสะดวกสบาย
วีดโบยบินดุจสายลม!และไม่รู้ทำไมเขารู้สึกว่าวิ่งสี่ขานั้นไวกว่าสองขา
ติ๊ง!
คุณได้เข้าใจทักษะการเคลื่อนไหวพิเศษ
วิ่งแบบสัตว์สี่เท้า หนึ่งในทักษะของการเคลื่อนไหว
ในการใช้งานคุณจะสามารถเพิ่มความเร็วมากว่าปกติถึง 60%
ทว่าจะสิ้นเปลืองพลังชีวิตและมานาในการใช้
เมื่อวิ่งทวนลมความอึดของคุณจะลดลงถึง30%
เมื่อวิ่งตามลมความเร็วคุณจะเพิ่มขึ้นถึง20%
เมื่อวิ่งบางภูมิประเทศความเร็วจะเพิ่มมากขึ้นถึง80%
- ความอึด +5
- ความต้านทาน +5
- ความคล่องแคล่ว +5
“ว๊าว! ว๊าว…”การเลี่ยนแบบสัตว์ของเขาทำให้เขาได้ทักษะวิ่ง4ขา!
แต่ว่าเขาไม่ต้องการดึงดูดความสนใจผู้คนและจะการใช้มันก็ดูน่าหนักใจมาก
”ดูเหมือนว่าชั้นไม่สามารถใช้มันต่อหน้าผู้คนได้”
และวีดก็ยิ้มแฉ่งในความจริงที่เขาตามการเคลื่อนไหวของสัตว์มันไม่ใช่ความลับกับเพื่อนของเขา”
“ไม่หรอก พวกเขาไม่มีทางรู้อะไรหรอก”
หลังจากจบงานวีดเดินกลับปราสาท แน่นอนเขาต้องเดิน2ขา
*****************************************
เมื่อกลับมาอีกครั้งดาโรนก็กำลังแกะสลักรูปปั้นหญิงสาววัยกลางคน
ในขณะที่เขาทำงาน, วีดรออย่างเงียบๆและสังเกตเห็นว่ารูปแกะสลักนั้นคล้ายกับของงานที่เขาเคยเห็นมาก่อน
”เขาทำรูปปั้นแบบเดียวกันอีกครั้ง”วีดพูด
แปลกจัง ในช่วงเวลาหนึ่งเขาเคยแกะสลักรูปนก ผู้คน และหมาป่า เป็นจำนวนมาก แต่การทำงานแบบเดิมๆไม่ได้ช่วยให้เขาได้ประสบการณ์มากขึ้นซักเท่าไร
“และใบหน้า….พูดตามจริง มันน่าเกลียด”
หากคุณเป็นประติมากรระดับปรมาจารย์ คุณจะมีความสามารถที่จะสร้างเจ้าหญิงแสนสวยที่แม้แต่พระเจ้าก็อิจฉาตาร้อน แต่ว่าใบหน้าผู้หญิงนั้นเป็นแบบธรรมดาๆ
สุดท้ายดาโรนก็ทำเสร็จและหันมาที่วีด”เจ้าเสร็จงานที่ข้ามอบหมายแล้ว?” ใช่ กระต่าย กวาง ก๊อบลิน จิ้งจอกและม้า ข้าได้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของพวกมัน
“ทำงานได้ดีและเสร็จค่อนข้างรวดเร็ว เจ้าทำได้ดีมาก ตอนนี้เก็บภาพของสัตว์พวกนั้นไว้ในใจและแกะสลักพวกมันออกมา ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบข้าจะบอกความลับของข้าให้แก่เจ้า”
“ไม่มีปัญหา”
วีดมีประสบการณ์ในการทำประติมากรรมจากใหญ่ไปเล็กจากหมาป่าไปมังกร
“ชั้นจำการแกะสลักกระต่ายและสุนัขจิ้งจอกได้ ชั้นทำพวกมันมาเยอะมากและขายพวกมันให้ผู้เล่นคนอื่นๆ”
วีดเริ่มตัดแต่งด้วยมีดแกะสลักของเขาอย่างมั่นใจ แต่ว่าไม่กี่นาทีต่อมาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่แตกต่างออกไป
“ชั้นทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า?”
