วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 5 ตอนที่ 9 หอเกียรติยศ (Hall of Fame)

เล่มที่ 5 ตอนที่ 9 หอเกียรติยศ (Hall of Fame)


ลี ฮุนรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่เช้า
เขาคาดไม่ถึงว่าบริษัท ยูนิคอร์นซึ่งเป็นผู้สร้าง รอยัลโรดจะส่งอีเมลล์ถึงเขา !
“เราขออนุญาตเชิญคุณมาเยี่ยมเยียนพวกเรา”
ข้อความนี้ถูกส่งมาโดยคุณชาง ยุน ซูหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่ตอนนี้เหลือเพียงวันเดียวก่อนศึกของออร์คและดาร์คเอลฟ์จะเริ่มขึ้น
 “ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วยสิ… แต่ก็คงต้องไปละมั้ง”
ลี ฮุนไม่อยากเปิดเผยชื่อจริง แต่ครั้งนี้เป็นการติดต่อโดยตัวแทนของบริษัทยูนิคอร์นเขาจึงไม่คิดอะไรมากนัก
เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่บริษัทยูนิคอร์นสร้างสรรค์เกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก พวกเขามักจะได้กำไรมหาศาลเสมอ ไม่เฉพาะค่าเข้าเล่นเกมส์ในแต่ละเดือนเท่านั้น ยังมีการขายการ์ตูน หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ แม้กระทั่งสวนสนุกที่สร้างโดยมีไฮไลท์เป็นตัวละครในเกมอันโด่งดัง
ถึงขนาดมีข่าวลือว่าบริษัท ยูนิคอร์นมีเงินสด (ไหลเวียน)มากที่สุดในประเทศ
แต่ธุรกิจของพวกเขาก็ไม่ได้ราบลื่นเสมอไป บริษัทยูนิคอร์นต้องผ่านวิกฤตการณ์หลายครั้งและยังมีการแข่งขันกันอย่างหนักหน่วงระหว่างผู้พัฒนาเกมด้วยกันเอง
เมื่อหลายปีก่อนเกมคอนทิเนนท์ ออฟ เมจิคได้ดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ของพวกเขาไป
จำนวนผู้เล่นเกมลดลงอย่างมโหฬารและพัดเอาเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้หายไปด้วย
ถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรที่พิเศษก็คงต้องลดจำนวนพนักงานและอยู่รั้งท้ายของอุตสาหกรรมเกมไปอีกนาน
และพวกเขาก็ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ –นั่นก็คือรอยัลโรด
โดยเปลี่ยนแปลงแนวคิดพื้นฐานที่สุดของระบบเสมือนจริงและกลับมาทวงตำแหน่งคืนไปได้ ทำให้พวกเขาโกยเงินได้มากมายมหาศาลกว่าที่เคยเป็นมา !
 “พวกเขาต้องการอะไรจากเรากัน…?  เราก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไรนิ คงต้องไปตามคำเชิญ”
ลี ฮุน ล้างหน้าและไปร้านซักรีดเพื่อเช่าเสื้อผ้า ในอดีตเขาเคยทำงานที่นี่ ทำให้ยืมชุดได้รวดเร็ว
เขาจ่ายเงิน เปลี่ยนชุดและเดินทางไปบริษัท ยูนิคอร์น
เขาต้องใช้รถไฟใต้ดินและต่อรถเมล์อีกหลายเที่ยวกว่าจะถึงสำนักงานใหญ่ มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานและซับซ้อน แต่สิ่งที่ทำให้ลีฮุนหงุดหงิดที่สุดคือมันเป็นการเดินทางที่สิ้นเปลือง
“เราต้องจ่ายอย่างน้อย 3000 วอนกว่าจะไปถึงที่นั่น”
ลี ฮุนวิตกมาก
ในชีวิตเขาไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายดาย!
เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เขาขายไอดีเกม คอนทิเนนท์ ออฟ เมจิคได้ แต่เงินที่ได้มากลับถูกเอาไปในวันรุ่งขึ้น
และความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญกว่าจะกลายเป็นประติมากรในที่สุด ไม่ต้องพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในการขายไอเทมดีๆ
“หวังว่าไม่ได้เชิญเราไปรับของที่ระลึกแล้วให้กลับบ้านหรอกนะ พวกเขาทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ควร…”
กิจกรรมสำหรับผู้เล่น! อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้
ลี ฮุนลงจากรถเมล์ สำนักงานใหญ่ของบริษัท ยูนิคอร์นตั้งอยู่บนถนนที่มีแต่ตึกระฟ้า มองเพียงครั้งเดียวก็รู้ว่ามีแต่ของแพงๆ ถนนเต็มไปด้วยรถนำเข้า(รถยุโรป)และผู้คนต่างใส่เสื้อผ้าราคาแพง
และอาคารของบริษัท ยูนิคอรน์ก็ดูโดดเด่นกว่าใครเพื่อน มันใหญ่กว่าอาคารอื่นๆถึง 4 – 5 เท่า จตุรัสเล็กๆหน้าอาคารก็เต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานบนม้านั่งที่สวยงาม
แถมยังมีนักข่าวห้อมล้อมมากมายแม้จะเป็นกิจกรรมที่ไม่สําคัญอะไรของบริษัทยูนิคอร์น
เสื้อผ้าธรรมดาของลี ฮุนเป็นแกะดำท่ามกลางคนอื่นๆ เขาใจฝ่อเล็กน้อยทำให้เขาไม่รีรอที่จะเดินเข้าอาคารไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อไปถึงประตูกระจกบานใหญ่ ยามเฝ้าหน้าประตูบอกให้เขาหยุด
“ขอโทษนะครับ คุณมีธุระอะไรที่นี่หรอครับ ?
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเราไม่อาจปล่อยให้ผู้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปภายในตึกได้ครับ”
“ผมได้รับเชิญจากคุณชาง ยุน ซู เขาเป็นหัวหน้าคนหนึ่งในแผนกประชาสัมพันธ์ ผมชื่อ ลี ฮุนครับ”
“รอผมตรวจสอบซักครู่นะครับ”
แม้พวกยามจะดูเหมือนนักเลงกล้ามโตแต่พวกเขาก็สุภาพกับลี ฮุนมาก
‘คงจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง…’
ขณะที่ลี ฮุนรออยู่ เขาได้ยินเสียงพูดคุยทางด้านหลัง เขากังวลมากว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปและค่าเดินทางที่จ่ายไปต้องสูญเปล่า
แต่พี่ยามก็กลับมาอย่างรวดเร็ว
 “เราตรวจสอบไปที่คุณชาง ยุน ซูแล้วครับ เขาไม่คิดว่าคุณจะมาได้เร็วขนาดนี้เขาจึงยังไม่ได้แจ้งพวกเรา  ขอโทษด้วยนะครับ”
“อ้อ โอเคครับ”
“แผนกประชาสัมพันธ์อยู่ชั้น 43นะครับ ยินดีต้อนรับครับ”
ลี ฮุนเข้าไปในลิฟท์และกดไปชั้น 43 ตลอดทางขึ้นเขากังวลว่าจะได้แค่ของที่ระลึก เป็นความกังวลที่โง่เง่า คนใหญ่คนโตขนาดนี้คงไม่รบกวนเชิญเขามาเพื่อของเล็กๆน้อยๆหรอก
ในสำนึกของคนทั่วไป แผนกประชาสัมพันธ์เป็นแผนกที่ค้ำจุนภาพลักษณ์ของบริษัท มันถูกแบ่งออกเป็นหลายแผนก และชาง ยุน ซูก็เป็นผู้นำคนหนึ่งของแผนกนั้นๆ แผนกงานโฆษณาระยะกลางจนถึงระยะยาวถูกจัดให้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของบริษัท
 “ท่านมาถึงชั้น 43 แผนกประชาสัมพันธ์ ยินดีต้อนรับค่ะ” – เสียงผู้หญิงดังออกจากลำโพง
ลิฟท์หยุดและประตูได้เปิดออก
 “ยินดีต้อนรับครับ ผมชื่อ ชาง ยุน ซู”
เขาพบกับหัวหน้าแผนกและพนักงานบางคน ชาง ยุน ซูนำลี ฮุนไปที่ห้องประชุม เลขาผู้ทำหน้าที่รับรองแขกถามลี ฮุนว่าต้องการดื่มอะไรไหม และเขาตอบกลับไปอย่างแน่วแน่ว่า
 “น้ำผสมน้ำผึ้งครับ” (สั่งของดีซะด้วย)
“เอ่อ … เกรงว่าจะไม่มีนะคะ”
“อืมม งั้นขอเป็นชาโสมละกันนะครับ”
เพื่อฟื้นฟูพลังงานและรักษาสุขภาพที่ดีเขาจึงเลือกแต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ถึงแม้คุณจะเล่นกีฬาก็ตามถ้าคุณทานอาหารไม่เหมาะสมคุณอาจจะป่วยก็ได้
โชคดีที่พวกเขามีชาโสม
หลังจากที่ได้รับชาและคุกกี้พวกเขาจึงเริ่มคุยกัน
ชาง ยุน ซูมีนิสัยเข้ากับคนได้ง่ายและมีมนุษยสัมพันธ์ดี เขาพูดเกี่ยวกับบริษัท ยูนิคอร์นและเป้าหมายของแผนกของเขาสั้นๆ เขาใช้ศัพท์เทคนิคหลายครั้งจนลี ฮุนเข้าใจได้ไม่มากนัก
“เราไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมดก็ได้ …” ลี ฮุนนึกปลอบตัวเอง
เหมือนกับการสนทนาทั่วๆไป คนที่รู้มากกว่าจะเหนื่อยก่อนและคนที่เมินเฉย(ไม่สนใจ)จะนั่งฟังสบายๆ เขาแค่นั่งรอจนกว่าพวกเขา(อีกฝ่าย)จะเผยวัตถุประสงค์เพื่อคำนวนผลได้ผลเสีย
‘ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้กำลังจะให้ของที่ระลึกกับเรา แล้วพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ ?’
สุดท้าย ชาง ยุน ซูก็เห็นว่า ลี ฮุนไม่ได้สนใจ เขาจึงย้ายไปที่ประเด็นหลัก
 “ตามที่คุณรู้ บริษัทของเรามีการแสดงวีดีโอของสุดยอดผู้เล่นบนเวปไซต์”
แน่ละ วีดรู้อยู่แล้ว เขาเคยเข้าไปดูตั้งสองสามครั้ง

หอเกียรติยศ (Hall of Fame) เป็นส่วนหลักส่วนหนึ่งบนเวปไซต์ มันบันทึกการต่อสู้ การผจญภัยของผู้เล่นที่ดีที่สุดใน รอยัลโรด การได้อยู่ในนั้นถือเป็นเกียรติอันสูงส่ง
 “มีผู้เล่นจำนวนมากต้องการเข้าหอเกียรติยศ แต่จำนวนที่แท้จริงจะถูกจำกัดโดยกฎของบริษัทเพราะยิ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์เข้าหอเกียรติยศมากเท่าไร ยอดวิวก็จะยิ่งกระจายตัวมากเท่านั้น ดังนั้นกฎของเราจึงอนุญาตเฉพาะผู้เล่นที่มีค่าชื่อเสียงมากกว่า 6000 หน่วยขึ้นไปที่จะได้แสดงในนั้น”
“หมายความว่าผมผ่านหรอ”
“ถูกต้อง คุณยอมแสดงบันทึกการเล่นเกมในหอเกียรติยศไหมครับ ? คุณจะต้องโพสท์บันทึกภารกิจหรือการต่อสู้อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แค่นี้ละ”
นั่นเป็นข้อเสนอที่คาดไม่ถึง
หอเกียรติยศจำกัดเฉพาะผู้เล่นลำดับสูงสุด 500 คนแรก หนึ่งในนั้นมีบาร์ด เรย์ที่มีเลเวลสูงที่สุดในเกม
แต่ลี ฮุนก็ไม่ได้สนใจมัน
“ผมไม่ได้มองหาชื่อเสียง และผมก็ไม่ค่อยชอบด้วยถ้าผู้คนในรอยัลโรดเริ่มจะจำผมได้”
“จริงหรือ ?”
ชาง ยุน ซูตาโต เป็นคำตอบที่เขาคาดไม่ถึงเลย ชื่อเสียงเป็นหนึ่งในความต้องการหลักของคนเรา !
แม้กระทั่งเป้าหมายหลักในเกมรอยัลโรด ก็เป็นการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และรวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว!