ความเชื่อมั่นทั้งหมดของเขาหายไป วีดหยุดและเริ่มคิดอย่างจริงจังถึงสิ่งที่ผิดพลาด
รูปทรงที่อยู่ในมือของเขามีความแตกต่างจากรูปแกะสลักก่อนหน้านี้ของเขา โดยปกติมันก็ไม่น่าแปลกใจที่ทักษะประติมากรรมของเขาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่นี่เป็นเรื่องใหม่ การที่เขาได้เลียนแบบสัตว์ทำให้เขาเข้าใจพวกมันมากขึ้น
เหตุที่ทำกระต่ายมีหูที่ยาวและหางที่สั้น รวมทั้งการเคลื่อนไหวของกระต่ายอมันฝังเข้าไปในจิตสำนึกในการทำงานของเขาแล้วในตอนนี้
ชิ้นงานของเขาสื่ออารมณ์ได้มากขึ้น, มีรายละเลียดและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
“โอ้ โห้…”
ก่อนหน้านี้เขาใช้การจินตนาการสิ่งที่อยู่ในหัวของเขา, แต่ตอนนี้เขาสามารถแกะสลักรูปกระต่ายให้แสดงความรู้สึกได้ทั้งโศกเศร้าหรือมีความสุขสนุกสนานก็ได้
หรือจะเป็นกระต่ายตอนเคี้ยวหญ้า, ฉีกหญ้า, กัดหญ้า หรือจะเป็นกระต่ายวิ่งหนีจากการไล่ล่า เขาก็สามารถทำมันออกมาได้
กล่าวได้ว่า ตอนนี้วีดสามารถที่จะแสดงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของชีวิตกระต่ายขาวได้ทั้งหมด และเมื่อเขาเลียนแบบการเคลื่อนไหวของก๊อบลินเขารู้สึกถึงความขุ่นเคืองที่ก่อตัวขึ้นเล็กน้อย
เมื่อได้ทำงานแกะสลักอีกครั้ง วีดเริ่มที่จะคิดและพยายามจะเข้าใจถึงจิตวิญญาณของมัน ในขณะที่ทำงานแกะสลักม้า, เขาคิดไปถึงทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา
วีดรู้สึกประหลาดใจที่การทำงานของเขานั้นสะดวกสบายและน่าสนใจยิ่งขึ้น มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังใช้เวลาอยู่กับเพื่อน และวีดก็ทำรูปแกะสลักชิ้นที่ 5 เสร็จ
ดิ้ง!
ผลงานชั้นเยี่ยม! (A grand piece)
คุณได้ทำรูปแกะสลักสัตว์ทั้ง 5 สำเร็จ
ประติมากรรมขนาดเล็กที่มีความซับซ้อนอย่างมาก พวกมันสะท้อนให้เห็นถึงผู้เชี่ยวชาญทางศิลป์ ดังนั้นจึงมีคุณค่าทางศิลปะเป็นอย่างสูง
ประติมากรรมก่อให้เกิดความสนุกและความสุขเมื่อได้ชื่นชมมัน
คุณค่าทางศิลปะ : 460
ผลกระทบ:
การฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 6% ระหว่างวัน
เพิ่มความสัมพันธ์ที่มีต่อสัตว์
ต้านทานต่อเวทมนตร์ไฟ + 15% (ความร้อนส่วนเกินในร่างกายจะถูกปลดปล่อยผ่านหูของคุณ)
สามารถตรวจจับกับดักทุกชนิดทุกระดับ
ความเป็นผู้นำ + 25
ความฉลาด +10
+10%ความเร็วในการเคลื่อนที่
เอฟเฟคนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับประติมากรรมอื่นได้
ขณะนี้คุณสร้างผลงานชั้นเยี่ยม : 4
ทักษะประติมากรรมเพิ่มขึ้น
วีดกำหมัดแน่น
หลายต่อหลายครั้งที่เขาสร้าง ’ผลงานชั้นดี’ (fine piece) และแม้แต่สร้าง’ผลงานชิ้นเอก’ (master piece) อย่างมังกรน้ำแข็ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสร้าง ’ผลงานชั้นเยี่ยม’(grand piece) จากรูปปั้นขนาดเล็ก
“แล้วยังมีคุณสมบัติพวกนี้อีก…”
ปกติประติมากรรมของเขาจะเพิ่มปริมาณพลังชีวิตและมานาที่มี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสร้างประติมากรรมที่เพิ่มค่าความใกล้ชิด
“คุณสมบัติของสัตว์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น กระต่าย, กวาง, ก๊อบลิน, สุนัขจิ้งจอกและม้า ต่างปรากฏผลอยู่ในผลงานของเขา”
จนถึงตอนนี้, เขาคิดมาตลอดว่าประติมากรรมต้องมีขนาดใหญ่ถึงจะมีคุณค่ามาก แต่ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าแม้จะเป็นชิ้นงายขนาดเล็กก็สามารถให้ผลเหมือนกันหรือดียิ่งกว่าเสียอีก
ศักยภาพของประติมากรนั้นยิ่งใหญ่นัก