สำหรับเขาการที่ผู้เล่นปฏิเสธการกลายเป็นคนดังนั้นประหลาดมาก
 “คุณต่างจากคนอื่นๆมากทีเดียว …” ชาง ยุน ซูพูดด้วยความชื่นชม
“ที่ผ่านมาผมเคยเจอผู้เล่นสองประเภท หนึ่งพวกที่ต้องการรับรางวัลให้เหมาะสมกับความสามารถของตน สองพวกที่ชอบขอของรางวัล การแข่งขันระหว่างคน 500 คนนั้นยิ่งใหญ่มาก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะเลื่อนลำดับของตน แต่คุณเป็นคนแรกที่ผมไม่รู้ว่าจะจัดอยู่ในพวกไหนดี”
ลี ฮุนฟังอย่างเงียบๆ
 “เวรเอ้ย นี่เราเสียเงินเปล่าหรอเนี่ย …”
เขารู้สึกเสียดายอย่างท่วมท้น
แต่ชาง ยุน ซูพูดต่อไปว่า
 “ความจริง เมื่อคุณถูกจัดอยู่ในหอเกียรติยศ นอกจากชื่อเสียงแล้วคุณจะได้โบนัสเล็กๆน้อยๆ  เราจะจ่ายค่าธรรมเนียมให้จำนวนหนึ่งสำหรับการโฆษณาเกมรอยัลโรดให้ด้วย โดยค่าธรรมเนียมจะเปลี่ยนแปลงได้ตามความนิยมที่ได้รับ แต่โดยเฉลี่ยก็สองสามล้านวอนต่อเดือน”
 “คุณพูดว่าสองสามล้านวอนต่อเดือนหรอ ?” (เริ่มสนใจๆ)
“ใช่ครับ นั่นเป็นจำนวนที่คนส่วนใหญ่ได้รับ ตามที่คุณทราบมีผู้เล่นจำนวนมหาศาลที่เล่นรอยัลโรด    และหอเกียรติยศก็ค่อนข้างได้รับความนิยม เราจ่ายเงินเพื่อให้คุณโฆษณาเกมให้เรา เมื่อเทียบกับการโฆษณาผ่านสื่อใหญ่ๆแล้ว นี่เรียกได้ว่าเป็นแค่ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”
“…”
ชาง ยุน ซู โน้มน้าวลี ฮุนต่อไปอีก
“นี่คือโอกาสของคุณที่จะเป็นคนดังนะครับ ! เมื่อคุณได้รับความนิยมในหอเกียรติยศคุณจะได้รับความสนใจจากพวกสื่อและพวกเขาจะต่อสู้แย่งเอาคุณมาสัมภาษณ์ หลังจากนั้นคุณก็สามารถเรียกค่าตอบแทนการสัมภาษณ์ตามความเหมาะสมได้”
ในช่วงแรกของเกม การออกอากาศส่วนใหญ่อาศัยเพียงการผจญภัยของผู้เล่นที่มีเลเวลสูง แต่ผู้ชมเริ่มเบื่ออย่างรวดเร็วเพราะผู้เล่นที่เลเวลสูงสุดจะใช้เวลาทั้งหมดออกล่าและเพิ่มเลเวลของตนเอง มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นโชว์ดีๆ น่าติดตาม
หลังจากนั้นบริษัทที่ออกอากาศก็เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์และเริ่มเชิญเฉพาะผู้เล่นที่โดดเด่นซึ่งทำสิ่งที่สำคัญสำเร็จ และผู้ถูกเลือกส่วนใหญ่ก็มาจากหอเกียรติยศนี่เอง
 “บริษัทเราก็กำลังสนับสนุนแนวคิดนี้ครับ เราสร้างหอเกียรติยศเพื่อค้นหาวีรบุรุษที่แท้จริง    แต่ตอนนี้ผมกลับเจอผู้เล่นที่ไม่ต้องการสิ่งใดต้องการเพียงแค่สนุกไปกับเกมเท่านั้น ลี ฮุน ผมอยากจะพูดว่าคุณเป็นคนที่มหัศจรรย์จริงๆ”
“…”
ลี ฮุนมองไปรอบๆห้อง
พนักงานทุกคนในห้องประชุมก็กำลังมองเขาด้วยความชื่นชม
 “เขาปฏิเสธเงินและชื่อเสียงเหมือนกับมันไม่มีค่า …”
“คนอะไรกันเนี่ย!”
“เขาจะไม่มีวันตกเป็นทาสของเงิน”
พวกเขากระซิบกระซาบกัน
ลี ฮุน จับมือของชาง ยุน ซู โดยไม่สนท่าทางประหลาดใจ และพูดว่า :
“’งั้นคุณช่วยจัดให้ผมอยู่ในลำดับสูงสุดของหอเกียรติยศเลยได้ไหม ?”


***************************


หลังจากแขกรับเชิญที่ไม่ธรรมดาจากไป ห้องประชุมก็อยู่ในความเงียบ
ชาง ยุน ซูกำลังมองเหยือกชาโสมที่ว่างเปล่าและคิดไตร่ตรอง

 “เขาชื่อว่า ลี ฮุนสินะ …”
“มีอะไรผิดปกติหรือคะท่าน ?” ผู้ช่วยที่อยู่ใกล้ๆถาม
“ผมแค่เอาชายคนนี้ออกจากความคิดไม่ได้เลย”
โซ จุนฮี ทำงานในแผนกนี้มานานและเธอคิดว่าตัวเองรู้จักเจ้านายคนนี้ดีพอ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เข้าใจเขาเลย
ชาง ยุน ซูเป็นคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแผนการโฆษณาเกมรอยัลโรด เป็นเพราะเขาทำงานอย่างหนักจึงทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
คำโฆษณาที่ว่า “เกมที่คุณกลายเป็นจักรพรรดิได้” ก็คิดขึ้นโดยชาง ยุน ซู และมันเป็นคำที่สั่นสะเทือนการพัฒนาของบริษัทอย่างรุนแรง
และตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาคิดไม่ตกหลังจากพบกับคนทั่วไป
 “นี่ดูไม่เหมือนคุณเลย เป็นครั้งแรกที่คุณให้ความสนใจผู้เล่นทั่วไปมากขนาดนี้
“ผมเหรอ ก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ? ”
ชาง ยุน ซู ส่ายหัวและส่งเอกสารให้เธอ
“ลองอ่านดู เดี๋ยวคุณจะเข้าใจเอง”
โซ จุนฮี อ่านเอกสารอย่างละเอียด มันเป็นเอกสารของลี ฮุน
รอยัลโรด มีความภูมิใจระบบรักษาความปลอดภัย แม้แต่ระดับผู้จัดการของบริษัทยูนิคอร์นก็ยังไม่สามารถดู เลเวล อาชีพ ทักษะและไอเทมของผู้เล่นได้
ในเอกสารของลี ฮุน มีข้อมูลเพียงบรรทัดเดียว ตัวอักษรสีดำบนกระดาษสีขาวบอกเพียงวันที่ที่เขาเริ่มเล่น
ลี ฮุนลงทะเบียนเกมรอยัลโรดเมื่อ 9 เดือนก่อนพอดี
“ฉันไม่เชื่อมันเด็ดขาด ! เขายังลงทะเบียนไม่ถึงปีเลยหรอเนี่ย ?! –โซ จุนฮีอุทานด้วยความตกใจ
พนักงานทุกคนในแผนกมองมาที่พวกเขาด้วยความสนใจ
 “ก่อนที่ผมจะเจอเขาผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน มันไม่น่าเชื่อเพียงแค่ 9 เดือนก็ทำให้ค่าชื่อเสียงอยู่ในระดับ 500 คนแรกได้”
 “ไม่น่าเชื่อ …”
“ใน 9 เดือนนี้ เขาเอาเวลาเกือบทั้งหมดเล่นรอยัลโรด” ชาง ยุน ซูพูดเบาๆ
นั่นเป็นคำที่ทำให้โซ จุนฮีโมโห
ตั้งแต่เกมเปิดตัวเธอก็เล่น รอยัลโรดทุกเย็นหลังเลิกงาน เธอลงทุนไปค่อนข้างมากทำให้สามารถซื้อไอเทมดีๆจากการประมูลได้ ด้วยอาชีพวิซาร์ดเธอออกล่าและทำภารกิจอย่างต่อเนื่องแต่เธอก็ยังมีค่าชื่อเสียงแค่ 2500 กว่าหน่วยเท่านั้น
 “แม้คุณจะขยันขนาดไหน ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าคุณจะได้รับค่าชื่อเสียง”
“ถูกต้อง”
“บางคนถึงขนาดทิ้งความสวยของตัวเองเพียงเพื่อจะอดหลับอดนอนเล่นเกม…”
“นั่นแหละที่ทำให้น่าสนใจ”
“อะไรเหรอคะ ?”
“ผมแทบรอไม่ไหวที่จะรู้อาชีพหรือภารกิจที่เขาทำ อีกหนึ่งอาทิตย์วีดีโอจะถูกปล่อยออกมา แล้วเราจะได้รู้กัน”
ชาง ยุน ซู บิดมือเพื่อคลายกล้ามเนื้อแล้วหัวเราะด้วยความผ่อนคลาย
 “คุ้มจริงๆที่เลือกอาชีพนี้ นานมาแล้วที่ไม่มีอะไรทำให้ผมสนใจได้”


**********************************


เป็นไปตามที่ออร์คอาวุโสพูด เมื่อ 10 ตะวันและ 10 จันทราผ่านไปวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันที่ศึกใหญ่มาถึง !