ดาโรนมองดูรูปปั้นและพยักหน้า
“ความรักต่อประติมากรรมทำให้การสร้างผลงานของเจ้านั้นดูสดใสและสวยงาม เจ้าได้ผ่านการทดสอบของข้าอย่างสมบูรณ์แบบ”
คุณทำเควส ความเข้าใจในประติมากรรม ได้สำเร็จ
ก่อนหน้านี้สามารถที่จะแกะสลักลักษณะของสัตว์ได้ แต่ด้วย ความเข้าใจในประติมากรรม, ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะแสดงถึงจิตวิตวิญญาณของงานชิ้นั้น ความรักต่อสัตว์และความปรารถที่จะเรียนรู้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของประติมากร
รางวัล:ทักษะลับ
เรียนรู้จากดาโรนโดยตรง
เมื่อวีดอ่านข้อความจบ, ดาโรนก็พูดต่อ
“ความลับที่มีอยู่มันก็ไม่มีอะไรพิเศษ ก็แค่ข้ารักในงานของข้า ข้าไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษใด ๆ หรือหลักอะไรเมื่อข้าสร้างประติมากรรม แต่ข้าจะอุทิศหัวใจให้กับมัน และแน่นอนเมื่อเจ้าปฏิบัติตตามนั้น, ผลงานนั้นจะผูกพันเป็นพิเศษ นั่นคือความลับของประติมากร”
“แค่นี้น่ะหรือ?”
“การเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากำลังสร้าง, นั่นแหละคือความลับของข้า, และมีอีกสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะสอนเจ้า, มันเป็นทักษะเฉพาะของผู้เข้าใจในประติมากรรม….แค๊ก แค๊ก แค๊กกก” ดาโรนไอและมีเลือดสีแดงสดมา
“ท่านเป็นอะไรไหม?”วีดถามอย่างกังวล
“อุ๊ค, ข้าไม่สามารถพูดได้ว่าสบายดีหรอกนะ เวลาของข้าเหลือไม่มากและข้าต้องสร้างงานแกะสลัก 300 ชิ้น
อย่างน้อยข้าก็ต้องการทำงานที่ค้างค้าให้เสร็จและข้าจะได้จากไปอย่างสงบ เจ้าจะร่วมทำงานกับข้าในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่? การร่วมงานกับข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจความลับของข้าได้ดียิ่งขึ้น”
ติ๊ง!
คำขอของดาโรน
ทั้งสัปดาห์คุณต้องทำตามคำสั่งของดาโรน มันะช่วยให้ประติมากรอย่างคุณ
สร้างผลงานที่ดูมีชีวิตชีวาได้ในอนาคต มันเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อที่จะเข้าใจทักษะลับของเขาอย่างถ่องแท้
ความยาก:เควสเฉพาะอาชีพ
รางวัล: ประสบการณ์ที่ได้รับในเวลานี้จะคูณด้วยสอง
ข้อจำกัดเควส:เควสจะล้มเหลวหากคุณทำไม่เสร็จในกำหนดเวลา ชื่อเสียงของคุณจะลดลงและคุณจะต้องจ่ายค่าปรับ
วีดไม่ลังเล โดยปกติแล้วเขาจะปฏิเสธเควสที่มีการกำหนดเวลาและลดชื่อเสียง, แต่นี่มันมีทักษะลับเป็นเดิมพันนอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลนึงก็คือ ตั้งแต่เขาสร้างมังกรน้ำแข็ง, ทักษะแกะสลักของเขาก็อยู่ที่ระดับกลาง 6 และแทบจะไม่เพิ่มขึ้นมาเลยตั้งแต่นั้น
ตอนนี้เขามีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น, และขอแค่พยายามอีกนิดหน่อยเขาก็น่าจะไปถึงระดับกลาง 7 ได้
“ตกลง, มันยากที่จะเก็บประสบการณ์ นี่ดูจะเป็นโอกาศที่ดี”
หลังจากทำงานทั้งสัปดาห์กับดาโรน วีดมีโอกาศเพิ่มความสามารถทักษะประติมากรรมอย่างมาก
นอกจากนั้นเขายังทำตามออเดอร์ที่ได้รับมา ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างอะไรออกมาดี
“เลือกเอาว่าเจ้าจะทำอะไร” ดาโรนพูดขณะที่เขาส่งแผ่นรายการคำสั่งซื้อประติมากรรม 300 ชิ้นให้วีด แน่นอนในนั้นมีสิ่งที่ยากจนวีดต้องคิดหนัก วีดทำได้เพียงแต่ออเดอร์ง่ายๆแค่นั้น แต่ทันใดนั้นความมุ่งมั่นทะเยอทะยานของเขาก็จุดประกายขึ้นมา
“มันคงยากที่จะสนุกกับมัน แต่ชั้นจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยถ้าชั้นทำแต่ออเดอร์ง่ายๆ ได้เวลาที่ชั้นจะต้องรับมือกับความยากลำบากแล้ว….”
เขาตัดสินใจจะสร้างประติมากรรม 30 ชิ้นต่อวันซึ่งต้องทำให้ได้210ชิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ ต้องทำงานทั้ง เช้า บ่ายและเย็น
“ถ้าข้าทำงานโดยไม่พัก, งานก็จะเสร็จไปเอง”
รูปปั้นติดหัวเรือ
กองทัพเรือลอยอยู่บนคลื่นได้อย่างราบลื่นภายใต้ใบเรือสีขาวที่หางไกลจากดวงอาทิตย์
ลูกค้าต้องการประติมากรรมรูปโลมา
ออเดอร์ที่เขาได้ไม่ได้หลากหลายเท่าไร เขาก็แค่ต้องทำอะไรนิดๆหน่อยๆ และเมื่อสำเร็จ, เขาได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของค่าประสบการณ์ ในความเป็นจริงแล้วมันก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องที่ประติมากรต้องพบอยู่แล้วในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
สำหรับวีดที่เคยชินกับการทำงานเช่นนี้ ในตอนแรกมันอาจทำให้เค้ารู้สึกยากลำบาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มชินและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย ในวันแรกเขาทำงานได้ 15 ชิ้น, วันที่ 2 ได้ 24 ชิ้น, และในวันที่ 3 ทำได้ 35 ชิ้น
การได้รับคำสั่ง, พูดคุย, และรับฟังเรื่องราว ทำให้วีดกลายเป็นเพื่อนของดาโรน
“ตอนที่ยังหนุ่มข้าเจอผู้หญิงคนหนึ่งและตกหลุมรักเธอ” ปรมาจารย์การแกะสลัก กล่าว
“ทั้งชีวิตข้ามีพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว, นั่นทำให้ข้าตัดสินใจที่จะเป็นประติมากร”
“เยี่ยมไปเลย”
“แต่ทว่า ในไม่ช้าเธอก็จากโลกนี้ไปและข้าไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้ แต่เธอยังอยู่ในความทรงจำของข้าแม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว ดังนั้นข้าจึงแกะสลักเธอ การสร้างรูปปั้นนั้นมันไม่ใช่ง่าย มันไม่ได้อาศัยเพียงแค่การมองเห็นและสร้างมันออกมา เจ้าจะต้องใส่จิตวิญญาณเข้าไปในงานเหมือนกับข้าที่ใส่ความรักของข้าเมื่อแกะสลักเธอ”
ในขณะทำงานก็มีการพูดคุยกันแบบสบายๆ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และวีดเพิ่งจะจัดการงานเสร็จทั้งหมดและทักษะแกะสลักถึงระดับ7
ติ๊้ง!
คุณได้ทำ คำขอของดาโรน เสร็จสิ้น
ตลอดทั้งชีวิตของเขาแกะสลักรูปปั้นของผู้หญิงคนหนึ่ง ประติมากรรมของเขาเต็มไปด้วยความรักและชีวิต
ด้วยการถ่ายทอดทักษะของเขากับประติมากรมือใหม่
เขาสามารถลาจากโลกไปได้อย่างไร้กังวล
-ทักษะแกะสลักของคุณเพิ่มขึ้น
-คุณได้เรียนรู้ทักษะใหม่”ประติมากรรมจำแลง”
-คุณได้เรียนรู้ทักษะติดตัวใหม่”จิตวิญญาณประติมากรรม”
วีดตรวจสอบทักษะใหม่ๆของเขาทันที”เปิดข้อมูลทักษะ ประติมากรรมจำแลง, จิตวิญญาณประติมากรรม”
ประติมากรรมจำแลง
เทคนิคที่คิดค้นขึ้นโดยปรมาจารย์แกะสลักดาโรนซึ่งเป็นไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก
เมือคุณสร้างประติมากรรมคุณสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณให้เป็นแบบประติมากรรมชิ้นนั้น
เงื่อนไข:
-เทคนิคนี้ใช้ได้เฉพาะหลังจากการเรียนรู้ทักษะจิตวิญญาณประติมากรรม
- 2000 มานาและ ค่าคิลปะ 500
คำเตือน!
ในระหว่างการจำแลงกายเป็นบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตอื่นคุณเปลี่ยนแปลงเพียงแค่รูปลักษณ์ และร่างกาย แต่สเตตัสและระดับยังคงเดิม ถ้าเลือกจำแลงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่คุณต้องมีความแข็งแกร่งและพลังชีวิตจำนวนหนึ่ง
จิตวิญญาณประติมากรรม 1 (0%)
ยิ่งคุณเข้าใจในเป้าหมายมากเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาศสูงที่จะการสร้างผลงานที่มีคุณภาพสูง
เมื่อสกิลระดับสูงขึ้นจะช่วยเพิ่มคุณสมบัติของประติมากรจำแลงให้มากขึ้น
ระดับพื้นฐาน: เพิ่มคุณสมบัติในเปลี่ยนร่าง 10% สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตบนพื้นดินได้
ระดับกลาง:เพิ่มคุณสมบัติในเปลี่ยนร่าง 20% สามารถที่เปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่บินได้
แต่คุณต้องไปเรียนรู้วิธีการบิน
ระดับสูง:เพิ่มคุณสมบัติในเปลี่ยนร่าง 20% สามารถที่เปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ได้
ในที่สุด วีดก็ได้เรียนรู้ทักษะลับของอีกอย่างของประติมากรรม นั่นก็คือ “ประติมากรรมจำแลง….”
และเพราะระดับและสเตตัสของเขายังคงเหมือนเดิม, มันคงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าการแปลงกลายเป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมันจะคุ้มค่าหรือเปล่า
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปลี่ยนเป็นมังกร, คุณก็ไม่สามารถใช้พลังของมังกรได้ แต่คุณยังต้องควบคุมร่างกายของมัน ซึ่งคงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำ การไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้แบบปกติจะทำให้คุณกลายเป็นเป้าหมายได้ง่ายแม้กระทั่งกับพวกที่ไม่ใช่อาชีพสายต่อสู้
ในทางกลับกัน, ถ้าวีดเปลี่ยนรูปร่างเป็นกระต่าย เขาก็จะกลายเป็นมอนสเตอร์แสนน่ารักที่มีเลเวล 200
ในแง่บวกจะเห็นว่ามันเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากในการทำความเข้าใจในประติมากรรม
“แค้ก แค้ก แค่ก!”
ดาโรนก้มลงอีกครั้งและไอออกมาเป็นเลือดแยะมากมากขึ้น เขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้และกำลังจะจากโลกนี้ไป
“เจ้า...ข้ามีคำขอส่วนตัวถึงเจ้า”
“ข้ากำลังฟังอยู่”
“เจ้าสามารถช่วยข้าให้ทำงานประติมากรรมพวกนี้ให้เสร็จได้หรือไม่?ข้าเหลือเวลาอีกไม่มาก….”
“ข้ายินดีจะช่วย”
วีดอยู่ต่ออีกหนึ่งวันเพื่อดูแลดาโรน
ปรมาจารย์ทุ่มเทจิตวิญญาณของเขาในประติมากรรมชิ้นสุดท้าย ตลอดทั้งวันเขาไอไม่หยุดแทบจะไม่เว้นนาทีทำให้พื้นกลายเป็นสีแดงด้วยเลือด และท้ายที่สุดเขาก็ทำประติมากรรมชิ้นสุดท้ายสำเร็จ มันเป็นรูปหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง คนที่เขารัก
เขาวางมีดแกะสลักแล้วดาโรนก็กล่าวอย่างเจ็บปวด
“เอาล่ะ, เสร็จซะที จงไปลองทักษะต่างๆ อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ประติมากรแสงจันทร์จะเติมโตได้ก็ด้วยการเพิ่มพูนประสบการณ์”
“แน่นอน, ข้าจะปฎิบัติตามนั้น”
“ข้าภูมิใจที่ข้าได้ถ่ายทอดเคล็ดลับของข้าให้แก่ ‘ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน’ แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาชีพของเจ้านั้นแตกต่างจากประติมากรแสงจันทร์ปกติอย่างไร?”
“ไม่ ข้าไม่รู้”
วีดไม่รู้จริงๆ หลังจากที่เขาค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นเวลานาน, เขาก็ยังไม่สามารถค้นพบความแตกต่างระหว่าง ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน กับ ประติมากรแสงจันทร์
“อาชีพส่วนใหญ่จะถ่ายทอดจากอาจารย์ไปสู่ลูกศิษย์ เคล็ดลับของเหล่ามืออาชีพถูกส่งต่อให้เหล่ามือใหม่ ดังเช่นที่ครั้งหนึ่งมีราชา ผู้รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง อัศวินผู้ยกตนเองว่าเหนือใคร พ่อค้าผู้สร้างได้แม้แต่โชคชะตา
...พวกเขาเหล่านั้นมีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตำนาน…”
“งั้น...มันเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยม?”
วีดเคยคิดว่าเขาถูกหลอกให้ได้อาชีพนี้
และถ้าเขาคิดจะเปลี่ยนอาชีพในตอนนี้ เขาก็ไม่สามารถสลัดความหวังและความตื่นเต้นจากใจของเขาว่านี่เป็นอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์
“ตำนานก็คือตำนาน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น….” ดาโรนพูดเสียงแผ่วเบา
“…..”
“เป็นตัวเจ้าที่นำรุ่งโรจน์มาสู่อาชีพของเจ้า, ไม่ใช่อาชีพของเจ้าที่จะนำพาความยิ่งใหญ่มาสู่เจ้า…”
“…..”
เงินต่างหากที่วีดต้องการ, ไม่ใช่ความรุ่งโรจน์! ดังนั้นคำพูดของปรมาจารย์ทำให้เขาสับสน
“ทำไมมันหักมุมอย่างนี้ งั้น ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน ก็ไม่ได้ต่างอะไรนักกับ….”
มันคงจะดีกว่าถ้าวีดไม่รู้เรื่องนี้!
เขาอยากที่จะยังคงเหลือความหวังเล็กๆน้อยๆที่ว่าอาชีพในตำนานของเขาดีกว่าอาชีพทั่วไป
“ซาร่า….?” ดาโรนกล่าว
พร้อมกับมองไปยังข้างบน, เขาถอนหายใจเฮือกสุดท้ายและหายไปพร้อมแสงสว่าง
จุดที่เขาจากไป, เขาทิ้งรูปสลักไม้ขนาดเล็กไว้….
“งานแกะสลัก….มีเพียงคนรักในโลกใบนี้อย่างที่สุดเท่านั้นที่จะเหลืองานแกะสลักไว้เมื่อเขาจากไป…”
เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ที่วีดได้ผ่านมาการฝึกฝนมา วีดเริ่มที่ตระหนักถึงอาชีพที่เขาเลือกและทิศทางที่เขาต้องก้าวไป
การที่ได้เป็นประติมากรนั้นยังไม่เพียงพอ, คุณต้องใส่จิตวิญญาณลงไปด้วย แม้แต่สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆก็มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองและมันก็ถูกรับรู้ได้ก็เฉพาะผู้เชียวชาญที่แท้จริงเท่านั้น วีดเอาบล็อคไม้ออกมาแล้วเริ่มทำงานแกะสลักชิ้นใหม่ ที่สุดแล้ว, เขาเป็นเพียงคนเดียวได้เห็นวาระสุดท้ายของปรมาจารย์แกะสลัก ดาโรนและหากคนๆนั้นไม่ได้เป็นศิษย์ของเขาแล้วล่ะก็ ก็ไม่มีทางที่จะประทับภาพของเขาไว้ในความทรงจำ
ดิ๊ง!
มาสเตอร์พีช! คุณแกะสลักรูปของ ดาโรน ได้สำเร็จ
ประติมากรรมที่ทำโดยลูกศิษย์ที่อุทิศให้เปล่งประกายไปด้วยรักเช่นที่อาจารย์ของเขามี
แม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปแต่จิตวิญญาณของเขายังคงอยู่
คุณค่าทางศิลปะ: 2300
คุณสมบัติพิเศษ:
-ฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 50%ต่อวัน
-ต้านทานเวทมนตร์ 40%
-พละกำลังเพิ่มขึ้น 45%
-สเตตัสทั้งหมด +10
-สันติสุขก่อเกิดหากอยู่ในบริเวณที่มองเห็นรูปแกะสลักได้
-คุณสมบัตินี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับประติมากรรมอื่นได้
จำนวนผลงานมาสเตอร์พีชที่สร้าง : 2
ทักษะแกะสลักชั้นกลางไปถึงระดับ 8
ซึ่งช่วยให้คุณสร้างงานที่ละเอียดและปรานีตมากขึ้น
ทักษะงานฝีมือชั้นกลางไปถึงระดับ 9
เพิ่มความสามารถทักษะที่ใช้มือ 5%
จิตวิญญาณประติมากรรมชั้นเริ่มต้นขึ้นถึง ระดับ4
ยิ่งมีความเข้าใจและความรักในงานแกะสลักมากขึ้นเท่าไร, คุณสมบัติของงานแกะสลักก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น
-ชื่อเสียง +1350
- คิลปะ +79
- ความอดทน +3
- ความอึด +3
- ความเป็นผู้นำ +5
-ค่าสเตตัสทั้งหมด + 1 จากการที่สามารถสร้างงานระดับมาสเตอร์พีชได้
เล่มที่ 4 ตอนที่ 5 จบ
***************************************************************
คุยกันหลังจบเล่มกับ wink1188
รีดเดอร์หลายๆท่านอาจจะไม่ทันได้สังเกต รูปแกะสลักไม้ที่ดรอปตอนที่ ดาโรน จากไปนี่สำคัญมากๆนะครับ ผมเอาเนื้อหาการแปลจากเล่มที่ 1 ตอนที่ 9 มาให้อ่านอีกทีเพื่อทบทวนความทรงจำครับ
================================
โรดริเกวซ ยื่น รูปแกะสลักที่ทำจากไม้ขนาดพอดีมือให้ วีด รูปร่างของมันเหมือน อัศวินแห่งจักรพรรดิ (Imperial Knight)
"นี่คืออะไรครับ?" วีด ถาม
"มันคือมรดกตกทอดของ จักรพรรดิ เกอิฮา วอน อาร์เพน
บรรพบุรุษของข้าเคยรับใช้ราชวงศ์แห่งจักรวรรดิอาเพเนี่ยน(Arpenian Empire)
มันเป็นภาระหน้าที่ ที่สืบทอดผ่านมาตามสายเลือดของข้า
ซึ่งข้าคือผู้รับผิดชอบหน้าที่ดังกล่าวในยุคนี้...และตอนนี้ขอข้ามอบมันให้เจ้า
ในที่สุดข้าก็หลุดพ้นจากภาระนี้เสียที" โรดริเกวซ กล่าว
"แล้วมันเอาไว้ทำอะไรหรือครับ?"
วีด เคยได้รูปสลักไม้แบบนี้มา แล้วเมื่อครั้งเขาทำภารกิจของ ซาฮัป ผู้เป็นประติมากรแสงจันทร์ แม้มันจะรูปร่างแตกต่างกัน
"ข้าก็ไม่รู้ความลับของ รูปสลักไม้นี่เหมือนกัน แต่มีตำนานเล่าว่าเคยมีปรมาจารย์ด้านประติมากรรมห้าคนในผืนทวีป พวกเขามาแล้วก็ไปเหมือนสายลม รู้กันว่าพวกเขาจะทิ้งผลงานของตัวเองไว้ให้เป็นมรดก ดังนั้นข้าคิดว่ารูปสลักนี้น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น
แล้วตำนานยังบอกอีกว่า ถ้าสามารถรวมรวบรูปสลักทั้งห้าได้ครบและแก้ปริศนาของพวกมันได้ สุดยอดความลับของศาสตร์แห่งประติมากรรมจะปรากฎขึ้น แต่ก็นะ มันก็เป็นเพียงตำนานโบราณ"
================================
<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&n=a6753880' border='0' alt=''></a>
ขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณคร้าบบ
ตอบลบ