 “ชวิค !”
“ชวิคค !”
“ชวิชวิค !”
วีดและออร์คตัวอื่นๆกำลังมองดูป้อมปราการของดาร์คเอลฟ์
“รุ่งอรุณซ่อนอยู่หลังภูผา ตะวันสีแดงกำลังสาดส่อง ลมอันบ้าคลั่งกำลังพัดหวน ชวิชวิท เมฆทะมึนกำลังเคลื่อนผ่านท้องฟ้า ราวกับรู้ว่ามีสงครามใกล้เข้ามา ในการศึกกับพวกดาร์คเอลฟ์ข้าจะสู้ในทัพหน้าเอง ชวิค !”
ด้วยเท้าข้างหนึ่งที่วางบนก้อนหินและหน้าอกที่พองออก วีดกำลังอ่านสุนทรพจน์ของเขาอยู่ !
 “ในแสงยามเช้านี้ข้ารู้สึกถึงความหวัง ชวิชวิค ความกล้าของพวกเราและความกระหายเพื่อชัยชนะ             จิตวิญญาณบรรพบุรุษของพวกเรา จิตวิญญาณของเรา ชวิคคค !  
ข้าต้องการร้องเพลง ! ดาร์คเอลฟ์แข็งแกร่งแต่พวกเราจะสู้ด้วยบทเพลงในใจของพวกเรา ด้วยบทเพลงแห่งชัยชนะ จะไม่มีใครหนีรอดและเราจะชนะศึก !”
วีดกำลังสร้างบรรยากาศโดยการอ่านสุนทรพจน์ ถ้าวีดีโอถูกปล่อยออกไปในหอเกียรติยศมันต้องไปถึงผู้เล่นจำนวนมาก เขาต้องสร้างภาพพจน์ในแง่บวก
แต่เขากำลังพูดโดยอยู่ในร่างของออร์ค ด้วยเขี้ยวอันมโหฬารและหน้าตาสุดบรรยาย เขาจึงไม่อาจทำให้มันฟังดูลึกซึ้งเข้าถึงอารมณ์ได้
เขาอยากจะใส่กลอนลงไปในสุนทรพจน์ แต่เขาก็ไม่รู้จักกลอนเลยสักบท
“ชวิชวิคค ! นั่นคือโชคชะตา !”
วีดพูดคำนั้นออกมา
แล้วหันไปที่ดูป้อมปราการ
เมื่อคืนมีฝนตกเล็กน้อยและภูเขาถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา นกที่งัวเงียแต่ก็หิวแล้วกำลังบินไปบินมาระหว่างต้นไม้ อีกไม่นานพระอาทิตย์จะส่องเต็มแสงและอุณหภูมิจะสูงขึ้น  แต่ตอนนี้ยังหนาวอยู่
“ฮัด-เช้ย ! ชวิค !”
ขนาดออร์คหนังหนาๆยังต้องจำนนต่อสภาพอากาศ วีดมีผ้าคลุมที่ห่อรอบเขาไว้แน่น แต่ออร์คตัวอื่นมีเพียงเสื้อเกราะ
วิหารของพวกเนโครแมนเชอร์ตั้งอยู่บนยอดสุดของภูเขา หน้าผาที่อยู่รอบๆค่อนข้างยาวและมีทางเดียวไปถึงประตูซึ่งสามารถผ่านเข้าไปในสิ่งก่อสร้างของดาร์คเอลฟ์ได้ แต่มันถูกล้อมไว้ด้วยกำแพงที่มีความสูงถึง 7 เมตร
พวกดาร์คเอลฟ์เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเวทมนต์ธาตุ และมันช่วยให้พวกเขาตั้งป้อมปราการที่ไร้เทียมทานขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้นที่ฐานของกำแพงยังมีควันสีน้ำเงินเข้มหมุนวนอยู่ ซึ่งไม่น่าใช่สิ่งดีแน่ ขณะมองดูป้อมปราการวีดเห็นนกที่ไม่ระวังบินเข้าไปในกลุ่มควันนี้และเมื่อผ่านไปสักพักมันก็ตกลงมาตาย
และสุดท้ายก่อนจะได้แตะกำแพงก็มีเหล่าดาร์คเอลฟ์ที่กำลังง้างธนูอยู่ พวกมันเห็นออร์คมานานแค่กำลังรอดูว่าพวกออร์คจะทำอะไรบ้าง ถ้าพวกเขาเข้าไปใกล้คงต้องเจอธนูเอลฟ์ระดมยิงเข้าใส่
 ‘การจะไปถึงวิหารของพวกเนโครแมนเชอร์เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นรกมากๆ เราต้องทำไงถึงจะไปถึงป้อมได้นะ ?’
ข้างๆวีดมีออร์คใต้บัญชา อยู่ 20,000 ตัว แต่บนกำแพงก็มีดาร์คเอลฟ์ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตน ! แม้ออร์คกับดาร์คเอลฟ์จะมีความแข็งแกร่งพอๆกัน แต่ในกรณีล้อมโจมตีเป็นที่ชัดเจนว่าฝ่ายดาร์คเอลฟ์ซึ่งเป็นฝ่ายตั้งรับได้เปรียบเป็นอย่างมาก
 “คาริชวิ (ชื่อออร์คของวีด)  พวกเราเชื่อในตัวท่าน ชวิค !”
ผู้อาวุโสตบบ่าให้กำลังใจวีด
 “ข้ารู้ เราต้องชนะแน่นอน”
“ข้าเชื่อท่าน ชวิชวิท แต่วันนี้ต้องชนะนะ !”
“เอิ่มม … มันหมายความว่าภายในวันนี้หรอ ? ชวิค !”
“ใช่ เราไม่มีเสบียง ชวิชวิชวิ”
“…”
พวกออร์คโง่ ! มีออร์คมากกว่า 20,000 ตัวมารวมตัวกัน แต่ไม่มีซักตัวที่คิดจะนำเสบียงอาหารมาเลย
 ‘อาหารก็เราไม่มี แถมนักรบครึ่งนึงก็เป็นหวัดอีก …’
วีดอยากจะวิ่งหนีไปไกลๆ แต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะออร์คทุกตัวกำลังมองดูผู้บัญชาการคนใหม่อย่างเลื่อมใส
‘เวรเอ้ย … แบบนี้ตูได้ตายที่นี่แน่’
ระหว่างการทำภารกิจนี้ มีหลายครั้งที่วีดเฉียดตาย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเขาต้องล้มเหลวเป็นแน่ เขามองไม่เห็นทางออกจากสถานการณ์เช่นนี้เลย
 “ถ้าเราต้องตาย อย่างน้อยเราก็ตายอย่างมีจุดหมาย …”
วีดเงยหน้ามองรอบๆ เขารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ แม้จะไม่มีลมพัดแต่ต้นไม้ด้านหลังเขากลับกำลังสั่นไหว
เมื่อมองดูดีๆ วีดก็เห็นเป็นพวกออร์คจำนวนมหาศาลกำลังเดินออกมาจากป่า
“ชวิค ! ออร์คจากเผ่า ชวิบาร์มาถึงแล้ว”
หัวหน้าเผ่าชวิบาร์นำออร์คอีก 10,000 ตัวมาสมทบ และนี่ยังแค่เริ่มต้น วีดมองไปที่แห่งหนึ่ง แม้จะอยู่ไกลแต่ก็เห็นว่าต้นไม้กำลังสั่น
“คาริชวิ ข้านำนักรบมาสมทบอีก 20,000 นาย !”
“เผ่าโฮลชวิ ส่งมา 15,000 นาย !”
วีดยืนด้วยความหวังที่เพิ่มมากขึ้นจากการมาของกองกำลังสมทบ ป้อมปราการของดาร์คเอลฟ์ตั้งอยู่ใกล้ๆกับยอดเขา และจากทุกๆด้านมีกองทัพออร์คกำลังใกล้เข้ามา วันนี้มีออร์คจำนวนมากมารวมตัวกันในเทือกเขายุโรกิ
 “ชวิค ! ชวิท !”
วีดทำเสียงพ่นลมจากจมูกโดยไม่ตั้งใจ
กองทัพออร์คดูราวกับคลื่นยักษ์สึนามิ มีทั้งพวกออร์คหนุ่มและออร์คแก่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกออร์คที่เคยผ่านศึกมาแล้ว และทุกๆคนมาร่วมสู้ศึกนี้ข้างๆเขา ผู้นำกองทัพออร์ค 20,000 ตัว !
 “บารานชวิ ส่งมา 8,000 นาย ชวิชวิชวิท”
“เกอร์เบจ ส่งมาทุกคน 9,000 นาย !”
“แซลชวิ และนักรบนับพันมาถึงแล้ว !”
ผู้นำสารจากทุกๆเผ่า ทยอยส่งข่าวมาอย่างต่อเนื่อง
บางเผ่าก็เคยต่อสู้กับดาร์คเอลฟ์หลายครั้งแล้ว เห็นได้จากรอยไหม้และแผลเป็นที่เกิดจากเวทมนต์และลูกธนูของดาร์คเอลฟ์
กองทัพของหัวหน้าเผ่า 25 เผ่ากำลังจะร่วมกันเข้าถล่มป้อมปราการ แม้จะมี 5 เผ่าที่ไม่ได้มาแต่พื้นที่รอบๆหมู่บ้านดาร์คเอลฟ์ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยออร์ค
เผ่าสุดท้ายมาถึงเมื่อพระอาทิตย์ตั้งฉากกับศีรษะ (เที่ยงวัน) จำนวนของออร์คมีมากกว่า 400,000 ตัว
ทั้งฝูงทำเสียงดัง เคาะเสื้อเกราะ อาวุธและตะโกนด่าทอฝ่ายตรงข้าม   ด้วยออร์คนอกกำแพงจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ทำให้ดาร์คเอลฟ์กังวลอย่างหนัก  ตอนนี้พวกเขาดูไม่ผ่อนคลายเหมือนตอนเช้าแล้ว มีหลายคนที่เตรียมร่ายเวทและหน่วงให้พร้อมยิงได้ทันที
หัวหน้าเผ่าบูชวิ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเข้ามาหาวีดอย่างมั่นใจ
“คาริชวิ ข้าเคยได้ยินถึงความกล้าหาญของท่าน ชวิค !”
“ขอบคุณ ชวิค !”
บูชวิ เป็นออร์คที่แข็งแกร่งมาก ช่วงสั้นๆที่วีดอยู่ในหมู่บ้านวีดเคยได้ยินเรื่องของนักรบผู้น่าเกรงขามหาญกล้าต่อสู้กับไวเวิร์น
หัวหน้าเผ่าออร์คพูดต่อ :
 “พวกเราต้องการให้ท่านสั่งการการโจมตี ชวิชวิชวิค !”
“ท่านแน่ใจหรือ ชวิค !”
“แน่ใจ, ท่านสมควรได้รับ ชวิค ! นี่เป็นประเพณี เมื่อออร์คที่น่ากลัวที่สุดนำทัพศัตรูก็จะหนีไปด้วยความกลัว”
แม้วันนี้จะมีออร์คถึง 400,000 ตัว แต่ก็ไม่มีใครหน้าตาน่ากลัวเท่าวีด
เขาสร้างรูปสลักที่หน้าตาประหลาดและดูคุกคามเกินไป หน้าตาของวีดก็เลยเล่นกลใส่เขาอีกครั้ง
เมื่อเห็นวีดสับสน บูชวิจึงหัวเราะอย่างเป็นมิตร
 “นี่เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ ชวิค ! ข้าอิจฉาท่าน ไปเถอะ”
“…”
หลังจากได้รับคำบอกจากออร์คที่น่าเกรงขาม วีดยืดตัวขึ้นตัวด้วยความภาคภูมิใจ รอบๆตัวมีหัวหน้าออร์คและออร์คอื่นๆกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่ เขายกดาบขึ้นและเริ่มตะโกน :
 “ออร์ค ! ออร์ค ! ออร์ค !”
“ออร์ค ! ออร์ค ! ออร์ค !”
ออร์ค 400,000 ตัว ตะโกนตามเขา เทือกเขาเต็มไปด้วยเสียงตะโกน พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน
“ออร์ค ! ออร์ค ! ออร์ค !”
“ออร์ค ! ออร์ค ! ออร์ค !”
วีดตะโกนดังขึ้นไปอีก พวกออร์คก็เพิ่มเสียงเช่นกัน
เมื่อความดังขึ้นถึงจุดสูงสุด วีดเหวี่ยงดาบอย่างเกรี้ยวกราดและ ประกาศ :
 “เราจะขยี้พวกมันทุกตัว ! ชวิคคคคคคคคค !”
“โก ! โก ! โก !”
ออร์คพุ่งไปหาป้อมปราการของดาร์คเอลฟ์ราวกับหิมะถล่ม


เล่มที่ 5 ตอนที่ 9 : จบ


*******************************


<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

3 ความคิดเห็น: